หลังจากที่ GPX ได้เปิดตัวรถสไตล์สปอร์ต เน็คเก็ต ในล้อขอบ 14” สัญชาติไทย อย่าง GPX Demon 150 GN ที่ถือเป็นการกำเนิดรถสไตล์สปอร์ต เน็คเก็ต ในล้อขอบ 14” คันแรก ล่าสุดผ่านมาเพียง 1 ปี 8 เดือน GPX ก็ได้ทำการเปิดตัว 2018 GPX Demon 150GN ไมเนอร์เชนจ์ ปรับโฉมใหม่ ซึ่ง MotoRival เราขอมา รีวิว 2018 GPX Demon 150GN ให้รับชมกันดีกว่าครับว่า มันมีดีต่างจากตัวเดิมอย่างไร
สำหรับ 2018 Demon 150GN มากับ 4 สี ให้เลือก ได้แก่
สีแดง เฟรมแดง ล้อแดง, สีดำ เฟรมแดง ล้อแดง
สีน้ำเงิน เฟรมดำ ล้อทอง, สีส้ม เฟรมดำ ล้อทอง
ซึ่งคันที่ทีมงานเราได้มาทดสอบแน่นอนครับ ต้องเป็นสีไฮไลท์ อย่าง สีแดง แน่นอน
มาเริ่มกันที่ ไฟหน้ากรอบเดิม แต่อัพเกรดใหม่ จากเดิมที่เป็นไฟ LED เฉพาะ Day Light มาคราวนี้ยกมาทั้ง Full LED
ชิ่นพลาสติกบริเวณชุดแฟริ่งหน้า เปลี่ยนจากสีดำเงา เป็นลายเคฟล่า
ไฟท้าย และไฟเลี้ยวยังคงใช้ LED แบบเดิม
ชุดสีลายปีใหม่ 2018 รอบคัน
ชุดยึดพักเท้า เปลี่ยนจากสีเงิน เป็นสีเทาเมทัลลิก ดูเข้มดุ ยิ่งขึ้น
เบาะแยก 2 ตอนตามสไตล์รถ Sport ซึ่งเป็นเช่นเดียวกับ 150 GR และ 150 GN โฉมเก่า
เฟรมถักสีแดงเชื่อมรอบคัน ในตัวถังสี แดง และ สีดำ ถ้าเป็นตัวถังสี น้ำเงิน และ ส้ม จะใช้เฟรมสีดำ
ติดตั้งอกล่างมาให้ตั้งแต่โรงงาน เช่นเคย
ล้อลาย 5 ก้านคู่ ขนาด 14″ ทำสีล้อเป็นสีแดง ในตัวถังสีแดง และ ดำ ถ้าตัวถังสี น้ำเงิน และ ส้ม ใช้ล้อสีทอง
ท่อไอเสียทรงสั้นออกใต้ท้องรถตามสมัยนิยม
มาตรวัด Digital ปรับสีได้ 3 สี ได้แก่ ส้ม, แดง, น้ำเงิน พร้อมไฟบอกตำแหน่งเกียร์
ด้านใต้หน้าปัดมีช่องจ่ายไฟ USB สำหรับชาร์จโทรศัพท์ได้
มิติรถ 2018 Demon 150GN
| กว้าง x ยาว x สูง | 800 x 1,800 x 1,080 มม. |
| ความสูงจากพื้นถึงเบาะ | 770 มม. |
| ระยะห่างจากพื้นถึงเครื่อง | 200 มม. |
| น้ำหนักตัวรถ | 130 กก. |
ถังน้ำมัน 8 ลิตร วิ่งได้ระยะประมาณ 200 กม. + –
ในส่วนของท่านั่ง พบว่า
Demon 150 GN มีความสูงเบาะกำลังดี ขนาดความกว้างยังรองรับกับช่วงก้นเหมาะเจาะ ส่วนตำแหน่งพักเท้าต่ำ วางองศามาทางด้านหลังออกสปอร์ตหน่อยๆ แต่โดยรวมถือได้ว่านั่งได้ไม่เมื่อย
สำหรับเบาะคนซ้อนนั้นมีขนาดเล็กและปลายเชิด ดูเท่ดีแบบรถ Supersport และ Superbike แต่นั่นก็อาจต้องแลกมาด้วยความเมื่อยกันหน่อยเสียหน่อย หากผู้ซ้อนไม่ได้เป็นสาวตัวเล็กๆ
ขณะที่น้ำหนักตัว 130 กก. ซึ่งอาจจะดูหนักนิดตอนเข็นย้าย แต่เมื่อได้ลองขี่จริงแล้ว จะรู้สึกได้ทันทีเลยว่าน้ำหนักที่มากมายไม่ได้มีผลต่อการควบคุมหรือพลิกเลี้ยวตัวรถแต่อย่างใด
ตำแหน่งแฮนด์ทรงกลาง องศาแฮนด์ออกบิดเชิดไปด้านหน้าเล็กน้อย สไตล์แบบรถ Moto การควบคุมรถโดยรวม เลี้ยววงแคบ หรือลัดเลาะในเมืองคล่องแคล่ว ติดเพียงกระจกมองข้างเล็กน้อยที่อาจต้องเบี่ยงหลบกระจกรถยนต์เพียงนิดหน่อยเท่านั้น
มีจุดหนึ่ง คือ ประกับคันเร่ง ที่ดูจะทดมาน้อยไปหน่อย ทำให้เวลาจะกระแทกคันเร่งแบบบิดหมดปลอก เมื่อเราจับแบบ V-Grip แล้ว จะพบว่าข้อมือต้องหักลงมาสุด แต่ก็แลกมาซึ่งความเบามือทุกครั้งที่จะเปิดคันเร่ง
