ฮอร์เก ลอเรนโซ่ (Jorge Lorenzo) อดีตแชมป์โลก MotoGP 3 สมัย ออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา โดยชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การแข่งขัน MotoGP นั้น “เหนือกว่าไปอีกระดับ” เมื่อเทียบกับ WorldSBK โดยยกเอา อัลวาโร่ เบาติสต้า (Álvaro Bautista) มาเป็นตัวอย่างที่พิสูจน์ได้
ลอเรนโซ่ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ขณะที่ผู้คนต่างจับตามองการย้ายมาสู่ MotoGP ของ Toprak Razgatlioglu แชมป์โลก WorldSBK โดยเขาระบุว่า ความสามารถของผู้ขับขี่ที่แตกต่างกันในแต่ละซีรีส์นั้นสามารถวัดได้จากผลงานของนักบิดชาวสเปนอย่าง อัลวาโร่ เบาติสต้า
เบาติสต้า คือ “หลักฐานที่ชัดเจน”
ลอเรนโซ่ชี้ว่า เบาติสต้า ซึ่งเป็นแชมป์โลก WorldSBK ที่คว้าชัยชนะไปถึง 43 เรซในช่วงปี 2022 และ 2023 นั้น มีประวัติใน MotoGP ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง:
“ผมเชื่อว่า World Superbike มีระดับของนักแข่งที่น้อยกว่า ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่ชัดเจน เพราะเบาติสต้าเคยแข่งใน Superbikes และเริ่มคว้าชัยชนะได้เหมือนคนบ้า (Winning races like crazy)” ลอเรนโซ่กล่าว
“แต่ใน MotoGP นั้น เขาเคยทำได้ดีที่สุดเพียงแค่อันดับ Top 5, Top 7, Top 9 เท่านั้น แต่ไม่เคยเป็นหนึ่งในคนที่แข็งแกร่งที่สุดเลยตลอดอาชีพเกือบสิบปีในคลาสพรีเมียร์”
อดีตนักบิดยามาฮ่าสรุปว่า MotoGP นั้น “เป็นอีกระดับหนึ่ง” (another level) เมื่อเทียบกับ WorldSBK ซึ่งเป็นข้อสรุปที่ถูกตอกย้ำด้วยผลงานอันโดดเด่นของเบาติสต้าใน WorldSBK ที่ตรงข้ามกับอาชีพของเขาใน MotoGP ที่คว้าได้เพียง 1 โพลโพซิชั่น และไม่เคยชนะแม้แต่ครั้งเดียว
มุมมองต่อ Toprak
ลอเรนโซ่ยังได้กล่าวถึงดาวรุ่งคนล่าสุดจาก WorldSBK ที่กำลังจะเข้ามาสู่ MotoGP อย่าง Toprak โดยยอมรับว่าความสามารถในการขับขี่ของท็อปแร็กนั้น “เหลือเชื่อ” (unbelievable) แต่เขาก็ไม่เชื่อว่านักบิดชาวตุรกีจะสามารถแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ในทันที:
“เทคนิคของ Toprak นั้นเหลือเชื่อ โดยเฉพาะการใช้เบรกหน้า แต่ผมคิดว่าทั้งยางและรถ Yamaha จะไม่ได้ช่วยให้เขาสามารถแสดงระดับของตัวเองได้ทันที”
ลอเรนโซ่คาดการณ์ว่า ปี 2027 ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนไปใช้ยาง Pirelli และ Toprak มีประสบการณ์มากขึ้น อาจเป็นปีของเขา ที่จะได้ต่อสู้เพื่อติดท็อปไฟว์ หรือขึ้นโพเดี้ยมได้บ้าง แต่จะไม่ใช่ในปีแรกที่เขาจะมาอยู่แนวหน้าอย่างแน่นอน
อ่านข่าว MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่

