ในยุคปัจจุบันที่เหล่ารถสปอร์ตไบค์พิกัด 250-400cc กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากราคาที่จับต้องง่าย และพละกำลังที่อยู่ในจุดสมดุลระหว่าง แรง กับ เป็นมิตรต่อความรู้สึกผู้ขี่นั้น เพื่อนๆทราบกันหรือไม่ว่าแท้จริงแล้วรถมอเตอร์ไซค์กลุ่มนี้นั้นเคยมี “ยุคทอง” ของมันอยู่ นั่นก็คือช่วงปี 1980 ปลายๆ – 1990 กลางๆ
โดยสำหรับสปอร์ตไบค์พิกัด 250-400cc ยุคระหว่างปี 80’s – 90’s ถูกสร้างมาเพื่อทำตลาดรองจากพิกัดใหญ่สุดในขณะนั้นนั่นก็คือพิกัด 750cc และด้วยความที่กระแสความนิยมในการแข่งขันระดับ GP ถือว่าเข้มข้นมาก จึงส่งผลให้กระแสความต้องการรถมอเตอร์ไซค์สมรรถนะสูงของลูกค้าจึงมากขึ้นตาม สุดท้ายจึงกลายเป็นว่าเหล่าสปอร์ตไบค์พิกัดกลางยุคนั้นถูกอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีขั้นสุดชนิดที่แทบไม่น้อยหน้าพี่ใหญ่ 750cc และไม่มีค่ายไหนกั๊กของกันเพื่อนำออกมาวางจำหน่ายเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรกดิสก์คู่ สวิงอาร์มแขนเดี่ยว หรือไม่ก็สวิงอาร์มแขนคู่วัสดุอลูมิเนียม และอื่นๆอีกมากมาย
และไม่ใช่แค่เพียงชิ้นส่วนรอบคันตัวรถเท่านั้นที่ถูกนำเทคโนโลยีจากสนามแข่งมาใช้ เพราะเนื่องจากกฏหมายในยุคนั้นยังไม่ได้เข้มข้นเรื่องมลพิษมากมายนัก แถมยังระบุตัวเลขแรงม้าสูงสุดให้กับเครื่องยนต์ทั้งสองความจุไว้สูงมาก (สูงสุด 45 แรงม้า สำหรับเครื่องยนต์ 250cc และ สูงสุด 60 แรงม้า สำหรับเครื่องยนต์ 400cc) ทำให้เรดไลน์สูงสุดของเครื่องยนต์ประจำกายสปอร์ตไบค์แต่ละคันจึงพุ่งไปแต่ 18,000 รอบ/นาทีกันเป็นว่าเล่น (บางคันแตะ 20,000 รอบ/นาทีก็มีให้เห็น)
ดังนั้นในวันนี้เราจึงขอย้อนวันวานกันซักนิด ด้วยการรวมเอา 10 สุดยอดรถสปอร์ตไบค์พิกัด 250-400cc แห่งยุค 80’s – 90’s มาไว้ด้วยกัน ซึ่งจะมีคันไหนบ้างมาดูกันเลยครับ
HONDA VFR400R NC30 1989-1993
เครื่องยนต์ V4 ทำมุม 90 องศา ลำดับการจุดระเบิดแบบบิ้กแบง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดความจุ 399cc กำลังสูงสุด 59 แรงม้า ที่ 12,800 รอบ/นาที (เรดไลน์ 14,500 รอบ/นาที) โดดเด่นด้วยชุดเฟรม Double aluminum beam และสวิงอาร์มแขนเดี่ยว พร้อมน้ำหนักตัวรถที่เบาเพียง 165 กิโลกรัม
HONDA RVF400 NC35
ครื่องยนต์ V4 ทำมุม 90 องศา ลำดับการจุดระเบิดแบบบิ้กแบง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดความจุ 399cc แต่ถูกปรับชุดคาร์บูใหม่ให้เล็กลง เพื่อลดไอเสียจนทำให้กำลังสูงสุดลดลงเหลือ 53 แรงม้า ที่ 12,500 รอบ/นาที แต่ยังคงเอกลักษณ์เดิมๆของ NC30 อย่างสวิงอาร์มแขนเดี่ยวเอาไว้ แล้วปรับขนาดล้อหลังใหม่จากขอบ 18 นิ้ว เป็นขอบ 17 นิ้ว ส่วนชุดระบบกันสะเทือนหน้าใหม่ให้เป็นแบบหัวกลับตามแบบตัวแข่ง GP รวมถึงสัดส่วนโครงหลักใหม่เพื่อเสริมบุคลิคการเข้าโค้งให้ดียิ่งขึ้น
HONDA CBR400RR 1994
เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดความจุ 399 cc กำลังสูงสุด 59 แรงม้า 12,500 รอบ/นาที ปรับเปลี่ยนชิ้นโครงสร้างใหม่ทั้งหมดเพื่อลดจุดศูนย์ถ่วงให้ต่ำลงเมื่อเทียบกับตระกูล NC ส่วนน้ำหนักตัวก็เบากว่าเล็กน้อยที่ 163 กิโลกรัม
HONDA CBR250RR MC22
เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดความจุ 249 cc กำลังสูงสุด 45 แรงม้า ที่ 14,500 รอบ/นาที แต่สามารถลากรอบได้ยาวถึง 18,000 รอบ/นาที (ถ้าแอบเปลี่ยนกล่องไฟดีอาจจะมีลากถึง 20,000 รอบ/นาทีให้เห็น) ในขณะที่หน้าตาถือว่าไม่ได้หนีไปจาก CBR400RR มากนัก ส่วนน้ำหนักตัวก็เบาลงตามความจุมาอยู่ที่ 143 กิโลกรัม
YAMAHA FZR400 RR / SP 1989-1994
เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดความจุ 399 cc กำลังสูงสุด 59 แรงม้า ที่ 12,500 รอบ/นาทีสำหรับสเปคญี่ปุ่น และ 66 แรงม้า ที่รอบเดียวกันสำหรับสเปคยุโรป น้ำหนักตัวเพียง 160 กิโลกรัมเท่านั้น
YAMAHA FZR250R
เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดความจุ 249 cc กำลังสูงสุด 45 แรงม้า ที่ 14,500 รอบ/นาที (แน่นอนว่าเจ้านี่้ก็สามารถลากรอบสูงสุดได้ถึง 18,000 รอบ/นาทีเช่นกัน และหากใจถึงพอก็ปรับกล่องไฟให้ลากไปถึง 20,000 รอบ/นาทีได้หากม่กลัววาล์วยัน ขณะที่น้ำหนักตัวเบาเพียง 146 kg
SUZUKI GSX-R400R / SP 1990-1995
เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดความจุ 398 cc กำลังสูงสุด 59 แรงม้า ที่ 11,000 รอบ/นาที ปรับปรุงโครงสร้างตัวรถใหม่ด้วยการใช่พื้นฐานจากพี่ใหญ่ GSX-R750 มาพร้อมโช้กหน้าหัวกลับ และพกพาน้ำหนักตัวมาที่ 160 กิโลกรัม
SUZUKI GSX-R250 / R / R-SP
เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดความจุ 248 cc กำลังสูงสุด 45 แรงม้า ที่ 15,000 รอบ/นาที และสามารถลากรอบสูงสุดแตะ 18,000 รอบ/นาทีได้เช่นกัน และมีน้ำหนักตัวสุทธิที่ 138 กิโลกรัม
KAWASAKI ZXR400 / R 1991-1999
เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดความจุ 398 cc กำลังสูงสุด 59 แรงม้า ที่ 13,000 รอบ/นาที และ 65 แรงม้า ที่รอบเดียวกันสำหรับตลาดยุโรป มีน้ำหนักตัวสุทธิที่ 159 กิโลกรัม
KAWASAKI ZXR 250 R
เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดความจุ 248 cc กำลังสูงสุด 45 แรงม้า ที่ 16,000 รอบ/นาที ซึ่งจะเห็นได้ว่ามันมีรอบแรงม้าสูงสดมากกวาใครเพื่อน ดังนั้นเรดไลน์ตั้งต้รที่ออกโรงงานมาจึงสูงถึง 19,000 รอบ/นาที แถมยังมาพร้อมกับโช้กหน้าหัวกลับ ในแบบที่เพื่อนร่วมคลาสคันอื่นไม่มี ส่วนน้ำหนักตัวโดยรวมก็อยู่ที่ 141 กิโลกรัม
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ มีรถคันไหนที่เคยเป็นหนึ่งในดวงใจของเพื่อนๆบ้าง คอมเมนท์กันเข้ามาที่หน้าเพจได้เลยนะครับ
อ่านข่าว Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าว Yamaha เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าว Kawasaki เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าว Suzuki เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