Johann Zarco นักบิด MotoGP จากทีม LCR Honda แสดงความกังวลเกี่ยวกับระบบสื่อสารผ่านวิทยุ (Radio Communication) ที่กำลังจะถูกนำมาใช้ใน MotoGP ฤดูกาลหน้า โดยระบบใหม่นี้ใช้เทคโนโลยี bone conduction หรือการสั่นผ่านกระดูก เพื่อส่งข้อความจาก Race Direction ถึงนักแข่งระหว่างการแข่งขัน
Zarco ได้ทดลองระบบนี้ระหว่างทดสอบที่ Aragon และพบปัญหาสำคัญว่า เมื่อใช้ความเร็วเกิน 300 กม./ชม. หมวกกันน็อกจะลอยตัวขึ้นเล็กน้อย ทำให้แผ่น bone conduction ไม่แนบกับกระดูกอย่างเหมาะสม ส่งผลให้เขา ไม่ได้ยินข้อความจากทีมชัดเจน
“เมื่อวิ่งเร็วกว่า 300 km/h หมวกจะยกขึ้นนิดหนึ่ง แล้วเครื่องมันก็ไม่แตะกระดูกอีกต่อไป บางครั้งผมไม่ได้ยินเลยด้วยซ้ำ” Zarco กล่าว
เขาเสนอให้ MotoGP พิจารณาเปลี่ยนมาใช้ระบบ หูฟัง in-ear แบบ Formula 1 ซึ่งเสียบเข้าไปในหูโดยตรง ทำให้ได้ยินชัดเจนกว่า และปลอดภัยต่อการใช้งานมากกว่า โดย Zarco ย้ำว่าระบบปัจจุบัน “ไม่ค่อยสบาย” และไม่เหมาะกับการแข่งความเร็วสูง
Zarco ชี้เสียงเครื่องยนต์ MotoGP ดังเกินไป – เสี่ยงเสียการได้ยิน
นอกจากปัญหาระบบสื่อสาร Johann Zarco ยังกล่าวถึงอีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือ ระดับเสียงภายในสนาม MotoGP ที่สูงเกิน 130 dB/A ซึ่งถือว่าเป็นระดับเสียงที่เสี่ยงต่อ การสูญเสียการได้ยินในระยะยาว
ด้วยวัย 34 ปี Zarco เริ่มตระหนักถึงสุขภาพในอนาคต โดยกล่าวว่า
“ผมพยายามดูแลร่างกาย หู และสมองของตัวเอง… ผมอาจไม่ได้ยินอะไรมากนักตอนอายุ 50 ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป”
เขาแนะนำว่า MotoGP ควรอนุญาตให้นักแข่งใช้ earplug แบบ adaptive in-ear ที่สามารถลดเสียงรบกวนและช่วยในการได้ยินวิทยุได้ชัดเจนยิ่งขึ้น แบบเดียวกับที่ใช้อยู่ใน Formula One ซึ่งจะเป็นการปกป้องสุขภาพนักแข่งในระยะยาว
การสื่อสารนักแข่งคืออนาคตของ MotoGP แต่ต้องพัฒนาให้เหมาะสม
Zarco ยืนยันว่าเขา ไม่ต่อต้านระบบวิทยุ และเห็นด้วยกับเป้าหมายของ MotoGP ที่จะนำระบบการสื่อสารเต็มรูปแบบระหว่างทีมและนักแข่งมาใช้ในอนาคต เช่นเดียวกับ F1 แต่เน้นย้ำว่าต้อง เริ่มต้นด้วยระบบพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย
“พวกเขาบอกว่าระบบ F1 ช่วยลดเดซิเบลได้… ผมอยากให้ MotoGP ลดเสียงลงบ้างเหมือนกัน”
นอกจากนี้ Zarco ยังกล่าวถึงพัฒนาการของ รถแข่ง Honda RC213V โดยเฉพาะ สวิงอาร์มคาร์บอนแบบใหม่ ว่าเป็นจุดที่ทีมก้าวหน้า และมีแนวโน้มที่ดีในอนาคต แม้เขาจะจบทดสอบที่ Aragon ด้วยอันดับที่ 17 ก็ตาม
อ่านข่าว MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่
