แม้ว่าเอาจริงๆในปัจจุบันทาง Ducati จะได้ทำการวางจำหน่ายโมเดล Scrambler ที่มีรุ่นย่อยชื่อว่า Desert Sled ให้ลูค้าได้เลือกซื้อกันอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ด้วยเหตุผลอะไรทำให้พวกเขาเลือกสร้างรถต้นแบบ “Ducati Scrambler Desert Sled concept” คันนี้ออกมา ซึ่งทันทีที่เราเห็นก็บอกได้เลยว่ามันช่างเป็นมอเตอร์ไซค์ที่ควรค่าแก่การหามาครอบครองให้ได้ซักคันเหลือเกิน โดยสำหรับข้อมูลในเบื้องต้นของเจ้า Scrambler Desert Sled concept คันนี้นั้นมีอยู่ว่ามันถูกออกแบบโดยศูนย์ออกแบบ Ducati Design Center เพื่อนำมาโชว์ตัวในงาน Concorso d’Eleganza Villa d’Este ประเทศอิตาลี ซึ่งไฮไลท์ของเจ้ารถต้นแบบคันนี้ก็คงหนีไม่พ้นดีไซน์ที่ดูมีความล้ำสมัยแต่แฝงไปด้วยกลิ่นอายของความคลาสสิคอย่างลงตัว ด้านชิ้นส่วนอื่นๆรอบตัวรถแม้ว่าจะมีพื้นฐานมาจาก Ducati Scrambler แต่ก็ได้รับการปรับเปลี่ยนรายละเอียดใหม่ในหลายๆจุดด้วยกัน ทั้งสวิงอาร์มและโช้กหลังที่ได้รับการจัดวางตำแหน่งใหม่, ถังน้ำมันดีไซน์แปลกตาขนาดใหญ่, มีถังน้ำมันสำรองด้านหลังเบาะผู้ขี่ซึ่งถูกขนาบข้างซ้าย/ขวาด้วยท่อไอเสียจาก Akrapovic, และชุดบังโคลนหน้าขนาดใหญ่ที่ดูไปดูมาช่างคล้ายกับพี่น้องร่วมค่ายอย่าง Multistrada 1200 อยู่ไม่น้อย ขอบคุณภาพจาก Asphaltandrubber อ่านข่าว Ducati เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ…
Author: admin
นอกจากตลาดมอเตอร์ไซค์แนวสปอร์ต และ แนวนีโอคลาสสิค ทีได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆแล้ว ตลาดรถมอเตอร์ไซค์สายลุยแนว Dual-Purpose เองก็มีกระแสให้พูดึงกันอยู่เสมอๆเช่นกัน ซึ่งในวันนี้เราก็จะมาพูดถึงโมเดลน้องใหม่ 2018 RX125/SX125 จาก Aprilia ที่พึ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่กี่วันมานี้ สำหรับชื่อตระกูล RX125/SX125 อาจจะดูไม่คุ้นหูในตลาดบ้านเราเท่าไหร่นัก แต่ถ้าหากเป็นฝั่งประเทศยุโรป รถมอเตอร์ไซค์ตระกูลนี้ถือว่าได้รับความนิยมย่างมาก เนื่องจากพละกำลังที่สามารถเค้นได้จากเครื่องยนต์สูบเดียว 122cc 2 จังหวะนั้นถือว่าแรงเอาเรื่อง (แรงม้าสูงสุดราวๆ 21 ตัว) แต่สุดท้ายแล้วด้วยข้อกฏหมายมลพิษที่เข้มงวดมากขึ้นทำให้มันไม่สามารถวางจำหน่ายโดยช้เครื่องยนต์ลูกดังกล่าวต่อไป และเกิดใหม่อีกครั้งด้วยเครื่องยนต์สูบเดียว 125cc 4 จังหวะกำลังสูงสุด 15 แรงม้า กับแรงบิดอีก 10.9 นิวตันเมตร แทนในปี 2018 โดยนอกจากเครื่องยนต์ที่ได้รับการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่แล้ว ชุดระบบกันสะเทือนยังจัดเต็มด้วยโช้กหน้าหัวกลับขนาดแกน 41 มิลลิเมตร และโช้กหลังแบบคอยล์โอเวอร์เดี่ยวทำงานร่วมกับสวิงอาร์มอลูมิเนียมมีกระเดื่องทดแรง ส่วนชุดระบบเบรกแม้ว่าจะมีระบบ ABS ติดตั้งมาให้เป็นพื้นฐานทั้งสองรุ่น แต่ในฝั่งของ RX125 จะใช้จานเบรกทรงคลื่นขนาด 300 มิลลิเมตร…