เพิ่มเติมจากการทดสอบใช้งานในช่วงฝนตก แอบพบว่าบังโคลนท้ายนั้นทางด้านข้างยังไม่ค่อยกันโคลนเท่าไร ยังมีน้ำดีดขึ้นมาทางด้านหลังพอสมควร
เครื่องยนต์ 1 สูบ พิกัด 150cc บล็อกเดิม มีการปรับจูนใหม่ พร้อมจับคู่เกียร์ 6 Speed (รวมถึงชุดสเตอร์หน้าหลัง) ของ GR มาใส่แทนของเดิม 5 Speed มาเริ่มลองกันเลยตั้งแต่ ออกตัวกำคลัทช์เข้าเกียร์ โดยรวมถือว่าดูดีขึ้น คันเกียร์ที่เดิมทีอาการแข็งมากใน 150 GN โฉมเดิม นั้น ใน 2018 Demon 150GN นี้ เราพบว่าใช้แรงน้อยลงในการเข้าเตะเข้าเกียร์ อีกจุดที่ทำได้ดียิ่งขึ้น คือ การหาตำแหน่งเกียร์ว่าง ก็สามารถหาได้ง่ายขึ้น สำหรับน้ำหนักของก้านคลัทช์ ยังถือว่าหนักไปหน่อยเมื่อเทียบกับรถ ระดับ 150cc ด้วยกัน
จุดที่ทำประทับใจขึ้นทันทีที่สัมผัส คือ อาการสั่นสะเทือนน้อยลงชัดเจน รู้สึกได้เลยว่า ขับแล้วลื่นขึ้น นอกจากนี้การส่งกำลังด้วยเกียร์ 6 Speed ทำได้ต่อเนื่อง และลื่นไหลดีกว่าเดิม แต่ในช่วงออกตัวที่รอบต่ำ อาจจะต้องรีดทอร์คลากรอบกันหน่อย เพราะพละกำลังจะมาในช่วงรอบเครื่องย่านกลาง – ปลาย (เทียบจากของเดิม)
ในด้านความเร็วปลาย Top Speed ทีมงานเราทดสอบไปได้ที่ระดับ 132 กม./ชม.
ขณะที่อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 26.4 กม./ลิตร กับการใช้งานใน กทม. ที่ขี่แบบไม่ได้เน้นประหยัดอะไร
ระบบกันสะเทือน โช้กหน้าแบบ UpSideDown จาก KYB แกนสีทอง
โช้กหลังเดี่ยว ทำมุมราว 60 องศา
โช้กอัพหน้าจาก KYB ยี่ห้อนี้ การันตีสมรรถนะ ความหนึบแน่น อาการช่วงล่างออกแน่นเฟิร์มติดแข็งเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับกระเด้งกระดอน และซับแรงได้ดีพอประมาณ ถือว่าอยู่ในเกณท์ที่ขี่สนุก เพราะสามารถรองรับการเบรกหนักๆ และพลิกรถไปมามากๆ
โช้กหลังเดี่ยวจากค่ามาตรฐานเดิมของโรงงานพบว่าขี่เดินทางคนเดียวกำลังดี สามารถเทคตัวออกจากโค้งได้อย่างมั่นใจ แต่ถ้ามีผู้ซ้อน 2 ก็จะพบว่ามันย้วยไปหน่อย ในจังหวะที่เจอพื้นผิวที่ Bumpy อาจจะมีอาการกระเด้งมากไปนิด
ขณะที่การควบคุมรถในการเข้าโค้ง โดยรวมถือว่านิ่งกำลังดี เนื่องจากฐานล้อที่ยาว 1,240 มม. แม้จะดูสั้นกว่าคู่แข่งในระดับ 150cc ด้วยกันก็ตาม
ระบบเบรก จานดิสก์เดี่ยวทั้งหน้า-หลัง
เบรกชะลอความเร็ว ถือว่าตอบสนองได้เพียงพอในการหยุดกำลังเครื่องระดับ 150cc เช่นนี้
สรุป รีวิว 2018 GPX Demon 150GN กับการปรับโฉม ไมเนอร์เชนจ์ ถือได้ว่า ไม่ได้เปลี่ยนแปลงแค่หน้าตาภายนอกนิดหน่อย แต่ขี่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในเรื่องของความไหลลื่น ของการส่งกำลังเกียร์ 6 Speed และอาการสั่นของเครื่องยนต์ที่ลดลง
กับค่าตัวแพงขึ้น 1,100 บาท เท่านั้น หากคุณมอง Sport-Naked ไบค์ไซส์เล็ก สักคัน ก็อย่าลืมลองสัมผัส 2019 GPX Demon 150GN คันนี้กันดูก่อนล่ะ
ขอขอบคุณ บริษัท จีพี มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด สำหรับรถทดสอบ 2019 GPX Demon 150 GN ราคา 60,900 บาท
ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver, Photos
อ่านข่าว GPX เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ
