สองสามวันก่อนหน้านี้ทาง A.P. Honda ได้เชิญเหล่าสื่อมวลชนไปร่วมงานเปิดตัวเจ้าลิง Monkey 125 และมอเตอร์ไซค์แม่บ้านสุดคลาสสิค Super CUB C125 ที่ CUB House โชว์รูมคาเฟ่ต์แห่งใหม่ของทางค่าย ซึ่งนอกจากในงานจะมีการเปิดตัวทั้งสองโมเดลสุดคลาสสิคนี้ให้พวกเราได้สัมผัสกันตัวจริงกันแบบเต็มตาแล้ว พวกเขาก็ยังได้ทำการปล่อยชื่อรุ่นมอเตอร์ไซค์ทั้งหมด 8 คันที่จะเปิดตัวในงาน BIMS2018 ที่จะจัดขึ้นในอีกไม่ถึงสัปดาห์นับจากนี้อีกด้วย
สำหรับ 5 ใน 8 คันแรกซึ่งได้แก่ Monkey 125, Super CUB C125, PCX Hybrid, PCX EV และ All-New Forza 300 นั้นต่างก็เป็นรถที่เพื่อนได้เห็นข่าวกันมาพอสมควรบ้างแล้ว ดังนั้นในคราวนี้เราจึงขอนำรถมอเตอร์ไซค์อีก 3 รุ่นที่เหลือที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มมอเตอร์ไซค์ที่จะวางขายในโชวร์รูม BigWing ขึ้นไปทั้งสิ้นมาวิเคราะห์ความเป็นไปคร่าวๆก่อนเจอตัวจริงในงาน BIMS2018 อันได้แก่ All-New CB1000R, All-New Goldwing และ CRF1000L Africa Twin ‘Adventure Sports’
เริ่มจากคันแรก All-New CB1000R แน็คเก็ทไบค์เรือธงรุ่นใหม่ของค่ายปีกนก Honda ที่เลือกเกิดมาโดยฉีกดีไซน์แตนตอด ‘Hornet’ แบบสปอร์ตแน็คเก็ทเดิมๆที่เคยเป็นมาตลอด 10 กว่าปีทิ้งไป แล้วสวนทางด้วยการปรับรูปลักษณ์ใหม่ให้เป็นแบบ นีโอ-คลาสสิคไบค์เช่นเดียวกับน้องๆ CB150R, CB300R นั่นก็คือไฟหน้า LED โคมกลม บอดี้พาร์มจัดเส้นสายแบบคราฟท์ (ตามสโลแกนประจำตระกูล CB ยุคใหม่) แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ทิ้งเอกลักษณ์ดั้งเดิมที่บ่งบอกถึงความเป็น CB1000R นั่นก็คือเครื่องยนต์ 4 สูบเรียงที่ยกมาจากซุปเปอร์ไบค์ CBR1000RR และสวิงอาร์มหลังแขนเดี่ยวหรือโปรอาร์ม
สำหรับราคา CB1000R ที่เราคาดการณ์ไว้นั้นจากการประเมินคร่าวๆเมื่อเทียบกับราคาเปิดตัวในต่างประเทศมาบวกลบกับอัตราการบวกเพิ่ม (ภาษีนำเข้า, ภาษีศุลกากร, และอื่นๆ) ของบ้านเราคาดว่าจะอยู่ที่เฉียดๆ 6 แสนบาท ซึ่งน่าจะพอเหมาะพอเจาะแล้วที่จะแย่งชิงส่วนแบ่งจากคู่แข่งรายอื่นได้อย่างสูสี เพราะราคาค่าตัวแน็คเก็ทไบค์คลาส 1,000cc จากค่ายญี่ปุ่นตอนนี้อยู่ที่ราวๆ 5.9-6.2 ด้วยกันทั้งสิ้น จะเหลือก็แค่เพียงหน้าตาโดยรวมที่ไม่สามารถเทียบกันโดยตรงได้เพราะมันแปลกตาชาวบ้านเท่านั้น ซึ่งงานนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าจะมีลูกค้าคนใดบ้างที่ชอบในการออกแบบแนวทางนี้
