หลังมีการปล่อยคอนเซปท์ออกมาให้เห็นเป็นครั้งแรกในฐานะคอนเซปท์ไบค์ไปเมื่อปลายปี 2016 ในงาน EICMA Show และกลับมาโชว์ตัวอีกครั้งด้วยหน้าตาที่ดูสมกับความเป็นโปรดักชั่นไบค์มากขึ้นในงานเดียวกันแต่เป็นช่วงปลายปี 2017 มาคราวนี้ ปี 2018 ในที่สุดทาง Vespa ก็ได้ประกาศอย่างเป็นทางการซักทีว่าพวกเขาจะจำหน่ายเจ้า Elettrica สกูตเตอร์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเป็นคันแรกของทางค่ายในช่วงต้นปี 2019 โดยสำหรับข้อมูลเรื่องของดีไซน์ภายนอกของเจ้า 2019 Vespa Elettrica คันนี้นั้นถือว่าอิงลายเส้นส่วนใหญ่มาจาก 2018 Primavera จะมีจุดต่างกันเล็กน้อยตรงล้ออัลลอยด์ใหม่ที่ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยวมากขึ้น กับชุดสีที่มีการรองพื้นด้วยสีเทา และตัดโทนด้วยการแต้มสีน้ำเงินไปตามชิ้นส่วนจุกจิกเล็กๆเพื่อบ่งบอกความเป็น EV-Bike ด้านพละกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าติดรถนั้นทาง Vespa ระบุไว้ว่า 2019 Elettrica มีตัวเลขแรงม้าตอนขับขี่ปกติที่ 2 กิโลวัตต์ หรือ 2.68 แรงม้า และมีตัวเลขพละกำลังสูงสุดอีก 4 กิโลวัตต์หรือ 5.36 แรงม้าไว้ใช้ตอนแซง ส่วนระยะทางการขับขี่ต่อการชาร์จแบตเตอร์รี่เต็มหนึ่งครั้งนั้นก็อยู่ที่ประมาณ 100 กิโลเมตร และถ้าหากแค่นั้นยังไม่พอ ทางค่ายก็มีเวอร์ชั่นพิเศษที่ใช้ชื่อว่า Elettrica X…
Author: admin
หลังคาดเดากันอยู่นานสองนานว่าทาง Kawasaki จะเปิดตัว Ninja 125 และ Z125 ตามข่าวลือที่มีการกล่าวถึงมาตลอดในช่วงเดือนสองเดือนที่ผ่านมาจริงหรือไม่ ในที่สุดเราก็ได้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า มันจะมีการเปิดตัวจริงแน่นอน และคาดว่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้อีกด้วย ล่าสุด Kawasaki EU ปล่อยสโลแกน “The Toughest Choice” กับ Teaser ใหม่ ยืนยันการมาของ Ninja125 กับ Z125 ใหม่ (หรือที่จะกลายเป็น Ninja150, Z150 เวอร์ชั่นบ้านเรา) ด้านวันเวลาเปิดตัวอย่างเป็นทางการดูเหมือนว่าจะตรงตามการวิเคราะห์ก่อนหน้า นั่นก็คือช่วงงาน INTERMOT 2018 ที่จะจัดขึ้นในช่วงวัน 2-7 ตุลาคม ซึ่งเท่ากับอีกราวๆ 1 เดือนนับจากนี้พอดี ส่วนข้อมูลตัวรถในเบื้องต้นของ ทั้ง Ninja 125 และ Z125 นั้นมีการระบุมาก่อนหน้านี้แล้วว่า ทั้งสองจะใช้พื้นฐานตัวรถเดียวกันกับ Ninja 250SL และ…
หลังจากที่ได้ข้อสรุปเป็นที่แน่นอนแล้วว่า “สภาพผิวแทร็ค” ของสนามนั้น “ย่ำแย่เกินไป” จนเป็นเหตุให้การแข่งขัน MotoGP 2018 สนามที่ 12 ต้องยกเลิกไปในที่สุด ทำให้เหล่าผู้ใหญ่เริ่มถกประเด็นว่าจะแก้ไขปัญหานี้กันอย่างไร ซึ่งผลจากการถกประเด็นที่ว่านั้นอาจจะไปจบตรงที่การปรับผิวแทร็คใหม่อีกครั้ง โดยจากข้อมูลบทสัมภาษณ์ ของผู้บริหาร Dorna ล่าสุด ได้มีการเสนอแนะไว้ว่า หากทางสนาม Silverstone อยากจะทำสัญญาการแข่งขันต่อไปในปี 2021 (สัญญาหมดปี 2020) พวกเขาจำเป็นที่จะต้องปรับผิวสนามใหม่ให้สามารถรองรับได้ทุกสภาพอากาศมากกว่านี้ เนื่องจากในปัจจุบัน แม้ตอนแทร็คแห้ง เหล่านักบิดจะสามรถทำการแข่งขันได้ปกติ แต่ถ้าเกิดฝนตกจนมีเหตุการณ์แบบนี้แล้วต้องยกเลิกการแข่งขันโดยไม่จำเป็น มันก็คงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก ซึ่งทางฝั่งของพวกเขาเองก็จะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสนามด้วยเช่นกัน เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำอีก อย่างไรก็ตาม ทางฝั่งผู้จัดสนาม ยังคงยืนยันเช่นเดิมว่า การปรับผิวสนามไปตอนเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ไม่ได้เป็น “สาเหตุหลัก” ให้การแข่งขัน MotoGP สนามล่าสุดต้องยกเลิกไป ทั้งๆที่หากอ้างอิงจากบทสัมภาษณ์ของเหล่าคณะกรรมการและนักบิดทั้งหลายที่ปล่อยออกมาช่วงต้นสัปดาห์ จะพบว่าตัวผิวแทร็คไม่สามารถระบายฝนออกจากผิวหน้าของตัวมันเองได้ แถมยังมีความเป็นลอนคลื่นมากเกินกว่าจะยอมรับได้ว่าเป็นผิวแทร็คใหม่ที่พึ่งปรับมาได้เพียงครึ่งปีเท่านั้น อ่านข่าว MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ…
จากความจริงที่ว่ากระแสการมาของ 2019 Honda CBR1000RR รุ่นใหม่ที่คาดว่าจะพกเอาแรงม้าสูงสุดติดตัวมาถึง 215 ตัว (PS) เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ดูเหมือนว่าทาง Kawasaki เองก็คงหวั่นใจไม่น้อยเช่นกัน จนทำให้พวกเขาน่าจะเลือกอัพเกรดเครื่องยนต์ของ ZX-10R ใหม่ให้แรงขึ้นกว่าเดิมไว้รอ หลังจากที่มีเอกสารระบุไว้ชัดเจนว่าค่าไอเสียของ 2019 ZX-10R นั้นเปลี่ยนไปจากเดิมตอนปี 2018 โดยเอกสารที่เราพูดถึงอยู่นี้ก็คือ เอกสารมลพิษของ ZX-10R รุ่นปี 2019 ที่ทาง Kawasaki ได้ยื่นไว้ให้กับทางกรมมลพิษ รัฐแคลิฟอร์เนีย (CARB) ซึ่งจะเห็นได้ว่าตัวเลขมลพิษที่ถูกปล่อยออกมานั้นเพิ่มขึ้นจากโฉมปี 2018 อยู่เล็กน้อย ซึ่งสื่อได้ถึงอัตราการเผาไหม้เชื้อเพลิงที่สูงขึ้น และในเมื่ออัตราการเผาผลาญเชื้อเพลิงสูงขึ้น กำลังแรงม้าสูงสุดก็ย่อมที่จะเพิ่มตามนั่นเอง (ไม่น่าจะหมายถึงอัตราการกรองไอเสียที่แย่ลง เพราะคงไม่มีใครทำ) สำหรับตัวเลขแรงม้าสูงสุดของ Kawasaki ZX-10R รุ่นปัจจุบัน นั้นอยู่ที่ 200-210 แรงม้า (PS) ขึ้นอยู่กับการทำงานของ RAM Air ซึ่งแค่นี้ก็มากพอจนขึ้นแท่นเป็นซุปเปอร์ไบค์สัญชาติญี่ปุ่นที่มีแรงม้าสูงสุดอยู่แล้ว…
หลังจากที่เมื่อช่วงสัปดาห์ก่อนเราได้นำเสนอไปแล้วว่าทาง Honda ได้ทำการยื่นเอกสารมลพิษของ CBR600RR รุ่นใหม่เป็นที่เรียบร้อยเพื่อจำหน่ายในฐานะโมเดลปี 2019 ซึ่งข้อมูลที่เอกสารดังกล่าวระบุไว้นั้นส่วนใหญ่จะเป็นในเรื่องของค่าไอเสียที่เครื่องยนต์ปล่อยออกมา และปรากฏว่าค่าที่ไอเสียที่ว่านี้ของ 2019 CBR600RR ดันเหมือนกับ 2016 CBR600RR ไม่มีผิดเพี้ยน ทำให้พอจะสรุปใจความได้ว่าแท้จริงแล้ว Honda จะยังคงใช้เครื่องยนต์บล็อคเดิมในการทำตลาดต่อไป โดยอาจจะรวมถึงโครงสร้างตัวรถอื่นๆด้วย หรือว่าง่ายๆก็คือ ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆของ 2019 CBR600RR นอกจากชุดสีเท่านั้น อย่างไรก็ดียังมีอีกหนึ่งข้อมูลที่ระบุไว้ในเอกสาร นั่นก็คือตัวเลขน้ำหนักที่หายไปถึง 10 กิโลกรัม ซึ่งในเอกสารของ CBR600RR ปี 2016 ได้ระบุเอาไว้ที่ 280 กิโลกรัม (น้ำหนักจริงๆของตัวรถแบบรวมของเหลวคือ 186 กิโลกรัม ซึ่งเราเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าน้ำหนักที่เกินมา 95 กิโลนั้นเพิ่มมาจากไหน แต่คาดว่าจะเป็นน้ำหนักเฉลี่ยของผู้ใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกา) ขณะที่ CBR600RR ปี 2019 ระบุไว้ต่ำกว่าคือ 270 กิโลกรัม ทำให้เกิดการวิเคราะห์กันไปอีกแบบที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยการวิเคราะห์ใหม่ที่ว่านี้ก็คือ…
นักบิดดาวรุ่งค่ายปีกนก “เลิฟ” ธีรเทพ ต้านชัง รับตัดสินใจผิดพลาดรีบเดินคันเร่งเกินไป ในศึก เอ.พี.ฮอนด้า อะคาเดมี่ สนาม 5 เป็นเหตุให้วืดเก็บแต้มทั้งสองเรซ ลั่นตั้งเป้าเหมาดับเบิลแชมป์สนามหน้า ที่พีระ โกคาร์ท จ.ชลบุรี วันที่ 29-30 ก.ย.นี้ เจ้าหนูนักบิดสายเลือดใหม่ของ เอ.พี.ฮอนด้า “น้องเลิฟ” ธีรเทพ ต้านชัง วัย 12 ปี จากชลบุรี หนึ่งในตัวเต็งศึกบิดล่าฝัน “เอ.พี.ฮอนด้า อะคาเดมี่” ซีซั่นแรกประจำปี 2018 ออกมายอมรับความผิดพลาดของตัวเอง หลังเสียโอกาสเก็บคะแนนสะสมสองเรซล่าสุด ที่สนาม J.S.W. มอเตอร์สปอร์ต โกคาร์ท จ.นครสวรรค์ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา “ผมพลาดเพราะใจร้อนเกินไปครับ เรซที่หนึ่งเปิดคันเร่งในโค้งแรกเร็วไปหน่อย ทำให้ล้อหลังสไลด์ปัดขวางกลางลำและล้มลงในที่สุด แต่ผมไม่ยอมแพ้นะครับ หลังตีธงแดงไปแล้ว ผมลุกขึ้นมาจะขอแข่งต่อ แต่การตีธงแดงเกิดขึ้นเพราะผม ดังนั้น ตามกติกาแล้วจึงแข่งต่อไม่ได้” “ส่วนเรซที่สองน่าเสียดายมากครับ…
กลับมาอีกครั้งกับข้อมูลของ CBR1000RR ที่ในช่วงหลังๆมานี้หลายสื่อได้ปล่อยข้อมูลออกมาบ่อยเหลือเกินว่าทาง Honda มีแผนที่จะเปิดตัวโฉมใหม่หมดจดเร็วๆนี้ ทั้งที่โมเดลปัจจุบันพึ่งทำตลาดมาได้ยังไม่ถึง 2 ปีดีเลยด้วยซ้ำ จากข้อมูลเรื่องแนวทางการเปลี่ยนแปลง ที่ทางสื่อทั้งหลายได้ลงเอาไว้นั้น เราสามารถจับใจความเป็นประเด็นได้หลายข้อ แต่หลักๆแล้วจะมีความหมายในแนวทางเดียวว่าทาง Honda ต้องการปรับให้ CBR1000RR รุ่นใหม่มีความเป็นสปอร์ตเรพพลิก้ามากขึ้น โดยใช้แนวคิดของรุ่นน้องอย่าง CBR250RR เป็นตัวตั้ง (นั่นก็คือการรวมทุกฟีเจอร์ล้ำสมัยเท่าที่มีมาใส่เพื่อให้ตัวรถเป็นที่สุดของรุ่น) โดยสำหรับประเด็นการเปลี่ยนแปลงต่างๆนั้นเราได้สรุปเป็นข้อๆดังนี้ – เป็นโมเดลที่นำเอาเทคโนโลยีในการแข่ง MotoGP ช่วง 10 ปีที่ผ่านมาใส่ลงไปบนตัวรถให้มากที่สุด – เปลี่ยนรูปลักษณ์และเสริมสมรรถนะตัวรถให้มีความเป็นซุปเปอร์สปอร์ตมากที่สุด (ดังที่เห็นในรูป) – เสริมชุดท่ออากาศ RAM-Air โดยใช้ Know How จาก CBR600RR – ปรับเครื่องยนต์ให้รีดรอบได้สูงขึ้นกว่าเดิม และเพิ่มแรงม้าให้เทียบเคียงกับ GSX-R1000 (202 แรงม้า) – รีดน้ำหนักตัวรถให้เบากว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งแต่เดิมก็เบาเป็นอันดับต้นๆของคลาสอยู่แล้ว – ตัด Unit…
หากพูดถึงอาวุธปืนไรเฟิลที่น่าจะเป็นขวัญใจอันดับต้นๆของใครหลายๆคน เชื่อได้เลยว่าเจ้าปืนรุ่น AK47 หรือที่เรียกกันติดปากในบ้านเราว่า “อาก้า” จะติดอยู่ในลิสต์นี้ด้วยแน่นอน แต่เพื่อนๆทราบหรือไม่ว่า นอกจากการที่ทาง Kalashnikov จะต้องผลิตปืนรุ่นนี้ให้กับเหล่ากองทัพรัสเซียแล้ว ในปัจจุบันพวกเขายังต้องผันตัวมาทำรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสำหรับใช้งานทางการทหาร ซึ่งนั่นก็คือเจ้า UM-1 และ SM-1 ที่เพื่อนๆกำลังเห็นอยู่ตอนนี้ด้วย โดยสำหรับข้อมูลในเบื้องต้นของฝั่ง UM-1 นั้น จะถูกสร้างขึ้นมาด้วยรูปโฉมของมอเตอร์ไซค์แนวเอนดูโร่ ตามชื่อเต็มที่เรียกว่า “Urban Moto” ดังนั้นเราจึงเห็นได้ว่าเจ้า UM-1 คันนี้จะมาพร้อมกับชุดล้อรัดด้วยยางหนาม, ชุดระบบกันสะเทือนยกสูงพร้อมเซ็ทระยะยุบยาวพิเศษ, และกระเป๋าข้าง เป็หน้าตาขีั้นพื้นฐาน ส่วนทางฝั่งของ SM-1 เองก็จะมาด้วยรูปลักษณ์แบบ “Super Moto” ดังนั้นแม้ตัวยางติดรถที่ให้มาจะเป็นแบบยางหนาม แต่การเซ็ทช่วงล่างในเบื้องต้นจะถูกออกแบบไว้ให้ลดความสูงของตัวรถลง และเผยให้เห็นโครงสร้างตัวรถที่เป็นเหล้กถัก เพื่อเสริมลุคให้ดูเหมาะกับการโช์พาวในเมืองมากขึ้น ด้านข้อมูลตัวรถอื่นๆของ SM-1 และ UM-1 ก็มีทั้งน้ำหนักตัวที่อยู่ราวๆ 165 -245 กิโลกรัม (ขึ้นอยุ่กับส่วนพ่วงที่จะเสริมเข้าไป), ชุดแบตเตอร์รี่ LiFePO4 ที่รองรับระบบ…
