ย้อนไปเมื่อ 4 ปีก่อน ทาง Honda ประเทศจีนได้สร้างเสียงฮือฮาไปทั่วโลกด้วยการเปิดตัว CB190R สปอร์ตแน็คเก็ทดีไซน์สุดล้ำชนิดที่ว่าแม้แต่คนในบ้านเราเองยังอิจฉาออกมา ซึ่งจากตอนนั้นจนตอนนี้ พวกเขาก็ได้มีแผนเปิดตัวไลน์อัพใหม่ของมาขึ้นมาอีกหนึ่งรุ่นโดยอิงแนวโน้มตลาดเดียวกันกับ Honda Global นั่นก็คือการปลุกกระแส Neo-Classic แบบ CB150R จนกลายเป็น CB190SS ที่เพื่อนๆกำลังเห็นอยู่ในขณะนี้ แน่นอนว่าสำหรับจุดเด่นที่เห็นได้จากภายนอกของเจ้า CB190SS คันนี้ ก็คือหนีไม่พ้นหน้าตาโดยรวมที่เลือกอิงที่มาจากตำนาน CB400SS มาใช้ แต่ดัดแปลงเส้นสายใหม่ให้ดูร่วมสมัยมากขึ้น ตั้แต่ไฟหน้าโคมกลม หลอดข้างในแบบ LED, หน้าจอมาตรวัดกึ่งดิจิตอล, ถังน้ำมันทรงโหนกขนาดใหญ่พร้อมแปะเอมเบลม Honda ทรงกลมสีแดง, เบาะนั่งตอนเดียวเย็บหนังหุ้มสีน้ำตาลเป็นลายตารางสีเหลี่ยมข้าวหลามตัดช่วงผู้ขี่, กาบข้างสีเงินแปะสติ๊กเกอร์ CB190SS สีเทา, และชุดล้อซี่ลวดที่รัดด้วยยางกึ่งหนาม ส่วนเครื่องยนต์เป็นแบบ 1 สูบ 184cc SOHC ระบายความร้อนด้วยอากาศ ระบบหัวฉีด PGM-Fi ให้กำลัง 16 แรงม้า (PS)…
Author: admin
แม้ว่า MV Agusta Brutale 800 RR จะไม่ใช่รถมอเตอร์ไซค์ที่อยู่ในกระแส และไม่ค่อยมีการปรับโฉมที่นอกเหนือจากชุดแฟริ่งแบบหวือหวาบ่อยเท่าไหร่นัก แต่ด้วยความที่ดีไซน์ดั้งเดิมและเปรียบเสมือนลายเซนต์ที่ดูงดงามและลงตัวของมันจึงทำให้ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นัก ที่ล่าสุดมันจะสามารถคว้างรางวัล “Design of the Year 2019” มาครอบครองไว้ได้ โดยสำหรับรางวัล “Design of the Year 2019” ที่ว่านี้ ถูกจัดขึ้นและตัดสินโดยสือใหญ่ Car India & Bike ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นสื่อที่ใีความน่าเชื่อถืออย่างมากในประเทศอินเดีย นอกจากนี้ยังเป็นทราบกันดีว่าในประเทศแห่งนี้มีเหล่าผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์หลากหลายแบรนด์มากกว่าเราเสียอีก ดังนั้นการที่เจ้า Brutale 800 RR สามารถคว้ารางวัลที่เหนือกว่าคู่แข่งจำนวนมากมายมาได้ก็ต้องยอมรับว่าไม่ธรรมดา ส่วนข้อมูลตัวรถ 2019 MV Agusta Brutale 800 RR ที่ใช้ในการประกวด แน่นอนว่าต้องเป็นรุ่นปกติหรือพื้นฐาน เพื่อให้เท่าเทียมกับคู่แข่งคันอื่นๆ และด้วยสเปคสิ่งต่างๆที่ให้มากับรถทั้งเครื่องยนต์ 3 สูบเรียง 798cc…
หลังจากที่ทาง Yamaha ได้มีการเปิดตัวมอเตอร์ไซค์ตระกูล MT-07/MT-09 และ Tracer 700/Tracer 900 รุ่นปรับสีใหม่รับปี 2019 กันไปแล้ว มาตอนนี้ก็ถึงเวลาของพี่น้องพื้นฐานเดียวกันอย่าง XSR900 และ XSR700 บ้าง ที่จะได้รับการปรับโฉมใหม่เสียที เริ่มจากฝั่งพี่ใหญ่ XSR900 ที่มาพร้อมกับสีใหม่ทั้งหมด 3 เฉดด้วยกัน ได้แก่สีน้ำเงิน “Dal Purple Blue Metallic X” ที่มีจุดเด่นคือแถบสติ๊กเกอร์สีน้ำเงินอ่อนคาดตรงกลางสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งมาแทนสีแดงตัดแถบเทาของโฉมปี 2018 อีกเฉดคือ สีเทา Matt Gray Metallic 3 ซึ่งแม้ว่าจะเป็นสีที่มีมาตั้งแต่ปี 2018 แต่ก็มีการเย็บหนังเบาะให้เล่นสีทูโทนนิดๆช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวรถได้เป็นอย่างดี และเฉดสุดท้ายคือ สีดำ Black metallic X ที่มาพร้อมกับลายแถบเล็กๆสีขาว ซึ่งเป็นลายดั้งเดิมตั้งแต่ตอนเปิดตัวครั้งแรกนั่นเอง ด้านน้องรอง XSR700 โฉมปี…
เปิดผ้าออกแล้วเรียบร้อยสำหรับ Honda CB150R – Streetster ที่มาพร้อมกับนิยามใหม่ “สายเข้มเต็มข้อ บิดต่อไม่รอใคร” พร้อมดึง “ก๊อต จิรายุ ตันตระกูล” มาเป็นพรีเซนเตอร์หลักประจำตัวรถด้วยบุคลิก เท่ เก๋า แบบแมนแมน ซึ่งหน้าตาตัวรถจริงๆจะเป็นอย่างไรนั้น เรามาดูตามจุดเด่นๆของตัวรถ Honda CB150R Streetster กันได้เลยครับ – Inner Pivot Type Diamond Frame โครงสร้างเฟรมแบบถัก วัสดุทำจากเหล็กกล้า (Steel) แข็งแรงทนทานน้ำหนักเบา ออกแบบตามหลักทฤษฎีรถแข่ง RC213V ในการบาลานซ์น้ำหนักมวลรวม(จุดศูนย์ถ่วง) ไว้ที่กึ่งกลางตัวรถ ช่วยให้ผู้ขับขี่คอนโทรลรถได้คล่องแคล่วปราดเปรียวดั่งใจสั่ง ในทุกขณะขับขี่ทั้งทางตรง ทางโค้ง แม้ในช่วง ความเร็วสูง – Full LED Lighting System เท่ ด้วยไฟหน้าทรงกลมสไตล์ Modern และระบบส่องสว่าง…
หลังจากที่มีการสร้างความเอกเกริกอยู่เป็นช่วงสั้นๆ ในที่สุดก็ถึงเวลาเสียทีกับการเปิดตัวเจ้า 2019 Honda CB150R – The StreetSter กับนิยามใหม่ “สายเข้มเต็มข้อ บิดต่อไม่รอใคร” จากทาง A.P. Honda โดยสำหรับการเปิดตัวในครั้งนี้ ทาง A.P. Honda ก็ได้ทำการดึง “ก๊อต จิรายุ ตันตระกูล” มาเป็นพรีเซนเตอร์หลักประจำตัวรถ ซึ่งดูเข้ากันดีเลยทีเดียวกับลุกของ CB150R – The StreetSter รุ่นปรับสีใหม่ปี 2019 ที่ประกอบไปด้วย 3 เฉดด้วยกัน ได้แก่ แดง-ดำ, ดำ, และ ขาว-ดำ (เฉพาะรุ่นไม่มี ABS) ซึ่งทั้ง 3 เฉดจะมีการตกแต่งด้วย “สติ๊กเกอร์กราฟฟิกแบบใหม่” ที่ช่วยทำให้ตัวรถดูโดดเด่น แล้วโมเดิร์นมากขึ้น นอกจากนี้ยังเสริมภาพลักษณ์สะดุดตาขึ้นไปอีกด้วยคาลิปเปอร์เบรกสีแดงสุดร้อนแรงทั้งปั๊มหน้าและปั๊มหลัง ขณะที่ตัวเครื่องยนต์สูบเดียว 149cc นั้น…
