Michelin กำลังพิจารณาระบบใหม่สำหรับการลงโทษแรงดันยางใน MotoGP แบบเรียลไทม์ ที่จะใช้โทษในขณะแข่งขัน เช่น ทำ “long lap penalty” มากกว่าการลงโทษด้วยเวลา 16 วินาทีหลังจบการแข่งขันแบบปัจจุบัน
🛠️ กฎแรงดันลมยางในปัจจุบัน
- แรงดันลมยางขั้นต่ำคือ ด้านหน้า 1.8 บาร์ และ ด้านหลัง 1.68 บาร์
- ต้องอยู่เหนือระดับนี้อย่างน้อย 60% ของรอบการแข่งขันหลัก (ใน Sprint ต้องมากกว่า 30%)
- หากไม่ผ่าน จะโดน โทษ 16 วินาทีหลังการแข่งขัน (หรือ 8 วินาทีใน Sprint)
ปัญหาของระบบเดิม
- การเปลี่ยนผลการแข่งขันหลังจบงาน (Post-race) ทำให้ผู้ชนะอาจเฉลิมฉลองบนโพเดียมไปแล้ว
- ตัวอย่างล่าสุด: Maverick Vinales ได้อันดับสองที่กาตาร์ แต่ถูกปรับตกไปอันดับ 14 หนีไม่พ้นการละเมิดแรงดันลมยางด้านหน้า
- ในซิลเวอร์สโตนอีก 4 รายโดนโทษเหมือนกัน
💡 แนวทางแก้ไขของ Michelin
- เซนเซอร์ปัจจุบันแม่นยำสูงอยู่แล้ว ดังนั้น พอเรซผ่านไป 3/4 ก็ประเมิน ถ้าใครไม่ผ่านเกณฑ์ ก็ลงโทษเลย
- พิจารณาใช้ โทษระหว่างการแข่งขัน เช่น การขี่ long lap (MotoRival เสนอเพิ่ม 1-2 รอบ ในระหว่างแข่ง SPR และ รอบ Full Race)
- ส่งผลให้ผู้ชนะในสนามไม่ถูก “พราก” โพเดียมหลังจบ
- แม้โทษ long lap (3–5 วินาที) จะเบากว่าการโดนโทษเวลา 16 วินาที แต่นั่นก็ จะทำให้บริหารจัดการ การทำโทษได้ทันท่วงที
ทำไมไม่ตรวจแรงดันล่วงหน้าก่อนแข่งขัน?
- Michelin เห็นว่าการตรวจแรงดันจริงขณะอยู่บนสนามแบบเรียลไทม์เท่านั้นที่ถือว่า “ยุติธรรม”
- แต่ละทีมสามารถเลือกแรงดันที่เหมาะสมกับสไตล์ การขี่ของตัวเอง เพื่อระดับแรงดันของตัวเอง
- การลดแรงดันขั้นต่ำอีก ทำได้ยากมากแล้ว (“เราอยู่ที่ขีดจำกัดแล้ว”)
สิ่งที่ต้องคำนึง
- หากมีโทษขณะแข่ง จะมีการลงโทษไม่ว่าการละเมิดเกิดจากอะไร เช่น ยางรั่วหรือวงล้อรั่ว ซึ่งอาจไม่ใช่การตัดสินใจของนักแข่ง เช่นกรณี Pedro Acosta ที่ Mandalika แต่รอดโทษในสนามแข่งหลังจบ
📅 สรุป
- Michelin สนับสนุนให้มีการลงโทษแรงดันลมยางช่วงการแข่งขันแทนการหลังจบ เพื่อความยุติธรรมมากขึ้น
- เทคโนโลยีเซนเซอร์พร้อมแล้ว แต่ยังอยู่ในการพูดคุยร่วมกับ Dorna, FIM และ MSMA
- จะมีการพิจารณาใช้ long lap penalty แทนโทษหลังจบการแข่งขัน
อ่านข่าว MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่