ผ่านไป 1 สัปดาห์นับตั้งแต่มีที่ทาง Yamaha ได้ทำการเปิดตัวเจ้า MT-15 เป็นครั้งแรกแบบ World Premiere ระหว่างการแข่งขัน MotoGP ซึ่งเราก็ไม่รอช้าที่จะนำข้อมูลต่างๆของเจ้าน้องใหม่คันนี้ไปเทียบกับโฉมก่อนหน้าของมันอย่างเจ้า M-Slaz เพื่อให้เพื่อนๆได้ทราบถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
และในเมื่อมีการเจ้า MT-15 ไปเปรียบเทียบกับโฉมเก่าแล้ว การนำมันเปรียบเทียบกับ CB150R จาก Honda ที่ถือเป็นคู่แข่งสายตรงก็คงเป็นอะไรที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นเราก็มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
เครื่องยนต์
CB150R : 1 ลูกสูบ / DOHC / 4 วาล์ว / ระบายความร้อนด้วยน้ำ / 149.16cc
MT-15 : 1 ลูกสูบ / SOHC พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVA / 4 วาล์ว / ระบายความร้อนด้วยน้ำ / 155.09cc
เริ่มจากส่วนแรกก็คือเครื่องยนต์ ที่ทางแม้ฝั่งของ CB150R จะถือเป็นเครื่องบล็อคใหม่ที่ยกมาจาก CBR150R ของอินโดนีเซีย ซึ่งแรงกว่าของโฉมปัจจุบันที่ขายในไทย แต่อย่างในขณะเดียวกันทางฝั่งของ MT-15 เองก็ได้มีการเปลี่ยนเอาเครื่องยนต์บล็อคเดียวกับ YZF-R15 รุ่นล่าสุดที่นอกจาก cc จะเยอะกว่าแล้ว ยังมีระบบ VVA พ่วงมาด้วย ถึงแม้ว่าจะยังอิงพื้นฐานแคมเดี่ยวอยู่เหมือนเดิม จึงส่งผลให้หัวข้อต่อไปเห็นความต่างในเรื่องของกำลังชัดมาก
กำลังสูงสุด
CB150R : 17.1 PS ที่ 9,000 รอบ/นาที และ แรงบิดสูงสุด 13.7 Nm ที่ 7,000 รอบ/นาที
MT-15 : 19.3 PS ที่ 10,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 15.0 Nm ที่ 8,500 รอบ/นาที
จากข้อมูลก่อนหน้านี้จึงส่งผลต่อมาในเรื่องของกำลังสูงสุด ว่า Yamaha ทำการบ้านมาดีจริงๆ เพราะจะเห็นได้ว่า MT-15 มีแรงม้าเยอะกว่าคู่แข่ง 2 ตัว รวมถึงแรงบิดก็เยอะกว่า 1.3 นิวตันเมตร แต่ในขณะเดียวกันฝั่ง CB150R ที่แม้แรงจะน้อยกว่า แต่ก็มาไวกว่าอย่างเห็นได้ชัด เพราะแรงบิดมาไวกว่าถึง 1,500 รอบ/นาที (ซึ่งจากการที่เราได้เคยทดสอบทั้ง 2 โมเดลนี้มาแล้ว ก็พบว่าตีนต้นของ CB150R มาดีกว่าอย่างมีนัยยะสำคัญ แต่ก็เพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น อาจจะด้วยอัตราทดต่างๆที่ Yamaha ออกแบบไว้ ส่วนแรงปลายก็ตามตัวเลขทางเทคนิคที่ว่าไว้เลยครับ เพราะ MT-15 ปลายวิ่งกว่าจริงๆ)
ระบบส่งกำลัง
CB150R : คลัทช์เปียกซ้อนกันหลายแผ่น พร้อมเฟืองเกียร์ 6 สปีด
MT-15 : คลัทช์เปียกซ้อนกันหลายแผ่น พร้อมระบบสลิปเปอร์คลัทช์ พร้อมเฟืองเกียร์ 6 สปีด
ในส่วนของระบบส่งกำลังปกติแล้วจะไม่ค่อยมีส่วนได้ส่วนเสียระหว่างกันเท่าไหร่นัก เพราะที่ผ่านมาถ้าไม่ใช่รถมอเตอร์ไซค์ในกลุ่มแม่บ้าน ก็มักจะมีเฟืองเกียร์ 6 สปีดติดตั้งมาให้เป็นออพชันพื้นฐานอยู่แล้ว แต่ในครั้งนี้ทางฝั่ง Yamaha MT-15 ยังคงจัดจ้านกว่าเช่นเคย เพราะพวกเขาได้ทำการติดตั้งชุดสลิปเปอร์คลัทช์ที่ช่วยแก้อาการล้อสับตอนเชนจ์เกียร์ลงหนักๆมาให้เรียบร้อย ส่วนเจ้า Honda CB150R ยังคงไม่มีอะไรเด่น ณ จุดๆนี้
ระบบกันสะเทือน
CB150R : ด้านหน้า ตะเกียบคู่หัวกลับ ขนาดแกน 41 มิลลิเมตร / ด้านหลัง โช้กเดี่ยว และสวิงอาร์มเหล็กมวลเบา
MT-15 : ด้านหน้า ตะเกียบคู่หัวกลับขนาดแกน 37 มิลลิเมตร / ด้านหลัง โช้กเดี่ยวพร้อมกระเดื่องทดแรง และสวิงอาร์มอลูมิเนียม
ด้านระบบกันสะเทือนก็จะมีหน้าตาคล้ายกันในขั้นต้น คือด้านหน้าเป็นแบบโช้กหัวกลับกระบอกทองทั้งคู่ ส่วนด้านหลังก็เป็นแบบโมโนช็อคทำงานร่วมกับสวิงอาร์มอลูมิเนียม แต่ถ้าหากลงไปที่รายละเอียดอีกนิด จะเห็นได้ว่าโช้กหัวกลับของ CB150R มีขนาดแกนใหญ่กว่าอย่างเห็นได้ชัด (ซึ่งเอาจริงๆแล้วกับรถมอเตอร์ไซค์พิกัดนี้ไม่ได้ส่งผลในเรื่องการควบคุมขนาดนั้น และจะมีผลทางใจของผู้ใช้ซะมากกว่า) ขณะที่ด้านหลังตัว MT-15 จะได้เรื่องนี้ไปเพราะมีกระเดื่องทดแรงมาให้
ระบบเบรก
CB150R : ด้านหน้า ดิสก์เบรกจานเดี่ยว ขนาด 296 มิลลิเมตร พร้อมเรเดียลเมาท์คาลิปเปอร์ 4 สูบ / ด้านหลัง ดิสก์เบรกจานเดี่ยว ขนาด 220 มิลลิเมตร พร้อมคาลิปเปอร์ 1 สูบ และ มี ABS เป็นออพชั่นให้เลือก
MT-15 : ดิสก์เบรกจานเดี่ยว 267 มิลลิเมตร พร้อมโฟลทติ้งคาลิปเปอร์ 2 สูบ / ด้านหลัง ดิสก์เบรกจานเดี่ยว 220 มิลลิเมตร พร้อมคาลิปเปอร์ 1 สูบ
ต่อด้วยระบบเบรกซึ่งถือเป็นจุดที่ช่วยให้เจ้า CB150R แก้เกมกลับมาได้ เพราะทาง Honda ได้จัดเต็มมาให้ทั้ง เรเดียลเมาท์คาลิปเปอร์ 4 พอร์ท, จานเบรกขนาดใหญ่ขอบคลื่น, และยังมีออพชั่นเสริมเป็นระบบ ABS ให้ลูกค้าได้เลือกซื้อกันอีกด้วย ดังนั้นจุดนี้ค่ายปีกนกจึงได้คะแนนไปเต็มๆ
ชุดล้อ
CB150R : อัลลอยด์ผสม 5 ก้านตัว Y ด้านหน้า รัดด้วยยางไซส์ 110/70-17 / ด้านหลัง รัดด้วยยางไซส์ 150/60-17
MT-15 : อัลลอยด์ผสม 5 ก้านตัว Y ด้านหน้า รัดด้วยยางไซส์ 110/70-17 / ด้านหลัง รัดด้วยยางไซส์ 140/70-17
ด้านชุดล้อต่างก็เป็นแบบล้ออัลลอยด์ขอบ 17 นิ้วทั้งคู่ ซึ่งแม้ทางฝั่ง MT-15 จะมีการขยับไซส์ขึ้นมาจาก M-Slaz เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังใหญ่ไม่เท่ากับของ CB150R ที่เป็นไซส์ 150 อยู่ดี เรียกได้ว่าในมุมของระบบกันสะเทือนฝั่ง Honda เป็นต่อในทุกๆด้านจริงๆ (ภ้าไม่นับตัวสวิงอาร์มที่ไม่มีกระเดื่องทดแรงมาให้นะครับ)
มุมเรค/ระยะเทรล
CB150R : 25 องศา / 95.1 มิลลิเมตร
MT-15 : 25.7 องศา / 89 มิลลิเมตร
ด้านมุมเรคและระยะเทรลของทั้งสองคันนั้นจะเห็นได้ว่า ทาง Yamaha ยังคงตั้งใจให้ MT-15 มีบุคลิกที่หน้าไวไว้ก่อนตามฉบับ MT-Series เมื่อเทียบกับ CB150R ซึ่งจุดนี้ต้องเรียนตามตรงว่าจากประสบการณ์ของผู้เขียนที่ได้สัมผัสทั้งสองคันนี้มาพบว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ คือ MT-15 จะสามารถหักคอเลี้ยวรถได้ไวหรือง่ายกว่า CB150R อยู่นิดๆ
ระยะฐานล้อ
CB150R : 1,296 มิลลิเมตร
MT-15 : 1,335 มิลลิเมตร
ด้านระยะฐานล้อค่อนข้างน่าแปลกใจที่ฝั่ง CB150R นั้นมีระยะฐานล้อสั้นกว่า MT-15 ถึง 39 มิลลิเมตร ซึ่งในจุดนี้จะส่งผลตอนที่ต้องเลี้ยวโค้งแคบๆนั่นเอง (ถ้าฐานล้อสั้นจะสามารถใต้โค้งแคบได้ดีกว่าฐานล้อยาว แต่ก็แลกมาซึ่งความนิ่งตอนเปิดคันเร่งหนักๆที่ด้อยกว่า)
มิติตัวรถ (กว้าง x ยาว x สูง)
CB150R : 822 x 1,973 x 1,053 มิลลิเมตร
MT-15 : 800 x 1,965 x 1,065
และในส่วนของขนาดตัวรถนั้นจะเห็นได้ว่าฝั่ง CB150R มีทั้งความกว้าง และความยาวที่เยอะกว่า MT-15 อยู่พอประมาณ ซึ่งเอาจริงๆแล้วไม่ได้ส่งผลในเรื่องการใช้งานจริงเท่าไหร่นัก เพราะแม้ขนาดตัวของ CB150R จะดูหนากว่าก็จริง แต่โดยรวมก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่สามารถมุดช่องจราจรได้อย่างสบายๆอยู่ดี
ความสูงเบาะ
CB150R : 795 มิลลิเมตร
MT-15 : 810 มิลลิเมตร
ด้านความสุงเบาะของทั้งสองคันนี้นั้น เห็นได้ชัดเจนเลยว่าทาง Honda ได้ออกแบบให้ CB150R มีความเป็นมิตรต่อผู้ขี่ตัวเล็กมากกว่า Yamaha MT-15 ซึ่งจากการที่ผู้เขียนได้ลองนั่งคร่อมทั้งสองคันมาก็พบว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะผู้เขียนสามารถสัมผัสพื้นตอนนั่งบน MT-15 ด้วยปลายเท้าเท่านั้น ขณะที่ตัว CB150R จะเหยีบพื้นได้มั่นใจกว่า เพราะอุ้งเท้าสามรถสัมผัสกับพื้นได้พอดิบพอดี (ตัวผู้เขียนสูง 170 เซนติเมตร และหนักราวๆ 85 กิโลกรัม)
น้ำหนัก
CB150R : 123 กิโลกรัม (125 กิโลกรัม ในรุ่น ABS)
MT-15 : 123 กิโลกรัม
ด้านน้ำหนักตัวรถเมื่อรวมของเหลมนั้นถือว่าเสมอกันไปเพราะมีเลขเท่ากันเป๊ะ จะต่างกันก็แค่ในตัว ABS เท่านั้นที่มีน้ำหนักมากกว่าอยู่ 2 กิโลกรัม
จากทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามานี้ หากไม่นับรวมหน้าตาที่ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน จะเห็นได้ว่าในเรื่องของพละกำลัง ฝั่ง Yamaha MT-15 จะเป็นต่ออย่างมาก เพราะมีทั้งแรงม้า แรงบิดที่มากกว่า รวมถึงระบบส่งกำลังเองก็ยังจัดเต็มกว่า แต่ในขณะเดียวกันทางฝั่ง Honda CB150R นั้นก็จะได้เปรียบในเรื่องของ ระบบช่วงล่าง ที่ภาษีดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับชุดปั๊มเบรก และระบบ ABS ซึ่งงานนี้คงต้องแล้วแต่เพื่อนๆแล้วล่ะครับ ว่าจะถูกจริตคันไหนมากกว่ากัน กับราคาที่เฉียดแสนทั้งคู่ (เว้นรุ่น ABS) เพราะทั้งสองคันนี้ต่างมีส่วนได้ส่วนเสียกันอยู่คนละจุดต่างกันไปตามที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นนั่นเอง
ปิดท้ายด้วยตารางข้อมูลทางเทคนิคฉบับเต็มของทั้งคู่ครับผม
อ่านข่าวสาร Yamaha เพิ่มเติมที่ได้ที่นี่
อ่านข่าวสาร Honda เพิ่มเติมที่ได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ
