“ควรแยกรอบควอลิฟาย Sprint กับเรซหลักออกจากกันหรือไม่?”
คำถามนี้ถูกหยิบยกขึ้นมาโดยหนึ่งในผู้บริหารที่คร่ำหวอดที่สุดในวงการอย่าง Davide Brivio หัวหน้าทีม Trackhouse MotoGP หนึ่งในผู้บริหารที่มีประสบการณ์มากที่สุดในวงการ ทั้งในรายการ MotoGP หลายๆค่ายและ Formula 1 ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับทิศทางในอนาคตของ MotoGP ระหว่างให้สัมภาษณ์กับ Crash.net
MotoGP ตอนนี้ดีแล้ว…แต่เพียงพอหรือยัง?
Davide Brivio กล่าวถึงภาพรวมของการแข่งขันว่า
Davide Brivio:
“ในมุมมองด้านการแข่งขัน MotoGP ตอนนี้ถือว่าดีอยู่แล้ว แต่แน่นอนว่ามันยังสามารถพัฒนาได้อีก และผมคิดว่าควรเริ่มจากการปรับรูปแบบการแข่งขัน”
คำถามคือ…
จุดไหนของระบบปัจจุบัน ที่ควรถูกหยิบมาปรับปรุงเป็นอันดับแรก?

ประเด็นใหญ่: ควรแยกรอบควอลิฟายหรือไม่?
หนึ่งในแนวคิดหลักที่ Brivio เสนอ คือ
การแยกรอบควอลิฟายสำหรับ Sprint Race และ Grand Prix Race ออกจากกัน
แทนการใช้ผลควอลิฟายชุดเดียว เหมือนที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน
Davide Brivio:
“โดยส่วนตัว ผมอยากให้แยกรอบควอลิฟายออกเป็นสองแบบ
ควอลิฟายหนึ่งสำหรับสปรินต์ และอีกหนึ่งสำหรับเรซหลัก”
แม้เขาจะยอมรับตรงไปตรงมาว่า
การจัดตารางเวลาอาจเป็นเรื่องยาก
แต่คำถามสำคัญกว่าคือ…
ควรหรือไม่ ที่ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียว จะทำลายทั้งสุดสัปดาห์?

พลาดครั้งเดียว เจ็บถึงสองเรซ แบบนี้แฟร์แล้วหรือ?
Brivio ชี้ให้เห็นปัญหาหลักของระบบปัจจุบันว่า
ผลควอลิฟายเพียงครั้งเดียว ส่งผลทั้ง Sprint Race และเรซหลัก
Davide Brivio:
“คุณไม่ควรต้องเอาทั้งสุดสัปดาห์ไปเสี่ยงกับสิ่งที่เกิดขึ้นแค่บ่ายวันศุกร์”
ปัจจุบัน นักแข่ง 10 คนแรก จะได้เข้า Q2 อัตโนมัติ
ส่วน Q1 เหลือโควต้าเพียง 2 คนเท่านั้น
คำถามคือ…
แรงกดดันระดับนี้ เริ่มเร็วเกินไปหรือไม่?

ปัญหาที่นักแข่งควบคุมไม่ได้: ธงเหลือง
อีกหนึ่งประเด็นที่ถูกพูดถึงมาก คือ ธงเหลือง (Yellow Flag)
ซึ่งทำให้เวลาต่อรอบถูกยกเลิก แม้ไม่ใช่ความผิดของนักแข่งคนนั้นโดยตรง
Luca Marini นักบิดจากทีม Honda ก็ออกมาเห็นด้วยกับแนวคิดนี้
Luca Marini:
“ถ้าคุณดันโชคร้ายเจออุบัติเหตุหรือธงเหลือง
มันน่าเสียดายมากที่ต้องเสียทั้งสุดสัปดาห์ไปแบบนั้น”
Marini ยังเสนอแนวคิดเสริมว่า
ควรเพิ่มจำนวนผู้ผ่านจาก Q1 เป็น 4 คน แทน 2 คน
เพื่อเพิ่มความยุติธรรมให้มากขึ้น
แล้ว MotoGP ควรไปทางไหน?
แนวคิดของ Davide Brivio สะท้อนปัญหาที่นักแข่งหลายคนกำลังเผชิญ
ระบบควอลิฟายแบบปัจจุบัน
อาจสร้างแรงกดดันสูงเกินไป และเปิดช่องให้ความไม่ยุติธรรมจากเหตุการณ์ที่ควบคุมไม่ได้
การแยกรอบควอลิฟาย
- ลดความเสี่ยงจากความผิดพลาดเพียงครั้งเดียว
- เพิ่มโอกาสแก้ตัวให้กับนักแข่ง
- และอาจช่วยเพิ่มความสนุกให้กับผู้ชมในระยะยาว
คำถามสุดท้ายคือ…
MotoGP พร้อมจะเปลี่ยน เพื่อก้าวสู่ยุคใหม่อย่างแท้จริงแล้วหรือยัง?
อ่านข่าวสาร MotoGP ได้ที่นี้