ต่อไปก็เป็น All-New Goldwing ที่ถูกปรับโฉมกันยกใหญ่ทั้งดีไซน์โดยรวมให้มีความแหลมคมมากขึ้นจนผิดหูผิดตาชนิดที่ว่าแทบจะลืมความเป็นนกฮูกตาโตในโฉมก่อนหน้าได้สนิท ด้านเครื่องยนต์บอกเซอร์ 6 สูบขนาดความจุ 1,833cc ก็มีการปรับปรุงชุดใหญ่เพื่อให้ตัวรถมีความกระฉับกระเฉงมากยิ่งขึ้น และที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือการนำระบบกันสะเทือนหน้าแบบดับเบิ้ลวิชโบนมาใช้เป็นครั้งแรกของทางค่ายเพื่อเพิ่มสเถียรภาพในการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น
ส่วนราคา All New GoldWing ค่าตัวนั้นคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอีกเล็กน้อยจากเดิมที่ตั้งไว้ราวๆ 1.36 ล้าน (เทียบจาก GL1800 รุ่นท็อปสุดที่มีขายในตอนนี้) ไปหยุดอยู่ที่ 1.4 ล้านนิดๆไม่ขูดรีดกระเป๋าตังค์เพื่อนๆมากจนเกินไปแบบเอาแค่พอให้รู้ว่ามันมีการปรับโฉมแล้วเท่านั้น ทั้งๆที่จริงรายละเอียดภายในตัวรถมีมากกว่านั้นเยอะ
2018 Africa Twin Adventure Sports
ปิดท้ายด้วย CRF1000L Africa Twin รุ่นตกแต่งพิเศษ “Adventure Sport” ที่ได้รับการติดตั้งชุดอุปกรณ์เสริมมากมายจนทำให้ขีดความสามารถในการบุกตะลุยสูงขึ้นไปอีกระดับ ทั้ง วินชิลด์แบบใหม่ที่ปรับให้มีความสูงมากขึ้นกว่าเดิม, แครชบาร์ขนาดใหญ่ที่โอบล้อมช่วงหน้าตัวรถได้อย่างรอบทิศทาง, ไฟตัดหมอกคู่หน้า, การ์ดแครงก์ด้านล่างขนาดใหญ่, ปรับความหนาเบาะให้น้อยลงกว่าเดิมเพื่อชุดเชยกับความสูงโดยรวมของตัวรถที่ถูกยกขึ้นไปอีก 50 มิลลิเมตร, ถังน้ำมันขนาดใหญ่พิเศษความจุ 24.2 ลิตร (ของเดิมในรุ่นมาตรฐานจะอยู่ที่ 18.8 ลิตร) และอีกมากมาย
2018 Africa Twin Adventure Sports
สำหรับราคา Africa Twin “Adventure Sport” คร่าวๆที่เราคาดว่าทาง Honda จะปรับเพิ่มขึ้นมาตามความพิเศษน่าจะอยู่ที่ 7-8 หมื่นบาท ส่งผลให้ราคาน่าจะขยับไปอยู่ที่ 7 แสนกลางๆ ซึ่งยังถือว่าคุ้มค่าราคามาก เมื่อเทียบกับคู่แข่งจากค่ายอ่ื่นๆที่มีออพชั่นจัดเต็มเหมือนๆกันแต่ราคาป้วนเปี้ยนแถวหลัก 8-9 แสนบาท หรือเกือบๆล้านเข้าไปไกลทีเดียว
มารอลุ้นกันดีกว่าครับกับโมเดลของรถมอเตอร์ไซค์ Honda ทั้งหมด โดยเฉพาะทางฝั่ง BigBike ว่า ราคาจะออกมาใกล้เคียงกับที่ MotoRival เราคาดการณ์มากน้อยเพียงใด มารอติดตามไปด้วยกันครับ
อ่านข่าว BIMS2018 เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าว Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ
