Royal Enfield ประกาศตัวเลขการลงทุนมูลค่า 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับปีงบประมาณ 2561-2562

0

รอยัล เอนฟิลด์ ผู้นำตลาดรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิคขนาดกลางสายพันธุ์อังกฤษระดับโลกประกาศตัวเลขค่าใช้จ่ายในการลงทุน (Capital Expenditures) สำหรับปีงบประมาณ 2561-2562 (ตั้งแต่เดือนเมษายน 2561 ถึงมีนาคม 2562) ที่ 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,742 ล้านบาท) โดยตัวเลขค่าใช้จ่ายการลงทุนดังกล่าว รวมถึงค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างเฟสที่ 2 ของโรงงานวัลลัม วาดากัล ใกล้เมืองเชนไน รัฐทมิฬนาฑู ประเทศอินเดียในปีนี้

นายสิทธัตถะ ลาล กรรมการผู้จัดการและประธานบริหาร บริษัทไอเคอร์ มอเตอร์ส ลิมิเต็ด บริษัทแม่ของแบรนด์รอยัล เอนฟิลด์ กล่าวเกี่ยวกับแผนการลงทุนปีนี้ว่า “ผู้บริโภคมีความต้องการในผลิตภัณฑ์ของเราอย่างต่อเนื่อง เรามองเห็นการเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากทุกตลาดที่เราดำเนินธุรกิจ ดังนั้น เราจึงตัดสินใจขยายกำลังการผลิตรถจักรยานยนต์ของเราด้วยการก่อสร้างเฟสที่ 2 ของของโรงงานวัลลัม
วาดากัล ใกล้เมืองเชนไน นอกจากนี้ เราจะก่อสร้างศูนย์เทคโนโลยีในเมืองเชนไนให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ด้วยเช่นกัน ตลอดจนลงทุนเพิ่มเติมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของตลาดและขยายสายผลิตภัณฑ์ของเราให้สอดคล้องกับการทำตลาดของเราในระดับโลก”

ทั้งนี้ รอยัล เอนฟิลด์ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเมื่อเข้ามาทำตลาดเมื่อ 2 ปีที่แล้วในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากเป็นภูมิภาคที่มีวัฒนธรรมผูกพันกับการขับขี่มอเตอร์ไซค์มาอย่างยาวนาน เมื่อรวมกับความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของมอเตอร์ไซค์สไตล์โมเดิร์นคลาสสิคของรอยัล เอนฟิลด์ ส่งผลให้รอยัล เอนฟิลด์ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี และเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง ตลอดจนส่งเสริมการทำตลาดในภูมิภาคนี้ รอยัล เอนฟิลด์ได้ตัดสินใจเปิดบริษัทสาขาในประเทศไทยและอินโดนีเซียโดยขึ้นตรงกับรอยัล เอนฟิลด์สำนักงานใหญ่ภายในปี 2561-2562

“เรายังมุ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งผ่านการนำเสนอมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น ธันเดอร์ เบิร์ด เอ็กซ์ (Thunderbird X) คลาสสิค กันเมทัล เกรย์ (Classic Gunmetal Grey) คลาสสิค สเตลท์ แบล็ค (Classic Stealth Black) ซีรีย์เรดดิชย์ (Redditch series) รวมถึงมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ที่จะมาพร้อมเครื่องยนต์แบบ 2 สูบ (Twin engine) ที่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้ เมื่อประกอบกับเครือข่ายการกระจายสินค้าที่ครอบคลุมทั่วอินเดีย และการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในระดับนานาชาติที่รองรับด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยในการผลิตรถจักรยานยนต์ ทั้งหมดส่งผลให้รอยัล เอนฟิลด์ เป็นผู้นำตลาดรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิคขนาดกลางระดับโลกอย่างแท้จริง” นายสิทธัตถะ กล่าว

ในปีงบประมาณ 2561-2562 เฟสแรกของโรงงานวัลลัม วาดากัล จะทำงานอย่างเต็มกำลังการผลิต เมื่อรวมกับกำลังการผลิตจากโรงงานโอรากาแดมแล้ว รอยัล เอนฟิลด์จะมีกำลังการผลิตรถจักรยานยนต์รวมทั้งหมดที่ประมาณ 950,000 คัน

อ่านข่าว Royal-Enfield เพิ่มเติมได้ที่นี่

เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ

Share.

About Author

Background EXP in Automotive journalists more than 10 Years Writer & Test Driver @Pantip Garage 2018-Present @9carthai 2015- 2017 @Torque & VIPStyle Magazine 2015 @Autospinn 2012-2015 @GTmania.tv 2009-2010

error: Content is protected !!