รีวิว 2018 Honda Rebel 300 H2C ตัวแต่งหล่อ Bobber สาย Custom ที่เพียบพร้อมออกมาจากโรงงาน

All New Honda Rebel ได้ปรับโฉมใหม่อย่างเป็นทางการในช่วงปี 2017 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการปรับรูปแบบสไตล์ของรถจากครุยเซอร์ มาเป็นสไตล์ Bobber พร้อมมากับเครื่องยนต์ให้เลือกอีก 2 คลาส ทั้ง Rebel 500 และ Rebel 300 ซึ่งทั้ง 2 โมเดลนี้ ผลิตในประเทศไทย และส่งออกเป็น Global Model ผ่านมาปีเศษกับการเปิดตัวทำตลาดของ Rebel ถือได้ว่ามันเป็นการเปิดตลาดใหม่ในกลุ่ม Bobber ผู้ที่ชอบการ Custom รถอย่างมีสไตล์ โดยยังคงกลิ่นอายความคลาสสิก ซึ่งผู้ที่ชื่นชอบรถแนวนี้ และเน้นใช้งานทั่วๆไป ไม่เน้นความแรงมากมาย Rebel 300 ก็เพียงพอ สำหรับการซื้อมาใช้งานและ Custom ตกแต่งตามสไตล์คุณ

ในวันนี้ MotoRival เราขอพาทุกท่านมาชมกันกับ 2018 Honda Rebel 300 H2C สีใหม่ปี 2018 พร้อมกับของแต่งจาก H2C เพียบพร้อมติดตั้งหล่อมาจากโรงงาน ให้เพื่อนๆ ผู้สนใจได้รับชมกันครับ

รูปลักษณ์ Honda Rebel 300 H2C คันนี้ มีรูปลักษณ์ เหมือนกับ Honda Rebel 500 และรถตระกูล Rebel ถือเป็นรถมอเตอร์ไซค์สไตล์ Bobber ที่โดดเด่นด้วยสไตล์

ไฟหน้ากลม

ไฟท้ายทรงเหลี่ยม คงความเก๋าแนวคลาสสิก

ถังน้ำมันขนาดเล็กจุ 11.2 ลิตร

ยางไซส์ใหญ่ ด้านหน้าขนาด 130/90-16 และยางหลังขนาด 150/80-16

สำหรับตัวแต่ง H2C คันนี้ มากับสีตัวถัง Navy Bobber เป็นสีปีใหม่ 2018 พร้อมติดตั้งของแต่งมาให้ซึ่ง ประกอบไปด้วย

กันรอยถังน้ำมัน

ฝาปิดกระปุกน้ำมันเบรก

การ์ดหม้อน้ำ

พักเท้าแบบ Floor board

ตุ๊กตาแฮนด์

จุ๊บลม

ตัวล็อกหมวกกันน็อค Kitaco

ครอบแกนโช้กหน้า

Engine Guard

ฝาปิดน้ำมันเครื่อง

ปลอกแฮนด์สีน้ำตาล

แฮนด์บาร์ H2C

ชุดครอบข้าง Soft Emblem

มาตรวัดถ้วยกลม Full Digital บอกความเร็วเป็น กม./ชั่วโมง น่าเสียดายไม่มีมาตรวัดรอบเครื่องยนต์ ด้านซ้ายสเกลวัดน้ำมัน ขวาบนนาฬิกา ด้านล่างตัวเลขบอกจำนวนตัวเลขไมล์ที่วิ่ง สามารถเซ็ต Trip 1 และ 2 ได้ ในส่วนของรอบนอกด้านล่างจะเป็นไฟบอกเกียร์ว่าง ไฟเตือนน้ำมันเครื่องพร่อง ไฟบอกการทำงานของ ABS ด้านบน ไฟแสดงการใช้ไฟสูง และ ไฟเลี้ยว

สวิทช์ไฟซ้าย มีปุ่มไฟสูง-ต่ำ ซึ่งใช้เป็นไฟ Pass ได้ในตัว มอบความสะดวก

สวิทช์ไฟขวา ได้ติดตั้งไฟ Hazard มาให้ด้วย

สำหรับตำแหน่งรูกุญแจบิดสตาร์ทจะอยู่ทางด้านข้างซ้ายของตัวรถ ซึ่งจะแยกกันกับตำแหน่งล็อคคอ ที่จะอยู่ทางด้านขวาของแผงคอ

ด้านมิติรถ Honda Rebel 300 มีความสูงเบาะเพียงแค่ 690 มม. มี นน. ตัวที่ 170 กก. (Net Weight) ถือว่าตำแหน่งความสูงเบาะ เตี้ยตามแบบฉบับครุยเซอร์ และ Bobber ทั่วๆไป ขณะที่ นน.นั้นถือได้ว่า นน. ค่อนข้างเบา กับรถแนวนี้ มันมี นน.ตัวใกล้เคียงกับเพื่อนๆ รถ Sport คลาส 300cc ทั่วๆไป

ท่านั่ง+การควบคุม สไตล์เบาะแบบ Bobber เบาะนั่งเดี่ยว ตัวเบาะ นั่งได้นุ่มสบาย แต่ไม่สามารถเขยิบเลื่อนตำแหน่งได้เหมือน เบาะนั่งแบบยาวสไตล์ครุยเซอร์ ที่จะสามารถขยับก้นได้อิสระกว่า

ขณะที่เบาะผู้ซ้อนพื้นที่ดูจะเล็กไปเสียนิด ถ้าผู้ซ้อนเป็นสาวๆ ตัวเล็กก็คงไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

ตัวถังน้ำมันมีความเพรียวบางทำให้นั่งแนบเข่าได้ค่อนข้างกระชับ และทำให้ตัวรถมีความคล่องตัวพอสมควร แต่อย่างที่ทราบกันดีสไตล์รถ Bobber เพื่อความเท่ ผู้ขี่ควรจะต้องนั่งแบะขาตามสไตล์นักเลงมะกัน ไม่เน้นขี่หนึบถัง เพราะไม่เน้นความเร็ว

ท่าการควบคุม ตำแหน่งแฮนด์ ดูจะห่างไกลตัวไปนิด อาจต้องเอื้อมแขนออกไปมาก หน่อย หรือ ถ้าจะให้คุมวงเลี้ยวได้ง่าย อาจจะต้องนั่งเขยิบตัวเบาะเข้าหาถังน้ำมันมากขึ้น

เครื่องยนต์ความจุ 286cc. สูบเดี่ยว หัวฉีด PGM-Fi DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ บล็อกนี้ เรียกได้ว่าเป็นบล็อกอเนกประสงค์ของ Honda 300 Series โมเดลอื่นๆ จากการทดสอบผู้เขียนพบว่า แม้อัตราเร่ง และความแรงอาจไม่ได้ดูหวือหวา มีแรงดึงมากมาย แต่เมื่อใช้งานในเมืองแล้ว ถือว่าเพียงพอ จังหวะเร่งแซง หรือ ออกตัวมีกำลัง ให้คุณพุ่งออกตัวได้เร็วไม่แพ้รถคันอื่นๆ

ขณะที่การขี่เดินทางนั้น ความเร็วในระดับ 100-120 กม./ชม. ถือว่ากำลังเหมาะกับสไตล์รถเช่นนี้ ซึ่งไม่ต้องเครียดกับลมปะทะมากนัก แต่ในช่วงความเร็ว 130 กม./ชม.ขึ้นไป การเร่งแซงในช่วงนี้อาจจะพบว่ามาแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งจะว่าไปแล้ว รถสไตล์ Bobber เช่นนี้ ผู้ขี่อาจไม่ได้ต้องการความแรงมากนัก เนื่องจากคนขี่ส่วนใหญ่ มักจะเน้นความมีไลฟ์สไตล์

แต่ถ้าหากมันยังแรงไม่พอ คงต้องมองหา Rebel 500 ซึ่งดูน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับผู้ที่ต้องการความแรงควบคู่ไปด้วย

สำหรับระบบกันสั่นสะเทือน Rebel 300 เหมือนกันกับ Rebel 500

ด้านหน้าแบบ Telescopic Forks 41 มม. ระยะยุบให้เพิ่มขึ้นเป็น 121 มม.

ระบบกันสะเทือน ด้านหลัง Twin shocks ที่สามารถปรับได้ 5 ระดับ ยึดระหว่างตัวซับเฟรมและสวิงอาร์ม มีระยะยุบของตัวโช้กที่ 95 ม.ม. จากการทดสอบช่วงล่างถือว่าช่วงล่างนั่งได้สบาย แต่เมื่อ 2 ซ้อน อาจจะย้วยไปเสียนิด อาจต้องปรับความแข็งเพิ่มอีกหน่อย แต่หากขี่ทั่วไปเร็ว และเป็นการขี่ในเมืองที่พื้นราบเรียบแล้วก็ คงไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด ถ้าไม่ได้นำไปเข้าโค้งหนักๆ หรือ ขี่รูดเส้นทางที่ขรุขระ หรือ ขี่ผ่านทางรถไฟโดยไม่แตะเบรก

อย่างไรก็ดี แม้จะเข้าโค้งหนักๆ อาจจะไม่เหมาะ แต่ด้วยสไตล์รถ Bobber ที่เพรียว เบา เตี้ย จุดศูนย์ถ่วงต่ำ พักเท้าวางกลาง จัดท่าเข้าโค้ง ทำให้พลิกโค้งได้ง่ายดาย ไม่ยากเหมือนรถครุยเซอร์ขนาดใหญ่

ด้านระบบเบรก ABS ปั๊มเบรกหน้า-หลัง Nissin ระบบเบรกด้านหน้านั้นเป็นแบบจานเดี่ยวขนาด 296 mm ทำงานคู่กับคาลิปเปอร์ 2 ลูกสูบ

ด้านหลังเลือกใช้จานเบรกขนาด 240 mm ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์ 1 ลูกสูบ หยุดชะลอรถได้มั่นใจ และการันตีได้จากการใช้ปั๊มเบรกนี้ในคลาส 500cc ด้วย

สรุป Honda Rebel 300 H2C รถ Bobber สุดเท่ที่มาพร้อมของแต่ง สะท้อนไลฟ์สไตล์ ความมีตัวตนของนักบิดที่ฉีกกฎเกณฑ์ออกจากกรอบ เครื่องยนต์ 1 สูบเรียงขนาด 286cc กับน้ำหนักรถ 170 กก. กับการใช้งานในเมืองขี่หล่อเน้นเท่ ถือว่าเพียงพอ กับการใช้งานทั่วๆไป แบบเน้นความมีสไตล์ แต่ถ้าบิดออกเดินทาง ซึ่งไม่เน้นความเร็วมากนัก Rebel 300 ก็ยังถือว่าไปได้อย่างไม่ยากเย็น แต่หากคุณเป็นผู้ชื่นชอบในสมรรถนะของการขี่แล้วด้วย รวมถึงชอบออกทริปไปกับกลุ่มเพื่อนๆ Bigbike ขนาดใหญ่ล่ะก็ ตัวเลือกอย่าง Rebel 500 ก็อาจเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์กว่า อย่างไรก็ดี Rebel 300 ถือได้ว่าเป็น Bobber ที่คุณสามารถใช้งานได้จริงในทุกๆวัน เซอร์วิส ดูแลรักษาง่าย เพียงเข้า Wing Center ซึ่งมีสาขามากมายทั่วประเทศ พร้อมทั้งยัง Custom ตกแต่งหล่อได้หลากหลายสไตล์ อุปกรณ์ของตกแต่งก็มีให้ครบครันอีกด้วย

Honda Rebel 300 H2C สี Navy Bobber มีราคาจำหน่ายที่ 1.45 แสนบาท โดยโฉมตัวแต่ง H2C ซึ่งจะมีของแต่งทั้งหมด 14 ชิ้น คิดมูลค่ารวมทั้งหมดอีก 15,160 บาท