หลายคนน่าจะรู้กันอยู่แล้ว ว่าเครื่องยนต์แบบสันดาบภายในที่เราใช้กัน จำเป็นต้องมีการดึงอากาศจากภายนอกเข้ามาจุดระเบิดกับน้ำมันเชื้อเพลิง และต้องปล่อยไอเสียที่ได้จากการเผาไหม้ทิ้งไป โดยอากาศทั้งหมดที่ว่านั้นก็จำเป็นต้องไหลผ่าน “วาล์ว” ที่ทำหน้าที่เป็นประตูเปิด-ปิด และควบคุมการไหลของอากาศ แต่เคยสงสัยกันไหมว่ามีกี่วาล์วถึงจะดี? 2 กับ 4 อะไรดีกว่ากัน?

สิ่งแรกที่เราต้องดูกันก่อนคือในส่วนของกลไก เครื่องยนต์ 2 วาล์ว นั้นจะมีวาล์วหนึ่งทำหน้าที่เป็นวาล์วไอดี และอีกวาล์วทำหน้าเป็นวาล์วไอเสีย ส่วนเครื่องยนต์ 4 วาล์ว นั้นจะมี 2 วาล์วไอดี กับอีก 2 วาล์วไอเสีย โดยในแต่ละวาล์วนั้นจะถูกควบคุมการเปิดด้วยการกดของ “เพลาลูกเบี้ยว” หรือ “Camshaft” ส่วนการปิดวาล์วแต่ละวาล์วนั้นจะควบคุมผ่านสปริง

จากข้อมูลตรงนี้ก็จะเห็นได้ว่าเครื่องยนต์แบบ 2 วาล์ว นั้นจะมีความเรียบง่ายมากกว่า มีชิ้นส่วนน้อยกว่า แปลว่าการผลิตและดูแลรักษาก็จะต่ำกว่า เหมาะกับสำหรับรถบ้านเน้นใช้งาน และด้วยความที่มันมีชิ้นส่วนน้อย สปริงก็มีน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง นั่นหมายความว่ามันกินแรงเครื่องน้อยกว่า ส่งผลให้เครื่องยนต์ประหยัดน้ำมันมากกว่า

ทางด้านของเครื่องยนต์แบบ 4 วาล์ว นั้นจะมีข้อดีตรงที่อากาศสามารถไหลผ่านได้มากกว่า อย่าลืมว่าเครื่องยนต์สันดาปนั้นทำหน้าที่เป็นเหมือนปั้มอากาศรูปแบบหนึ่ง การที่อากาศไหลเข้ามากขึ้น ก็จะทำให้มีออกซิเจนมาใช้เผาไหม้เชื้อเพลิงมากขึ้น นำมาสู่การจุดระเบิดที่แรงขึ้น พละกำลังของรถก็จะมากขึ้น

นอกจากนี้ในเครื่องยนต์แบบ 2 วาล์ว ที่อากาศไหลผ่านได้น้อย ถ้าเราต้องการอากาศมากขึ้น ก็จำเป็นต้องเปิดวาล์วให้กว้างขึ้น แต่ถ้าวาล์วปิดตัวเองไม่ทัน ก็จะมีความเสี่ยงที่วาล์วจะชนกับลูกสูบ จนเกิดความเสียหายรุนแรงต่อเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์แบบ 2 วาล์ว ไม่สามารถรีดรอบเครื่องยนต์ให้สูงมากได้

แต่ในเครื่องยนต์แบบ 4 วาล์ว ที่อากาศไหลผ่านได้ง่ายกว่า ทำให้ไม่จำเป็นต้องเปิดแต่ละวาล์วกว้างมาก ลดความเสี่ยงที่วาล์วจะชนกับลูกสูบ ส่งผลให้เครื่องยนต์แบบนี้สามารถรีดรอบได้สูงขึ้น และทำให้พละกำลังสูงสุดนั้นมากขึ้นตามไปด้วย ทำให้เหมาะกับรถที่ต้องการพละกำลัง แน่นอนว่าต้องแลกกับค่าใช้จ่ายในการผลิต และซ่อมบำรุงที่สูงเป็นเงาตามตัว แถมเครื่องยนต์แบบนี้ก็กินน้ำมันมากกว่า เพราะเครื่องยนต์ต้องต่อสู้กับแรงกดของสปริงวาล์ว และแรงเสียดทานภายในที่มากกว่า
โดยสรุปคือ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์แบบ 2 วาล์ว หรือ 4 วาล์ว ก็ไม่ได้มีรูปแบบไหนที่ดีกว่าอีกแบบอย่างชัดเจน สุดท้ายก็จะขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งานเป็นหลัก ส่วนเครื่องยนต์ที่มีวาล์วมากกว่านี้ ไม่ว่าจะมี 5 วาล์ว หรือ 8 วาล์ว ก็ให้คิดตามว่าถ้ายิ่งมีวาล์วมาก ก็ยิ่งช่วยด้านสมรรถนะ แต่ถ้ามีมากไปก็จะสร้างปัญหาได้
อ่าน Tips Trick เพิ่มเติมได้ที่นี่