ผ่านไป 1 ปีนิดๆกับการเปิดตัวครั้งแรกของ 2017 Ducati SuperSport / SuperSport S ในที่สุดทางค่ายก็ได้ทำการปรับโฉมโมเดลนี้ซักเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความสดใหม่สำหรับการวางจำหน่ายในฐานะโมเดลปี 2018-2019 โดยสิ่งที่แตกต่างหรือเปลี่ยนแปลงไประหว่าง SuperSport โมเดลปี 2017-2018 กับ 2018-2019 ก็คือเฉดสีที่ทาง Ducati ได้ทำการยกเลิกเฉดสีประจำค่าย “แดง – Rosso Red” ทิ้งไปแล้วแทนที่ด้วยสี “เทา – Titanium Grey” ซึ่งดูตัดกับชุดเฟรมสีแดงได้เป็นอย่างดี แต่ในขณะเดียวกันนั้นสำหรับรุ่นท็อป SuperSport S โมเดลปี 2018-2019 จะยังคงใช้เฉดสี “แดง – Rosso Red” และ “ขาว – Star White Silk” ในการทำตลาดอยู่เช่นเดิม สำหรับเครื่องยนต์ยังคงเป็นบล็อค L-Twin 937cc…
สวัสดีครับ เพื่อนๆ วันนี้ทางทีมงาน MotoRival เราได้รับน้ำมันหล่อลื่นกึ่งสังเคราะห์ประสิทธิภาพสูง รุ่นใหม่ จาก Mobil มารีวิวอยู่ด้วยกัน 2 รุ่นด้วยกันนั่นก็คือ Mobil Super Moto และ Mobil Super Moto Scooter ซึ่งจะเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่ใช้มอเตอร์ไซค์แบบมีเกียร์ และแบบเกียร์ออโตเมติก กันครับ เราขอเริ่มกันที่ Mobil Super Moto ที่ออกแบบมาสำหรับมอเตอร์ไซค์แบบมีเกียร์กันก่อน น้ำมันหล่อลื่น Mobil Super Moto กระปุกที่เราได้รับมานี้ มีค่าความหนืดอยู่ที่ 10W-40 ซึ่งถือเป็นช่วงความหนืดที่กำลังเหมาะสมกับการใช้งานในประเทศไทยเรา ในขณะเดียวกันเรื่องมาตรฐาน API สำหรับน้ำมันเครื่อง Mobil Super Moto ได้ระดับ SL ส่วนมาตรฐาน JASO ก็อยู่ในระดับ MA2 ซึ่งบ่งบอกว่ามันเป็นน้ำมันหล่อลื่นแบบ High Friction…
คุณรู้จักคัลท์แบรนด์ไลฟ์สไตล์และขบถทางวัฒนธรรมจากออสเตรเลียอย่าง Deus Ex Machina แล้วหรือยัง มาทำความรู้จักกับ Deus Ex Machina ไปพร้อมๆ กันภายใน 3 นาที นับจากนี้ Deus Ex Machina อ่านออกเสียงเป็นภาษาไทยว่า เด – อัส – เอ็กซ์ – มา – คิ – น่า หรือเรียกสั้นๆ ว่า Deus เด-อัส แบรนด์ไลฟ์สไตล์แห่งความสนุกและนอกกรอบวัฒนธรรมจากออสเตรเลีย โดยหน้าที่แบรนด์ Deus จะเป็นที่รู้จักและประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ แดร์ เจนนิงส์ เคยตัดสินใจหยุดเรียนมหาวิทยาลัยกะทันหันและใช้สวัสดิการรัฐบาลอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ด้วยเสน่ห์โดดเด่นเฉพาะตัวบวกกับความเฉลียวฉลาด เขาจึงเริ่มสร้างสรรค์แบรนด์ Deus ขึ้นมาจากงานอดิเรกที่เขาเองหลงใหล สำหรับเบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์ Deus คือแนวคิดที่ว่า “Deus Ex Machina…
ผ่านไปเกือบหนึ่งปีนับตั้งแต่ Yamaha ได้เปิดตัวแบกเกอร์รุ่นใหม่ล่าสุด Star Eluder ออกมา เพื่อทำตลาดตั้งแต่ต้นปีมาตอนนี้ทางค่ายก็ได้กระตุ้นกระแสอีกครั้งด้วยการดึงเอานักคัสตอมชื่อดัง “Cory Ness” มาช่วยออกแบบชุดแต่งให้จนกลายเป็น ‘Journey Further’ Star Eluder by Cory Ness คันนี้ โดยชุดแต่งที่ Cory Ness ได้ออกแบบเพื่อติดตั้งนั้น จะเป็นชิ้นงานอลูมิเนียม CNC ทุกชิ้น โดยมีทั้ง