เพื่อนๆเคยสงสัยกันมั้ยครับว่า ไอ้คำว่า “มุม Rake” กับ “ระยะ Trail” ที่เรามักพูดถึงตอนวิเคราะห์ข้อมูลทางเทคนิคตัวรถนั้นหมายถึงอะไร ?
หลายคนที่พอจะอ่านกันคร่าวๆหรืออ่านจากที่เราเขียนกันบ่อยๆในบทความเปรียบเทียบก็คงพอจะทราบว่ามันคือตัวเลขที่บ่งบอกถึงลักษณะนิสัย หรือความไวในการบังคับเลี้ยวของตัวรถ งั้นตัวเลขที่บอกทั้งองศาของมุม Rake และระยะห่างของ Trail นั้นวัดได้จากตรงไหนล่ะ ?
ดังนั้นในบทความนี้เราจึงจะพูดถึงวิธีการดูและวัดค่ามุมองศา Rake และระยะ Trail ของตัวรถกัน เพื่อให้เพื่อนๆได้เข้าใจกันว่าตัวเลขทั้งสองค่ามีที่มาอย่างไร เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
เริ่มกันที่มุม Rake ซึ่งในศัพท์ของรถยนต์มันคือคำว่า มุม Caster ที่มีความหมายในแบบที่ทุกคนเข้าใจว่า องศาแกนหมุนของล้อ โดยตัวแกนหมุนดังกล่าวในรถมอเตอร์ไซค์ของเราก็คือ แกนคอรถ ดังนั้นคำว่า มุม Rake จึงหมายถึงตัวเลของศาของแกนคอรถนั่นเอง
โดยวิธีการวัดองศาของมุม Rake จะอาศัยแกนแนวดิ่งจากพื้นโลกเป็นตัวอ้างอิง แล้ววาดองศาไปยังแนวที่แกนคอเบี่ยงหนีออกจากแกนดังกล่าว ก็จะได้ค่ามุม Rake ออกมาแล้วล่ะครับ
ต่อมาคือระยะ Trail ที่วัดได้จากความห่างระหว่าง “แกนล้อ” (วาดเส้นตรงลงมาตั้งฉากกับพื้น หรือว่าง่ายๆคือจุดที่หน้ายางสัมผัสถนนนั่นเอง) และ “ระยะจุดตัดที่ทางลงมาตามแนวแกนคอ” (ย้ำนะครับว่าแกนคอรถไม่ใช่แกนโช้ก) จะได้เป็นตัวเลขๆหนึ่งซึ่งบ่งบอกว่าจุดหมุนของแกนคอเรานั้นอยู่ห่างจากจุดสัมผัสพื้นของยางเราเท่าไหร่
และถ้าหากเพื่อนๆลองคิดตามกันอีกนิดจะเห็นได้ว่ามุมของแกนคอ หรือ Rake นั้นมีผลต่อระยะ Trail แบบแปรผันตามกัน กล่าวง่ายๆคือ ยิ่งมุม Rake เยอะ การกวาดของเส้นตัดแนวแกนคอกับ เส้นดิ่งเพลา(หรือจุดสัมผัสพื้นของหน้ายาง) จะห่างออกไปเรื่อยๆ และผลที่ตามมาของการเพิ่มมุม Rake และระยะ Trail ก็คือ ความหน่วงที่เกิดขึ้นขณะหักเลี้ยวสูงมาก เนื่องจากจุดหมุนของล้ออยู่ห่างจากจุดสัมผัสของหน้ายางนั่นเอง แต่ในขณะเดียวกันก็ช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการควบคุมหรือหน้านิ่งตลอดการขับขี่เป็นพิเศษ
ส่วนการลดมุม Rake และระยะ Trail จะให้ผลตรงกันข้ามกันทั้งหมด ดังนั้นเราจึงเห็นได้ว่าโดยปกติแล้วสำหรับรถสปอร์ตไบค์ส่วนใหญ่จะมีค่าของมุมดังกล่าวในช่วงใกล้ๆ 20 กว่าองศากันทั้งนั้น เพื่อความคล่องตัวในการหักเลี้ยว แต่ถ้าเป็นรถครุยเซอร์จะมีค่าตั้งแต่ 30 องศาไปจนถึง 45 องศาได้เลยด้วยซ้ำ เพื่อความมั่นคงขณะขับบนถนนหลวง
สำหรับการปรับเซ็ทค่า Rake และ Trail นั้น สามารถทำได้ง่ายๆด้วยการปรับความสูงต่ำของตัวรถด้านหน้า ยกตัวอย่างเช่นการโหลดหน้าลง จะทำให้มุม Rake ลดลง และระยะ Trail ก็จะลดลงตามส่งผลให้เวลาที่ขับขี่ตัวรถจะหน้าไวขึ้น แต่อย่าลืมนะครับว่ายังไงเราก็สามารถปรับได้แค่ระดับนึงเท่านั้น เพราะขอบเขตการยกสูงหรือโหลดต่ำด้วยโช้กหน้านั้นค่อนข้างน้อย
แต่ถ้าหากเป็นตัวแข่งในสนามล่ะก็ โครงหลักของรถมอเตอร์ไซค์พวกนี้จะออกแบบมาให้สามารถปรับองศาแผงคอได้โดยตรงซึ่งสะดวกอย่างมาก และไม่กระทบต่อความสูงของตัวรถมากมายนัก (หรืออาจจะไม่เคลื่อนเลยก็ได้)
อ่าน Tips Trick เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ
