ในปัจจุบันนอกจากรถมอเตอร์ไซค์ประเภทนีโอ-คลาสสิค จะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว ทางฝั่งรถมอเตอร์ไซค์ยกสูงทั้งหลายจำพวก Adventure ทั้งหลายเองก็ได้รับความนิยมเช่นกัน และนั่นจึงทำให้ Oberdan Bezzi นักออกแบบชาวอิตาลีเกิดปิ้งไอเดียขึ้นมาว่าหากทาง Aprilia จะทำรถมอเตอร์ไซค์แนวนี้ขึ้นมา มันจะเป็นอย่างไรได้บ้าง และนั่นจึงกลายเป็นเจ้า Aprilia Tuareg 900 แอดเวนเจอร์ไบค์สไตล์ Maxi-Enduro ที่เราเห็นกันอยู่ในขณะนี้ โดยจากภาพจะเห็นได้ว่า Bezzi ได้ออกแบบเจ้า Tuareg 900 ให้มีดีไซน์ที่ค่อนข้างโฉบเฉี่ยวพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับชุดคาวลิ่งหน้าตัวรถที่ดูแหลมพุ่งไปข้างหน้าชัดเจน ขณะที่แฟริ่งข้างเองก็ทำลายเส้นตัดออกมาโอบข้างลำตัวรถได้อย่างสมดุล ส่วนถังน้ำมันยังคงกลิ่นอายแบบรถมอเตอร์ไซค์เอนดูโร่ไว้ นั่นก็คือเน้นความเล็กเรียว เพรียว และบาง ซึ่งแน่นอนว่าทั้งเบาะนั่งและชุดท้ายเองก็แหลมเฟี้ยวด้วยเช่นกัน ด้านเครื่องยนต์ก็เป็นแบบ V-Twin 900cc ที่คาดว่าจะทำแรงม้าได้ราวๆ 93 ตัว ติดตั้งกับโครงรถที่เป็นแบบเฟรมถักน้ำหนักเบา และใช้ชุดระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบหัวกลับ ด้านหลังสวิงอาร์มอลูมิเนียมแกะทรงมาอย่างดี, ระบบเบรกด้านหน้าเองก็เป็นแบบดิสก์คู่ ทำงานร่วมกับปั๊มเรเดียลเมาท์จาก Brembo ส่วนชุดล้อนั้นก็มีการเปลี่ยนไปนิดหน่อย คือเป็นแบบซี่ลวดรัดด้วยยางหนามไซส์วงล้อ 21 นิ้ว และ 17…
Author: admin
ในปัจจุบันนี้ไม่ได้มีแค่ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์รายใหญ่เท่านั้นที่เริ่มให้ความสนใจที่จะผลิตรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของตนเอง แม้แต่ผู้ผลิตรถยนต์เองก็สนใจอยากที่จะร่วมวงตลาดนี้เช่นกัน เนื่องจากมองเห็นแนวทางในการเติบโตของมัน โดยรายล่าสุดที่เผยตัวอย่างเป็นทางการก็คือ Jaguar Land Rover ที่สร้างรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของตนเองออกมาแล้วเปิดตัวไปก่อนหน้านี้เมื่อปลายที่ที่ผ่านมาในงาน EICMA Show 2018 ซึ่งนั่นก็คือเจ้า Arc Vector ที่เรากำลังเห็นกันอยู่ขณะนี้ และจุดเด่นที่ทาง Arc (เป็นชื่อซับแบรนด์ของทาง Jaguar Land Rover) ได้เลือกชูขึ้นมาสำหรับเจ้า Vector คันนี้ก็มีหลายอย่างด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตัวมอเตอร์ไฟฟ้าที่สามารถสร้างกำลังได้สูงสุดถึง 127 แรงม้า ซึ่งช่วยให้ตัวรถสามารถไต้ความเร็วได้สูงสุดถึง 241 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนตัวแบตเตอรี่เองก็รองรับการใช้งานได้ไกลประมาณ 470 กิโลเมตร ด้านตัวเฟรมเป็นแบบคาร์บอนโมโนค็อก แม้แต่ตัวสวิงอาร์มกับชุดล้อเองก็ทำจากคาร์บอนเช่นกัน จนทำให้น้ำหนักโดยรวมของตัวรถเบาเพียง 220 กิโลกรัมเท่านั้น (ซึ่งนี่ถือว่่าเบามากแล้วสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า) ขณะที่ระบบบังคับเลี้ยวเป็นแบบ Center-Hub ระบบกันสะเทือนหน้า/หลังเป็นของ Ohlins และชุดเบรกเป็นของ Brembo ส่วนชุดมาตรวัดไม่ได้ติดตั้งเอาไว้ที่รถ แต่ถูกออกแบบเป็นจอ HUD ติดตั้งไว้ในหมวกกันน็อคคาร์บอนที่จะแถมให้กับตัวรถอีกทีหนึ่ง ซึ่งเรียกได้ว่าจัดเต็มที่สุดเท่าที่ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ในยุคปัจจุบันนี้จะสรรสร้างสรรหามาให้ได้…
ขณะที่แบรนด์อื่นๆกำลังเกิดนหน้ารุกตลาดสปอร์ตมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ทางฝั่ง BMW ซึ่งมีเจ้า S1000RR ให้ตีตลาดนี้อย่างสบายใจอยู่แล้ว ดูเหมือนจะมีไอเดียใหม่ที่อยากทำเพิ่มต่างออกไป ด้วยการเดินหน้าลุยพัฒนาโปรเจกต์รถมอเตอร์ไซค์แนวครุยเซอร์ โดยหลังจากที่เมื่อช่วงเดือนธันวาคม ปี 2018 ที่ผ่านมาทาง BMW ได้มีการเปิดตัวคัสตอมไบค์ที่พวกเขาได้ร่วมมือกับสำนักแต่งในประเทศญี่ปุ่น Custom Works Zon ทำรถคัสตอมชื่อว่า “Departed – R18” ออกมา พร้อมเปรยข้อมูลว่าเครื่องยนต์ที่ติดตั้งอยู่ในคัสตอมไบค์ที่เราเห็นอยู่นี้ ไม่ใช่เครื่องยนต์ของ R1250GS ที่ถูกนำมาปรับแต่งเพิ่มเติมแบบที่เราคุ้นชิน แต่เป็นเครื่องยนต์ต้นแบบ หรือเครื่อง ‘โปรโตไทป์’ ที่ทางค่ายได้พัฒนาขึ้นใหม่เพื่อใช้กับรถมอเตอร์ไซค์แนวนี้โดยเฉพาะ และถ้าหากเราลองสังเกตกันให้ดี จะเห็นได้ว่าเครื่องยนต์โปรโตไทป์ลูกนี้ มีการดีไซน์ที่ต่างออกไปจากเครื่องยนต์สูบนอนของตระกูล “R” ที่มีอยู่ในปัจจุบันพอสมควร เพราะมันมาพร้อมกับระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ ที่เสริมด้วยระบบหล่อเย็นน้ำมันเครื่อง หรือออยคูลเลอร์ แถมยังใช้ระบบควบคุมการเปิด/ปิดวาล์วแบบก้านกระทุ้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวครุยเซอร์รักและถวิลหากันมาแต่ไหนแต่ไร ส่วนขนาดความจุเครื่องยนต์แม้จะไม่มีการระบุใดๆแต่หากมองจากรหัสต่อท้ายที่ระบุว่า ‘R18’ นั้น ก็เป็นการบอกไบ้อย่างดีว่ามันจะต้องมีขนาดความจุที่สูงถึง 1,800cc ส่วนช่วงเวลาการเปิดตัวทาง BMW ก็ไม่ได้มีการระบุไว้อย่างแน่ชัดมากนัก แต่พวกเขาก็ประมาณการไว้ว่า การเปิดตัวโฉมคอนเซปท์ของมันนั้น…
นอกจากภาพยนต์เรื่อง The Avengers – End Game ที่หลายคนกำลังรอคอยกันแล้ว ในเดือนถัดไป ภาพยนต์บู้แหลกลาญ อย่าง John Wick ภาค 3 “Parabellum” เองก็เตรียมเข้าโรงเช่นกัน แต่ก่อนหน้าที่จะไปดูพระเอกของเราบู้ในหนัง วันนี้เรามาดูกันหน่อยครับว่า จะมีความชอบในตัวรถแบบไหนกันแน่ กับ รถมอเตอร์ไซค์สุดรัก 2 คันที่เขาไม่เคยเปิดให้ใครสัมภาษณ์มาก่อน เริ่มจากคันแรก นั่นก็คือ 1973 Norton Commando 850 Mark II ที่ Reeves บอกว่าเขาน่าจะซื้อไว้ตั้งแต่ช่วงปี 1987 โดยคันนี้ถือเป็นรถมอเตอร์ไซค์คันที่เจ้าตัวก็รักมากเลยทีเดียว เพราะมีประสบการณ์ร่วมกันมาเป็นระยะเวลานาน (เท่าที่ฟังจากในคลิปนี่เรียกว่ารักสุดๆไปเลยล่ะครับ) ซึ่งจากการลองค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม Reeves เป็นคนที่ใช้รถมอเตอร์ไซค์ Norton คันนี้ในการเดินทางบ่อยมากที่สุด ถ้าเทียบกับรถในคอลเลคชันคันอื่นๆที่เขามี ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นัก ที่เราจะเห็นว่าเจ้ามอเตอร์ไซค์สุดคลาสสิคคันนี้ ถูกจอดในโรงงาน Arch Motorcycle ที่เขาเป็นผู้บริหารอยู่…
ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่า หากถามถึงรถซุปเปอร์ไบค์ หรือไฮเปอร์ไบค์ที่แรงและเร็วที่สุดในโลกตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้น Kawasaki H2 เจ้ายักษ์เขียวบ้าพลังที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 สูบเรียงพ่วงซุปเปอร์ชาร์จ แต่ในขณะเดียวกันมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเองที่เริ่มเติบโตขึ้นเรื่อยๆก็มีขุนพลอย่าง Lightning LS-218 ที่ดูเหมือนจะสามารถทำให้บรรลังก์ของเข้ายักษ์เขียวต้องสั่นคลอนได้ไม่มากก็น้อย เพราะเจ้านี่เองก็ได้ชื่อว่าเป็นซุปเปอร์ไบค์พลังไฟฟ้าเร็วที่สุดในโลก โดยหากดูจากสเปค ทางฝั่ง Kawasaki Ninja H2 นั้น ก็เคลมแรงม้าสูงสุดไว้ 231 PS กับแรงบิดอีก 141 นิวตันเมตร และมีน้ำหนักติดตัวมาอีก 238 กิโลกรัม สำหรับโฉมปัจจุบัน (โมเดลปี 2019) ส่วนทางฝั่ง Lightning LS-218 ก็เคลมแรงม้าสูงสุดที่มอเตอร์ไฟฟ้าไว้ที่ 200 HP พอเหมาะพอดี กับแรงบิดหลัก 228 นิวตันเมตร และมีน้ำหนักติดตัว 224 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าดูดีด้อยคนละจุด แต่นั่นมันก็แค่เพียงตัวเลขในหน้ากระดาษ ดังนั้นทางนิตยสารประเทศสหรัฐอเมริกาเจ้าดัง Motorcyclist Magazine จึงได้จับเอารถมอเตอร์ไซค์ทั้งสองโมเดลที่ว่ามาแข่งแดร็ก…
สำหรับเหตุทาง Kawasaki ที่ต้องแพ้ให้กับ Ducati ในศึก WSBK ไป 11 ครั้ง จากการแข่งขันทั้งหมด 11 เรซ คงต้องยอมรับจริงๆว่าส่วนนึงไม่ใช่แค่เพราะฝีไม้ลายมือของ Alvaro Bautista เท่านั้นที่ เอาท์คลาส นักบิดในสังเวียนเดียวกันไกล แต่ตัวแข่ง Panigale V4 เองก็เด็ดไม่แพ้กัน เพราะทางค่ายก็เคลมไว้ว่าเจ้านี่มี DNA ที่ใกล้เคียงกับตัวแข่ง Desmosedici ที่พวกเขาใช้ในศึก MotoGP ที่สุดเท่าที่เคยมีมา จากจุดนี้เองจึงทำให้ทาง Kawasaki ต้องทบทวนแนวคิดกับ ZX-10RR ตัวปัจจุบันใหม่เลยว่า พวกเขาควรที่จะใช้มันลงแข่ง WSBK ต่อไป หรือสร้างรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ขึ้นมาโดยอิงพื้นฐานจากตัวแข่ง MotoGP ในอดีตของพวกเขา ZX-RR มาดัดแปลงใหม่แล้วส่งลงไปเคี่ยวกับ Ducati Panigale V4 R ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ทาง Ichiro Yoda ผู้จัดการฝ่ายแข่งขันของ…
ผ่านไป 1 ปีพอดี นับตั้งแต่ที่ทาง Haojue ได้มีการปล่อยภาพสิทธิบัตรของสปอร์ตแน็คเก็ทไบค์ HJ300 หรือชื่อขายจริง DR300 ที่ว่ากันว่ามันคือหนึ่งในร่างจำแลงของ Suzuki GSX-S300 ออกมา และในวันนี้พวกเขาก็ได้ปล่อยคนเซทป์รถมอเตอร์ไซค์แนวนี้ขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งนั่นก็คือเจ้า Twin 300 ที่เห็นกันอยู่ในขณะนี้ หากให้อธิบายรายละเอียดตัวรถในเบื้องต้น เจ้า Haojue Twin 300 จะยังคงใช้พื้นฐานหลักเดียวกันกับ DR300 แทบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ชุดเฟรม, ระบบกันสะเทือนหน้าหัวกลับ / หลังสวิงอาร์มอลูมิเนียมทำงานร่วมกับโช้กเดียว, ระบบเบรก, ชุดล้อ, รวมถึงเครื่องยนต์ที่เป็นแบบ 2 สูบเรียง 298cc ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ 6 สปีด (แต่ไม่ได้เคลมกำลังสุทธิไว้) ก็เช่นกัน ส่วนจุดต่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือแฟริ่งรอบคัน ที่เราเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า Haojue คิดอะไร และ Suzuki จะนำดีไซน์นี้ไปดัดแปลงเป็น GSX-S300…
Valentino Rossi นักบิดวัยเก๋าจากสังกัด Monster Yamaha Factory Team เปิดเผยกับสื่อถึงสถานการณ์การแข่งขัน MotoGP หลังผ่านไป 3 สนาม กับทางสื่อว่า แม้ในตอนนี้ตนจะมีชื่อขึ้นเป็นอันดับ 2 ของตารางคะแนน นำหน้าผู้ชนะสนามล่าสุดอย่าง Alex Rins อยู่ 2 แต้ม แถมยังเป็นรอง Andrea Dovizioso ผู้นำเพียง 3 แต้มเท่านั้น ซึ่งมันดูเหมือนว่าจะสูสีและน่าลุ้น แต่เจ้าตัวกลับบอกว่า ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าหนู Marc Marquez ล้มในสนามล่าสุด ลำดับและความต่างของคะแนนจะต่างไปจากนี้โดยสิ้นเชิงเลย “ตอนนีเรามี 4 นักบิด ที่ใช้ตัวแข่ง 4 คันซึ่งแตกต่างกัน ติดอันดับท็อป 4 บนตารางคะแนน ดังนั้นมันเลยดูสูสีกัน (สำหรับตัวแข่ง)”, “กติกาทำให้การแข่งขันน่าติดตาม และบางครั้งนักบิดที่เร็วในการแข่งก็อาจจะเป็นคนที่หลุด Q2 เหมือนที่เกิดขึ้นกับ…
เรียกได้ว่าสำหรับช่วงเวลานี้นั้น มีเหล่าซุปเปอร์ไบค์หลายคันเลยทีเดียวที่ถูกประโคมข่าวว่ามันกำลังจะได้รับการปรับโฉมในเร็วๆนี้ และหนึงในโมเดลล่าสุดที่เราได้รับข้อมูลมาก็คือเจ้า Suzuki GSX-R1000 ซึ่งข้อมูลที่ว่าไม่ได้เป็ฯเพียงแค่ข่าวลือธรรมดาๆเท่านั้น แต่เป็นชุดภาพสิทธิบัตรที่ปรากฏให้เพื่อนๆได้เห็นชัดเจนกันอยู่ในขณะนี้ โดยหากพูดถึงการปรับปรุงในเบื้องต้น ถ้าสังเกตจากภาพสิทธิบัตรที่เราแนบเอาไว้ จะเห็นได้ว่า ช่วงแฟริ่งหน้าตัวรถที่ดูจะมีความแหลมทิ่มไปข้างหน้ามากกว่าเดิม ดูทรงคล้ายกับรุ่นพี่ K5-K7 ขณะที่ชุดแฟริ่งด้านข้างก็ออกแบบใหม่หมด ให้มันดูมีความโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ส่วนแครงก์เครื่องยนต์, ชุดเฟรม, เบาะนั่ง, และชุดท้ายของตัวรถ GSX-R1000 รุ่นใหม่นั้น แทบไม่ต่างจากเดิมเลยสักนิด นอกจากนี้ หากอ้างอิงจากสิทธิบัตรก่อนหน้า แน่นอนว่าสิ่งแรกที่จะถูกปรับปรุงใน New GSX-R1000 ก็คือ ชุดวาล์วแปรผัน ที่จากเดิมถูกควบคุมการทำงานด้วยตัวลูกปืน จะถูกปรับใหม่เป็นแบบสั่งเปิด/ปิดกลไกด้วยแรงดันน้ำมัน เหมือนอย่างที่ค่ายอื่นใช้งานกัน ทั้งใน Ducati, Honda, และ BMW ซึ่งประโยชน์ที่ได้จากการปรับปรุงชุดวาล์วแปรผันใหม่ก็ไม่ได้มีแค่เพียงช่วยให้เครื่องยนต์เผาไหม้ได้สะอาดหมดจดขึนเท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงย่านกำลังที่กว้างขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ดี เราเชื่อว่านี่ยังเป็นแค่ข้อมูลระลอกแรกที่ถูกปล่อยออกมาเพื่อเรียกน้ำย่อยเท่านั้น และหลังจากนี้คงจะมีข้อมูลของ New Suzuki GSX-R1000 หลุดเพิ่มออกมาเรื่อยๆภายในช่วงเวลาอันใกล้นี้อีกแน่นอน รอติดตามกันอย่างใกล้ชิดได้เลยครับ ขอบคุณข้อมูลจาก Bennetts อ่านข่าวสาร…
หลังจากที่เมื่อปีที่แล้ว จัดว่าเงียบเลยก็ว่าได้สำหรับทาง Suzuki เพราะมีเพียงแค่ Katana โมเดลเดียวเท่านั้นที่เปิดตัวแบบ All-New แต่ในปีนี้ดูเหมือนว่ามันจะต่างออกไปจากที่เคย เพราะพวกเขายังมีแอดเวนเจอร์ไบค์เจ้าพายุอย่าง All-New Suzuki V-Strom 1000 เตรียมเข้าคิวเปิดตัวร่วมกับคันอื่นๆด้วย หลังมีผู้พบเห็นว่ามันกำลังถูกขี่ทดสอบในประเทศฝรั่งเศส จากภาพที่เราได้รับมา (เพื่อนๆสามารถคลิกชมได้ที่นี่) ตัวรถ V-Strom 1000รุ่นใหม่นั้น ดูเหมือนว่ามันจะถูกแต่งหน้าทาปากใหม่ชนิดที่ว่าต่างจากเดิมออกไปแทบจำสิ้นเชิง ซึ่งเี่ยวกับเรื่องนี้ เราสามารถสังเกตความเปลี่ยนแปลงได้ทั้ง โคมไฟหน้า LED ที่เปลี่ยนจากแบบโคมทรงวงรี ให้เป็นแบบกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้า (สังเกตจากกรอบแสงที่ส่องออกมา), วิินชิลด์ด้านหน้า มีขนาดกว้างและสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด, และความหนาของช่วงแฟริ่งด้านข้างรถเองก็ดูบึกบึนขึ้นกว่าเดิมอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ทางสื่อต้นทางยังระบุอีกว่า แม้เปลือกภายนอกจะเปลี่ยนไป แต่ชุดเฟรมหลักของ V-Strom 1000 ทั้งสองคัน (หรือหนึ่งในนั้นอาจจะเป็น 650 ก็ได้) ที่อยู่ในรูป ยังมีลักษณะเหือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงเท่าไหร่นัก แม้แต่ตัวเครื่องยนต์เอง หากดูเผินๆก็ไม่ได้รู้สึกผิดแผกไปจากเดิม แต่หากอิงจากกฎมลพิษระดับ Euro5 ที่เตรียมบังคับใช้ในปี 2020 นี้แล้วล่ะก็…