ครอบแครงก์ฝั่งคลัทช์และฝั่งจานไฟ, ครอบฝาแคมชาฟท์, ครอบพูลเล่ย์, กรอบลำโพง, ครอบปลายท่อ, กรอบมาตรวัด, ฝากระปุกเบรก, และแคลมป์จับตุ๊กตาแฮนด์ ซึ่งจะเห็นได้ว่าหลังจากที่ตัวรถ Star Eluder ได้รับการติดตั้งชุดแต่งนี้เข้าไปแล้ว ภาพลักษณ์โดยรวมของมันก็ดูมีความหรูหราขึ้นกว่าเดิมในทันที สำหรับข้อมูลสเปคคร่าวๆของ 2018 Yamaha Star Eluder นั้นก็มีทั้ง ใช้เครื่องยนต์แบบ V-Twin ขนาด 1,854cc ระบายความร้อนด้วยอากาศ…
จากข้อมูลก่อนหน้านี้ที่ว่าทาง MV Agusta มีแผนที่จะเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์โมเดลใหม่ที่ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบเรียงขนาด 1,000cc ภายในปี 2018 โดยในตอนนั้นเรายังไม่สามารถระบุได้ว่าโมเดลแรกที่เตรียมปรากฏตัวขึ้นนั้นจะมีลักษณะเป็นรถมอเตอร์ไซค์แนวไหนกันแน่ จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้หลังทางทีมงาน MotoRival ของเราก็ได้มีโอกาศไปทดสอบ “MV Agusta Turismo Veloce – LUSSO SCS” ถึงประเทศอิตาลี ซึ่งแน่นอนว่าเราก็ไม่พลาดที่จะเข้าไปสัมภาษณ์ Giovanni Castiglioni ผู้บริหารใหญ่ของค่ายเกี่ยวกับโมเดลใหม่ที่เรากล่าวไปในข้างต้น และได้คำตอบกลับมาว่า “โมเดลที่กำลังถูกกล่าวถึงอยู่ตอนนี้แท้จริงแล้วก็คือน้องใหม่ของตระกูล Brutale ซึ่งในขณะนี้มันก็กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการสร้าง และต้องใช้เวลาอย่างน้อยราวๆ 8 เดือนถึงจะทำขายได้ แต่ทางค่ายมีแผนจะเปิดตัวโฉมต้นแบบก่อนในช่วงปลายปีนี้ โดยพละกำลังสูงสุดของขุมกำลังหลักแบบสี่สูบเรียงขนาด 1,000cc ที่พวกเค้าตั้งใจรีดออกมานั้นคาดว่าจะสูงถึง 280 แรงม้า” Giovanni ยังกล่าวเพิ่มเติม “นอกจาก Brutale 1000 ที่เตรียมจะเปิดตัวปลายปีนี้ ยังมีเซกเมนท์ใหม่ที่ทางค่ายไม่เคยทำขายมาก่อนอย่างกลุ่ม Neo Classic – Bike เตรียมเปิดตัวเป็นรายต่อไปอีกด้วย”,…
รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์อันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 30 เดินหน้าตอกย้ำ “WHAT STOPS YOU? มุ่งไป อย่าให้อะไรมาหยุด” ร่วมกับ หจก.ณัฐมอเตอร์เซลส์ ผู้จัดจำหน่ายจักรยานยนต์ฮอนด้ายักษ์ใหญ่ในภาคอีสาน เปิดตัว “คับเฮ้าส์ อุดรธานี” (CUB HOUSE UDONTHANI) มอบประสบการณ์ใหม่ในรูปแบบ Co-Creation Lifestyle Space แห่งแรกในภาคอีสาน และแห่งที่ 2 ของประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เจาะกลุ่มเป้าหมายระดับพรีเมียมที่มีกำลังซื้อ อันมีไลฟสไตล์ที่โดดเด่นเฉพาะตัว พร้อมเดินเหน้าขยายสาขาเพิ่มอีก 5 แห่งภายในกลางปี นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า “จากการที่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ได้มีการเปิดธุรกิจใหม่ ภายใต้ชื่อ “คับเฮ้าส์” (CUB HOUSE) เพื่อมาตอบสนองความต้องการของตลาดและสอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย เราจึงนำเสนอคุณค่าใหม่มาเติมเต็มให้กับกลุ่มเป้าหมายยุคใหม่ ที่มีสไตล์เฉพาะตัว…
ต่อจากสัปดาห์ก่อนที่เราได้พูดถึง “สิ่งของ 8 อย่างที่จะต้องเตรียมพกติดตัวติดรถทุกครั้งที่เดินทาง” กันไปแล้ว ต่อไปเราก็จะมาพูดถึงอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นเรื่องพื้นฐานแต่สำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดสำหรับผู้ใช้ยานพาหนะอย่างเราๆ นั่นก็คือการตรวจเช็คสภาพก่อนใช้งานด้วยตัวเอง กันบ้าง โดยในบทความ Tips Trick ครั้งนี้ทาง MotoRival ก็จะทำการลิสต์ 8 สิ่งเบื้องต้นง่ายๆที่ใครๆก็สามารถสังเกตุได้เองจากภายนอก แต่จะมีอะไรบ้างมาเริ่มกันเลยครับ 1. ระบบส่องสว่าง เริ่มจากไฟหน้าที่นอกจากจะช่วยให้เราสามารถเห็นถนนหนทางในช่วงกลางคืนแล้ว ในช่วงเวลากลางวันเองก็ยังช่วยให้ผู้ใช้ถนนฝั่งตรงข้ามสามารถเห็นเราได้ชัดเจนอีกด้วย ตามด้วยไฟท้าย ที่ใช้บ่งบอกผู้ใช้ถนนด้านหลังทราบว่าเรากำลังจะหยุดรถ และไฟเลี้ยวที่ใช้สำหรับแจ้งเพื่อนร่วมทางโดยรอบถึงทิศทางที่เราจะมุ่งไปถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว เราอาจจะโดนเสยท้ายเอาได้ ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว 2. สวิทช์แตร สวิทช์ไฟต่างๆ โดยส่วนมากแล้วทางประกับฝั่งขวาจะเป็นที่ตั้งของ คิลสวิทช์ที่ใช้ดับเครื่อง และสวิทช์สตาร์ท ดังนั้นถ้าหากสวิทช์สองอย่างนี้มีปัญหา การสตาร์ทเครื่องยนต์เพื่อใช้งานอาจจะมีปัญหาได้ ส่วนด้านประกับฝั่งขวาก็จะมีสวิทช์หลักๆคือ ไฟสูง/ต่ำ, ไฟเลี้ยว, และแตร ซึ่งจะเห็นได้ว่าสวิทช์เหล่านี้จะเป็นชุดสวิทช์ที่เรามักใช้บ่อยที่สุดโดยเฉพาะกับในสถานการณ์ฉุกเฉินทั้งสิ้น ประกับขวา ประกับซ้าย 3. ระบบเบรก ในส่วนของระบบเบรก สิ่งที่เราต้องตรวจเช็คจะเริ่มจากระดับน้ำมันเบรกภายในแม่ปั๊มเบรก ซึ่งปกติแล้วบนตัวกระปุกปั๊มทางผู้ผลิตจะทำเส้นระดับมาให้ และถ้าหากระดับน้ำมันอยู่ต่ำกว่า Lower…
ปฏิเสธไม่ได้ว่านับตั้งแต่มีกการประกาศว่า Jorge Lorenzo จะย้ายมาร่วมงานกับ Ducati Team หลังจบฤดูกาลแข่งขัน MotoGP 2016 ทำให้เกิดกระแสวิพากย์วิจารณ์มากมายพอสมควรว่านักบิดหมายเลข 99 คนนี้จะสามารถไปได้ดีกับตัวแข่ง Desmosedici ที่มีบุคลิกแตกต่างจาก YZR-M1 ของ Yamaha แค่ไหน รวมถึงคำถามที่ว่าเขาจะพบกับฝันร้ายเหมือนตอนที่ Valentino Rossi เคยเจอเมื่อตอนปี 2011-2012 หรือไม่ อย่างไรก็ดีดูเหมือนว่าการสาปให้ Lorenzo ต้องพบเจอกับฝันร้ายแบบเดียวกับที่ Rossi เจอจะมีผลแค่ขวบปีแรกเท่านั้น เพราะจากผลงานที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสองสนามล่าสุดของการแข่งขัน MotoGP ปี 2018 จะเห็นได้ว่าเขาสามารถคว้าแชมป์กับตัวแข่ง GP18 ได้แบบขาดลอยจากนักบิดในสนาม ซึ่งเรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นเลยสมัยที่ พ่อหมอ ยังเป็นนักบิดในสังกัด Ducati จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เริ่มเกิดคำถามต่อมาว่าถ้าหาก Rossi ยังคงอยู่กับ Ducati Team ในตอนนี้ เขาจะสามารถคว้าแชมป์กับตัวแข่ง Desmosedici GP18 ได้หรือไม่…