
รีวิว รถรุ่นใหม่ล่าสุดจากค่าย Made like a gun ตระกูล Classic ที่หลายคนรอคอย — ครั้งนี้มาในร่าง “650 Twin” ที่ยกดีไซน์ความคลาสสิกแบบต้นตำรับอังกฤษ พร้อมอัพเกรดเครื่องยนต์และเฟรมใหม่ยกชุด งานนี้ Royal Enfield ตั้งใจให้ทั้ง “หล่อ” และ “ขี่ดี” ขึ้นกว่าที่เคย
ซึ่งหลังจากที่ MotoRival เราได้พาพรีวิว ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ครั้งนี้ เราก็ได้ทดสอบมันเป็นสื่อกลุ่มแรกในไทย กันแล้วบนเส้นทางเขาใหญ่ ที่มีโค้งให้เล่น บอกเลย ผิดคาด จากภาพลักษณ์สไตล์คลาสสิค เพราะมันขี่ดีเกินหน้าตา
สำหรับดีเทล รายละเอียด Royal Enfield Classic 650 รับชมได้ใน พรีวิว ที่นี่ เพราะคอนเทนต์นี้เราขอมาเข้ากันที่ พาร์ทการขับขี่จริงกันเลย

🔸 น้ำหนักตัว / ความสูงเบาะ / แฮนด์ (Ergonomics)
น้ำหนักตัวอยู่ที่ 243 กก. — ถือว่าหนักพอตัว เมื่อเทียบกับพิกัด
ตอนจะยกขาตั้งคู่ยอมรับว่ามีเหนื่อยหน่อย
แต่ตอนเข็นกลับรู้สึก “บาลานซ์ดี” กว่าที่คิด ถอยรถเข้าจอดได้ไม่ลำบากจนเกินไป
ความสูงเบาะ 800 มม.
แฮนด์กว้าง 892 มม. กำลังดี ไม่กว้างเกิน ขี่แล้วไม่เมื่อย แขนอยู่ในท่าธรรมชาติพอดี ไม่ยกไม่เอื้อมตัว

🔸 ท่านั่งและความสบาย
ด้วยเฟรมและตำแหน่งหลายๆจุดที่ยกมาจาก Super Meteor 650 ที่เป็นเฟรมครุยเซอร์ ทำให้ท่านั่งของ Classic 650 “เรียกได้ว่าสบายมากกว่าที่ตาเห็น”
เบาะนั่ง 800 มม. อาจจะสูงไปหากเทียบกับครุยเซอร์ คันอื่นๆ แต่โดยรวมผมสูง 175cm ยังนั่งแล้วมีระยะหย่อนเข่าเหลืออยู่
ในทริปทดสอบตลอดช่วงบ่าย ผ่านทั้งถนนดำ ลูกลัง ทางขึ้นเขา และดินเล็กน้อย — ไม่มีอาการปวดหลัง ปวดบ่าให้เห็นเลย
เบาะนั่งกว้าง แฮนด์ดึงเข้าหาผู้ขี่นิดๆ ช่วยให้หลังตรง ไม่ต้องโน้มตัวไปข้างหน้าเยอะ เหมือนพวก Fatbar กลางตรงแบบ Bobber คันนี้ขี่ไกลๆ ไม่ล้า

🔸 เครื่องยนต์ 2 สูบขนาน 648cc SOHC ระบายความร้อนด้วยอากาศและน้ำมัน กำลัง 46hp แรงบิด 52Nm
ให้ฟีลการขับที่ “สมูท” ดีตามแบบฉบับที่ควรจะเป็น แรงบิดขึ้นแบบนิ่มๆ คันเร่งไม่กระชาก เหมาะกับการขี่เรื่อยๆ ชิลๆ ชมวิว แต่ถ้าอยากซัดหน่อยก็ไม่ต้องกลัว แค่ตบเกียร์ลงช่วง 3-4 บิดขึ้นแรงดีมีแรงดึงให้รู้สึกได้ทันที
แรงบิดกลางมาเร็วและนุ่มนวล ไม่มีอาการสะดุดหรือตื้อ เหมาะกับสายทัวร์ที่ชอบขี่เนียนๆ แต่ยังอยากมีแรงเร่งแซงติดมือ
ส่วนความเร็วปลาย 160-170kmph ไปได้ หาก คุณทนกับอาการที่โต้ลมไหว ซึ่งแน่นอน ต้องหมอบช่วย

🔸 การควบคุมและเข้าโค้ง
เรื่องนี้ต้องชมเลยครับ เพราะ Classic 650 ควบคุมได้ง่ายและนิ่งอย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะเวลาเข้าโค้ง
จากที่แอดได้ลองขี่เทียบกับ Interceptor 650 ในอีเวนต์เดียวกัน พบว่าตัว Classic เข้าโค้งได้ “มั่นใจกว่า” อย่างชัดเจน
เหตุผลคือเฟรมที่ใช้เป็นเฟรมเดียวกับ Super Meteor 650 ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องเสถียรภาพและการเข้าโค้งดีเยี่ยม พอมาอยู่ใน Classic 650 มันเลยให้ฟีลเลี้ยวที่แม่นและควบคุมง่ายกว่าเดิมมาก
🔸 ระบบกันสะเทือน โช้คหน้าหัวตั้ง ขนาดแกน 43 มิลลิเมตร ระยะยุบ 120 มิลลิเมตร / ด้านหลัง โช้คสปริงคู่ ปรับพรีโหลดได้ ระยะยุบ 90 มิลลิเมตร
ช่วงล่างให้มาเป็นของ Showa ทั้งหน้าและหลัง ทำงานได้ยอดเยี่ยม
ซับแรงได้ดี ไม่แข็งกระด้าง แต่ก็ไม่ได้ Comfort เกินไป กล่าวคือ เฟิร์มไม่ยวบ อาจมีดีดนิดๆ แต่ไม่กระแทก เวลา ลงหลุมขึ้นระนาดให้ฟีล “หนักแน่น” สมกับรถแนวคลาสสิกน้ำหนักตัวเยอะ

🔸 ระบบเบรกดิสก์เดี่ยวทั้งหน้า/หลัง ทำงานร่วมกับปั๊ม 2pots ตีโลโก้ RE โดยต่างกันที่ขนาดจานหน้า 320mm หลัง 300mm มาพร้อม ABS Dual Channel
ระบบ เบรกหน้า-หลังแบบ 2 พอต ทั้งคู่ พร้อม ABS ให้ระยะเบรกที่ถือว่าไว้ใจได้ เมื่อเทียบกับพละกำลังรถที่มี และสไตล์ของตัวรถ
เบรกหน้า กำแค่ 30–50% ผ้าเบรกก็เริ่มจับแล้ว เบรกหลังถือว่าดีมาก แค่แตะประมาณ 20–30% ก็เริ่มทำงานทันใจ
มั่นใจได้ แต่ ในขณะเดียวกัน เวลาเบรกหรือแต่งเบรกในโค้ง ก็อาจจะต้องรักษาบาลานซ์ให้ดี เพราะถ้าเบรกมากไป เบรกจับ ก็จะให้เสียอาการ ได้ เพราะสไตล์รถคลาสสิคที่หนัก ไม่ได้คมบาลานซ์ดีแบบพวกรถสปอร์ต

🔸 จุดสังเกตและข้อควรปรับ (Notes & Observations)
ที่ความเร็ว 95–100 กม./ชม. จะมีอาการ “สั่น” ชัดเจน ทั้งแฮนด์และเบาะ
แต่พอขึ้นไปช่วง 105–120 กม./ชม. อาการจะค่อย ๆ หายไป
เรื่องการต้านลม ด้วยดีไซน์รถคลาสสิก ถ้าวิ่งเกิน 120 กม./ชม. ต้องสู้ลมกันหน่อย ลมปะทะเต็ม ๆ ตัวถ้าจะใช้ความเร็วอาจจะต้องใช้การหมอบช่วย หรือ ไม่ก็ติด ชิวกันลม จะช่วยได้
ยางที่ให้มาเป็นแบบ มียางใน ซึ่งอาจทำให้ไม่สะดวกหากโดนตะปูตำกลางทาง เพราะจะซ่อมเองลำบาก ไม่ว่าจะเป็นการยกขาตั้งคู่ต้องถอดล้อออกมาเซอร์วิส

สรุป รีวิว Royal Enfield Classic 650 กับการขี่กรุ๊ปเทสสื่อ กลุ่มแรกในไทย
บอกเลยว่ามันเป็นรถที่มีดีมากกว่าแค่สไตล์ เพราะ สมรรถนะ ดีเกินคาด “ขี่ง่าย นั่งสบาย เท่โดนใจคนมีสไตล์ดั้งเดิม”
มันคือการผสมระหว่างความคลาสสิกและเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ลงตัว เหมาะกับคนที่อยากขี่รถแนวเรโทรแท้ๆ แต่ได้ฟีลเครื่องยนต์และเฟรมที่มั่นใจขึ้นมากใครที่มองหารถไว้ขี่ชิลๆ เดินทางกลางวันหรือทริปสั้นๆ Classic 650 ตอบโจทย์แน่นอน
แต่ถ้าอยากซัดยาวๆ หรือขึ้นเขาเร็วๆ ก็ทำได้ แค่ต้องเข้าใจว่า “นี่คือรถที่เกิดมาเพื่อให้ขี่แบบสุนทรีย์” มากกว่าจะหวดแช่กันที่ความเร็วสูง

Royal Enfield Classic 650 ราคา 2.499 แสนบาท ในสีขาวแดง/สีฟ้า และ 2.599 แสนบาท ในสีโครมดำ
ผู้สนใจติดต่อทาง Royal Enfield Praram5
อ่านข่าว Royal Enfield เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านรีวิว เพิ่มเติมได้ที่นี่