จากกรณีข่าวคราวการมาของ Ducati Streetfighter V4 ในพักหลังๆ รวมถึงข่าวลือว่ามันจะปรากฏตัวในการแข่งขัน Pikes Peak ครั้งล่าสุด แต่ตอนนี้เรามีข้อมูลใหม่ที่น่าสนใจกว่านั้น ซึ่งน่าจะช่วยการันตีได้ว่าอย่างน้อยๆ เจ้าสปอร์ตแน็คเก็ทระดับตำนานของค่ายอิตาลีรายนี้ ก็จะต้องมีรุ่นใหม่ให้เราได้ยลโฉมกันแน่นอน โดยสำหรับข้อมูลที่ว่านั้นก็คือ บทสัมภาษณ์ของทางสื่อสวิสเซอร์แลนด์ Acidmoto.com ที่ได้มีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับ Claudio Domenicali ผู้บริหารสูงสุดของ Ducati ถึงประเด็นต่างๆเกี่ยวกับอนาคตต่อไปของค่าย ซึ่งส่วนหนึ่งก็มีการถามถึง Streetfighter V4 และเราก็ได้ยกบทสัมภาษณ์มาไว้ตรงนี้ AcidMoto.ch : เอาล่ะครับ งั้นเรามาพูดถึง V4 กันหน่อย, Panigale V4 R ชนะทุกการโหวต แม้ว่าเราจะยังไม่เคยทดสอบมันเลยก็ตาม, คือพวกเราพอจะหวังได้หรือไม่ว่าเครื่องยนต์ V4 ลูกนี้จะไปอยู่กับมอเตอร์ไซค์รุ่นอื่น ยกตัวอย่างเช่น Streetfighter V4 ? Claudio Domenicali : แล้วคุณคิดว่าเราควรทำมันมั้ยล่ะ ? AcidMoto.ch…
ย้อนไปเมื่อสัปดาห์ก่อน เราได้มีการนำเสนอระบบวาล์วแปรผันไปแล้วว่ามันมีดีอะไรยังไงบ้าง มาคราวนี้ ก็ถึงเวลาของอีกหนึ่งระบบวาล์วที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะมันจะถูกออกแบบและติดตั้งไว้แค่ในรถมอเตอร์ไซค์ของ Ducati เท่านั้น นั่นก็คือระบบวาล์วแบบ “Desmodromic” ซึ่งรายละเอียดของระบบวาล์วนี้จะเป็นอย่างไร ? เรามาดูกันเลยดีกว่าครับ แต่ก่อนที่เราจะไปพูดถึงระบบวาล์วแบบ Desmodromic เราขอพูดถึงระบบวาล์วพื้นฐานที่มีใช้แบบทั่วไปในรถมอเตอร์ไซค์รุ่นอื่นๆที่ไม่ใช่ของ Ducati ก่อน โดยหากให้อธิบายแบบคร่าวๆ ทั้งก่อนหน้านี้ที่เราได้กล่าวไว้ในบทความระบบวาล์วแปรผัน ว่าตัววาล์ว ที่เปรียบเสมือนกับประตูที่ใช้ในการเปิดเพื่อเอาไอดีเข้า และเปิดเพื่อระบายไอเสียออกนั้น จะมีตัวแคมชาฟท์ที่คอยกดให้วาล์วขยับขึ้น/ลงเพื่อเปิดช่องว่างของประตู่ที่ว่า (หรือในเครื่องยนต์บางรุ่นก็จะใช้กระเดื่อง แต่ยังไงตัวแคมชาฟท์ก็คือตัวที่ควบคุมให้วาล์วเปิดออกอยู่ดี) แต่อันที่จริงแล้ว แค่แคมชาฟท์เพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้วาล์วที่ถูกดันเปิดลงไปนั้น ขยับกลับมาตำแหน่งปิดเหมือนเดิมได้ ดังนั้นมันจึงต้องมีสปริงช่วยดันวาล์วกลับ เพื่อไม่ให้วาล์วอ้าอยู่อย่างนั้น ซึ่งดูๆแล้วเหมือนมันจะไม่มีปัญหาอะไร แต่จริงๆมันมี กล่าวคือ แม้ตัวสปริงที่ใช้ดันวาล์วนั้น จะสามารถดันวาล์วให้กลับสู่ตำแหน่งปิดสนิทได้ แต่เมื่อตัวรถใช้รอบสูง(มากๆ) หลายครั้งตัวสปริงอาจจะดันวาล์วกลับไม่ทันหรือไม่สัมพันธ์กับแคมชาฟท์ เนื่องจากค่าคงตัวของสปริง (ค่า K) มีไม่มากพอทีจะดีดวาล์วกลับด้วยความเร็วขนาดนั้นได้ จนทำให้เกิดอาการวาล์วลอย ซึ่งถ้าอาการไม่หนักมาก ก็อาจจะแค่เดินรอบไม่เนียน เพราะอากาศหมุนเวียนไม่สัมพันธ์กันกับการขยับขึ้น/ลงของลูกสูบ แต่ถ้าหนักมากๆ ตัววาล์วอาจจะกระทบกับลูกสูบจนลูกสูบเป็นรอย/แตก และตัววาล์วเองก็อาจจะคดจนไม่สามารถปิดช่องไอดี/ไอเสียได้สนิท แล้วเสียกำลังอัดในห้องเผาไหม้ในที่สุด ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ…
เหลืออีกเพียงหนึ่งวันแล้วเท่านั้นสำหรับศึก Asia Road Racing 2019 ที่กำลังจะเปิดฤดูกาลสัปดาห์การแข่งขันจริง ของสนามแรกในวันพรุ่งนี้ แต่ก่อนหน้านั้นทางคณะกรรมการได้มีการจัดรอบเทสก่อนการแข่งขัน หรือ พรีซีซันเทส โดยผลปรากฏว่า “ติ๊งโน๊ต – ฐิติพงศ์ วโรกร” นักบิดสัญชาติไทยเราจาก Kawasaki Thailand Racing Team นั้นทำเวลาได้ดีเลยทีเดียวในคลาส ASB1000 รุ่นใหญ่สุดที่พึ่งมีการเปิดใหม่ปีนี้ ด้วยการติดอันดับ ท็อป 3 จากการนับเวลาแบบ Overall (รวมผลเวลาทั้งหมดจากการเทสที่ 5 เซสชัน) ด้วยตัวเลขเวลา 2’06.879 นาที ตามหลังผู้ทำเวลาดีสุดคือ Brock Parkes ซึ่งเป็นนักแข่งสัญชาติออสเตรเลียอยู่ 0.804 วินาที ขณะที่นักบิดสัญชาติไทยคนอื่นๆที่เป็นทีมเมทของ “ติ๊งโน้ต” อย่าง “ซีเค – ชัยวิชิต นิสกุล” นั้น ดูเหมือนจะยังต้องใช้เวลาในการปรับตัวอีกนิดในการแข่งขันนี้เนื่องจากทำเวลาเข้ามาเป็ฯลำดับที่ 8…
Praëm สำนักแต่งและออกแบบรถแนวคัสตอมจากฝรั่งเศสที่เคยฝากผลงานไว้เมื่อปลายปี 2015 นั่นก็คือ Praëm SP3 โดยใช้พื้นฐานจาก Honda RC-51 ที่ทางสำนักได้จัดการเปลี่ยนโฉมใหม่หมดทั้งคันด้วยการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์และมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งในตอนนี้พวกเค้าได้สร้างผลงานที่น่าสนใจขึ้นอีกชิ้น โดยใช้พื้นฐานตัวรถจาก BMW S1000RR (โมเดลปี 2016) ในชื่อ Praëm Optimus
ปล่อยออกมาแล้วสำหรับ MV Beginner ซิงเกิ้ลลำดับที่ 6 ของทาง BNK48 วงไอดอลมาแรงที่สุดในช่วงเวลานี้ โดยซิงเกิ้ลที่ว่านอกจากจะเป็นซิงเกิ้ลที่ได้ เฌอปราง อารีย์กุล กัปตันของวงมาเป็นเซนเตอร์ประจำเพลงครั้งแรกแล้ว น้องๆยังต้องลงทุนขี่เจ้า Honda CRF250L เพื่อประกอบ MV ให้เข้าธีมอีกด้วย และสำหรับธีมที่ว่าของเพลง Beginner ในครั้งนี้นั้น จะว่าด้วยเรื่องการที่ต้องสู้กับ อุปสรรคต่างๆในชีวิต ด้านมืดของตนเอง เพื่อที่จะกล้าก้าวต่อไปในวันข้างหน้าเพื่อสิ่งที่ฝัน หรือสรุปก็คือเป็นเพลงที่มีความหมายเพื่อให้กำลังใจสำหรับใครที่หมดหวังนั่นเอง และด้วยความที่น้องๆต้องใช้ภาพลักษณ์แบบนักเลงญี่ปุ่น ดังนั้นทางทีมงานจึงเลือกให้น้อง 3 คนที่เป็น 3 อันดับแลกของการเลือกตั้งเซนเตอร์เพลงนี้ BNK48 “6th SINGLE SENBATSU GENERAL ELECTION” อย่าง เฌอปราง ผู้ซึ่งเป็นกัปตันวง และเป็นเซนเตอร์เพลงนี้, เจนนิส หรือ จอนอ, และ มิวสิค หรือ เจ้าสิค เป็นผู้ขี่…