“Steering Dampers”, “Steering Stabilizer” หรือที่เรามักรู้จักกันดีในชื่อ “กันสะบัด” ถือเป็นอุปกรณ์ตกแต่งเสริมประสิทธิภาพอย่างนึงสำหรับตัวรถที่ขาซิ่งทั้งหลายมักหามาใช้กัน เนื่องจากความเชื่อที่ว่าเห็นมันบ่อยครั้งในตัวแข่ง หรือสปอร์ตไบค์ราคาสูงหลายๆรุ่น แต่จะมีซักกี่คนล่ะครับที่จะรู้ว่าเจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้ ทำงานอย่างไร ? และหน้าที่ของมันจริงๆนั้น ออกแบบมาเพื่ออะไร ?
โดยปกติแล้ว ส่วนใหญ่รถเดิมๆออกโรงงานมา มักจะไม่มีกันสะบัดมาให้ ซึ่งในหลายครั้ง สำหรับตัวแรงทั้งหลาย เมื่อขับเร็วๆ หรือเปิดคันเร่งแรงๆจนล้อลอย แล้วถ้าเกิดจังหวะนั้นผู้ขับขี่ไม่ประคองแฮนด์ให้ตรงก่อนที่ล้อหน้าจะตกลงพื้นล่ะก็ ด้วยแรงเฉื่อยที่เกิดขึ้น จะทำให้ล้อพยายามกับมาตั้งตรงเองโดยอัตโนมัติ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะกลับมาตั้งตรงพอดีเป้ะทุกครั้ง เพราะยังไงมันก็อาจจะมีแรงเฉื่อยส่วนเกินเกิดขึ้น จนทำให้ล้อหน้าหักเกินจำเป็นสลับไปมา และเกิดสะบัดอย่างรุนแรงแล้วพลาดล้มในที่สุด
ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้มักจะเกิดขึ้นบ่อยๆกับสปอร์ตไบค์ที่มีฐานล้อสั้น แต่กลับมีพละกำลังเครื่องยนต์ที่สูงลิบลิ่ว จนพร้อมจะยกทุกครั้งที่เปิดคันเร่ง แม้กระทั่งแน็คเก็ทไบค์ทั้งหลายที่มักออกแบบให้หน้าไวโดยกำเนิดเพราะองศาแผงคอตั้งชันก็เช่นกัน (ถ้าหากเพื่อนๆคนไหนไม่เคยเจออาการนี้มาก่อนเราแนะนำให้ลองเสิร์ชในกูเกิ้ลด้วยศัพท์ภาษาอังกฤษว่า “Tank Slapper” แล้วจะเจอคลิปเหตุการณ์นี้หลายอันเลยล่ะครับ)
และนี่จึงเป็นที่มาของ “กันสะบัด” ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อหน่วงแฮนด์บาร์จากแรงเฉื่อยส่วนเกินที่เกิดขึ้นเอาไว้ ขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูงๆ ด้วยหลักการไฮดรอลิก แบบเดียวกับชุดวาล์วน้ำมันในโช้กอัพ แต่ก็เพราะว่ามันถูกออกแบบมาเพื่อใช้หน่วงแฮนด์ที่ความเร็วสูงๆซึ่งเราไม่ค่อยได้หักอะไรแฮนด์มากมายนักนี่แหล่ะครับ ทำให้ในช่วงความเร็วต่ำที่ต้องหักแฮนด์เพื่อเลี้ยวมุมแคบๆ เราจะใช้แรงผลักแฮนด์มากกว่าปกติเพราะความหนืดของตัวกันสะบัดมีมากเกินไป และเกิดอาการเหนื่อยล้าแขนไวกันมานักต่อนักแล้ว
และเพื่อให้ผลกระทบของความหนืดจากตัวกันสะบัดในช่วงความเร็วต่ำหายไป ทางผู้ผลิตจึงเลือกออกแบบ “กันสะบัดไฟฟ้า” มาให้ซึ่งหลักการทำงานของมันก็ยังคงคล้ายกับกันสะบัดทั่วๆไป แต่เพิ่มฟังก์ชั่นการปรับเปลี่ยนแปรผันความหนืดในแต่ละช่วงความเร็วเข้ามา ซึ่งนับว่าสะดวกไปอีกขั้นสำหรับผู้ใช้
อย่างไรก็ตาม ใช่ว่า “กันสะบัด” จะเป็นคำตอบของทุกอย่างเสมอไป เพราะสำหรับเพื่อนๆที่ตัวรถเดิมๆไม่ได้ติดตั้งกันสะบัดมาให้นั้น การหาซื้ออุปกรณ์ชิ้นนี้ดีๆซักอันก็เป็นเรื่องที่หนักหนากับเงินในกระเป๋าตังค์เอาเรื่องอยู่ แถมจะให้ไปลองซื้อของแต่งถูกๆมาใช้ เราก็ขอบอกเลยครับว่าไม่แนะนำ เพราะถ้าเกิดอุปกรณ์ชิ้นนี้ทำงานผิดพลาดหรือขัดข้องขึ้นมา อาจจะทำให้แฮนด์ค้างไม่สามารถหักเลี้ยวได้กันเลยที่เดียว
นอกจากนี้ยังมีอีกสาเหตุนึงที่ทำให้รถเกิดอาการสะบัดได้ง่ายๆ ซึ่งเราหลายคนมักมองข้ามกันไป นั่นก็คือการจัดแนวล้อหน้าหลังให้ตรงกัน ซึ่งมักจะเกิดปัญหาขึ้นแทบทุกครั้งหลังการตั้งโซ่ ดังนั้นเพื่อนๆควรหมั่นเช็คตรงนี้ให้ดีซะก่อนนะครับ แล้วถึงจะไปติดกันสะบัดให้เปลืองเงินในกระเป๋าตังค์กันเล่นๆ โดยที่ยังไม่ได้เช็คความเรียบร้อยของตัวรถเราซะเอง (ยังไม่นับเหตุสุดวิสัยเช่น การเจอทราย เจอน้ำมัน หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ล้อพลิกกระทันหันอีก เรียกได้ว่าอาการสะบัดนี่พร้อมจะเกิดขึ้นกับทุกคนจริงๆ ยังไงก็ระวังๆกันด้วยล่ะครับ)
อ่าน Tips Trick เพิ่มเติมได้ที่นี่