แม้ว่าจะเปิดตัวออกมาได้ไม่นานนัก แต่ดูเหมือนว่าหน้าตาของเจ้า 302R ของทาง Benelli จะดูธรรมดาและไม่ถูกใจดีไซน์เนอร์ชาวอินเดียรายหนึ่งเท่าไหร่ ทำให้เจ้าตัวเลือกออกแบบสปอร์ตไบค์พิกัด 300cc ของแบรนด์นี้ใหม่ด้วยตัวเองซะเลย และสุดท้ายผลลัพท์ที่ได้จึงได้ออกมาเป็นเจ้า Sport 2018 ที่เรากำลังเห็นกันอยู่ในตอนนี้ โดยสำหรับคอนเซปท์หรือแนวคิดการออกแบบในเบื้องต้นนั้น ทางผู้ออกแบบได้ระบุไว้ชัดเจนว่า ต้องการสร้างลายเส้นตัวรถให้ดูเหมือนกับ “หมาป่า” ซึ่งเป็นสัตว์ประจำชาติอิตาลี ประเทศบ้านเกิดของแบรนด์ Benelli นั่นเอง ดังนั้นเราจึงเห็นได้ชัดเจนเลยทีเดียวว่านอกจากพื้นฐานตัวรถอย่างโครงหลัก, โช้กหลัง, แครงก์เครื่อง ที่อิงหน้าตาจากรถมอเตอร์ไซค์ที่ทำขายจริงอย่าง 302R/BN302 แล้วชุดเปลือกนอกของมันก็ล้วนออกแบบด้วยลายเส้นดุดัน ปราดเปรียว พร้อมที่จะกระโจนไปข้างหน้า เหมือนหมาป่ากำลังวิ่งไล่ล่าเหยื่อยังไงยังงั้น อย่างไรก็ดี ด้วยความที่ภาพชุดนี้เป็นเพียงแค่ภาพเรนเดอร์จากดีไซน์เนอร์ฝีมือดีชาวอินเดียเท่านั้น ไม่ได้เป็นภาพคอนเซปท์ออฟฟิซเชียลจาก Benelli แต่อย่างใด ทำให้ในตอนสุดท้ายแล้ว เราคงไม่มีโอกาสได้เห็นเจ้า Benelli Sport 2018 คันนี้ถูกวางจำหน่ายในอนาคตแน่นอน (เว้นเสียแต่ว่าทางค่ายจะนึกเห็นดีเห็นชอบและอยากขอใช้ดีไซน์นี้มาทำขายจริงล่ะก็นะครับ แต่ก็เป็นไปได้ยากอยู่ดี) ขอบคุณภาพจาก Avhirup Ghosh อ่านข่าว Benelli เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ…
เงียบหายไปเกือบ 5 เดือนเลยทีเดียวสำหรับข่าวคราวของ Suzuki Hayabusa รุ่นใหม่ที่ก่อนหน้ามีแค่ข้อมูลภาพเรนเดอร์เพียงชุดเดียว กับข้อมูลเก่าของเครื่องยนต์ที่เป็นการคาดคะเนจากสื่อญี่ปุ่นให้ได้พูดถึงกันสั้นๆเท่านั้น แต่ในที่สุด เราก็ได้รับอีกหนึ่งข้อมูลสำคัญให้ได้พูดถึงกันอีกครั้ง หลังจากที่พวกเขาได้จดตราสัญลักษณ์ใหม่ของเจ้า “เหยี่ยวอ้วน” รุ่นนี้ขึ้นมา แม้ว่าในเบื้องต้นจะมีการใช้คำจำกัดความ หรือคำอธิบายว่า เครื่องหมายนี้ถูกทำขึ้นเพื่อใช้กับ วัตถุ, เสื้อผ้า, เครื่องเขียน, เครื่องประดับ, และอื่นๆ ซึ่งไม่ได้มีการระบุไว้เลยซักนิดว่าทาง Suzuki จะนำตราสัญลักษณ์นี้ไปใช้กับรถมอเตอร์ไซค์ อย่างไรก็ดี ด้วยความที่ว่าอายุอานามของ Hayabusa รุ่นปัจจุบันนั้นถือว่า นานโขเอาเรื่อง และสมควรแก่การปรับโฉมครั้งใหญ่กันซักที ประกอบกับข้อมูลอีกหลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่น ชุดเฟรมที่จะถูกออกแบบให้มีน้ำหนักเบากว่าเดิม รวมถึงเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 1,400cc ที่คาดว่าจะมาพร้อมกับระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเจอร์ ทำให้มีความเป็นไปได้สูงมากที่ ตราสัญลักษณ์ที่จดขึ้นมาใหม่จะเป็นตัวบ่งบอกว่าช่วงเวลาการเปิดตัว “เหยี่ยวอ้วน-เทอร์โบ” จะต้องเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ ขอบคุณข้อมูลจาก Visordown อ่านข่าว Suzuki เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ…