หนึ่งในปัญหาที่ยังคงค้างคากันมาอยู่จนถึงทุกวันนี้ของเราเหล่าผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์ก็คือเมื่อใดก็ตามที่เราตกแต่งอะไรซักอย่างบนตัวรถมอเตอร์ไซค์ของเราไปแล้ว โดยเฉพาะกับ “การเปลี่ยนท่อไอเสีย” พอเข้าด่านทีไรก็มักเจอเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ทักขึ้นมาว่าเราได้ทำการดัดแปลงสภาพตัวรถอยู่เสมอ ทั้งๆที่หลายคนน่าจะเคยได้รับข้อมูลมาบ้างแล้วว่า การเปล่ยนท่อไอเสียนั้น ไม่ได้ผิดกฏหมายในเรื่องการดัดแปลงสภาพอะไร แต่จะไป(อาจจะ)ไปผิดตรงข้อกฏหมายที่ว่าด้วยความดังของปลายท่อ ซึ่งต้องใช้เครื่องมืดวัดอีกทีหนึ่งว่าเกินตามกฏหมายกำหนดหรือไม่ แต่เมื่อเราได้ทำการโต้แย้งกับเจ้าหน้าที่ไปด้วยเหตุผลที่ว่ามา ทางเจ้าหน้าที่ก็จะตอบกลับเราโดยทันทีว่าเราอ้างกฏหมายมั่วๆหรือเปล่า และเมื่อประกอบกับการที่บางคนได้รับข้อมูลมาเพียงแค่การฟังแบบคร่าวๆ หรืออ่านผ่านโพสต์ต่างๆในสื่อออนไลน์เท่านั้น ไม่ได้ลองตรวจสอบหรืออ่านหน้าข้อกฏหมายอย่างถี่ถ้วนจริงๆจึงทำให้เกิดความไม่มั่นใจในท้ายที่สุด และยอมจ่ายค่าปรับเสียแต่โดยดีเพราะกลัวว่าจะโดนข้อหาขัดขืนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เพิ่ม แถมถ้าไม่จ่ายก็จะโดนยึดใบขับขี่หรือกุญแจรถไปอีก และในวันนี้เราก็มีกรณีศึกษาที่เกิดขึ้นจริงให้เพื่อนๆได้ลองติดตามกันดูครับ สวัสดีครับพี่ๆ วันนี้ผมมีปัญหากับตำรวจมาครับ คือ ผมโดนตำรวจเรียก เขาก็ขอตรวจใบขับขี่ ใบภาษี ซึ่งผมก็มีครบ แล้วเขาก็เดินวนดูรอบรถ แล้ว อยู่ๆ เขาก็เขียนใบสั่งผมในข้อหาดัดแปลงสภาพรถ เนื่องจากเปลี่ยนท่อไอเสีย ไม่ใช้ท่อไอเสียเดิมจากโรงงาน ตำรวจ : ปรับ 1,000 นะครับ เนื่องจากท่อไอเสียไม่ใช่ท่อเดิมจากโรงงาน ผม : ผมโดนในข้อหาอะไรหรอครับ? ตำรวจ : ดัดแปลงสภาพรถไงครับ ก็เราเอาท่อแต่งมาใส่อ่ะ ผม : คือที่ผมรู้มา การเปลี่ยนท่อ ไม่ใช่การดัดแปลงสภาพรถครับ ท่อแต่งเขานับอยู่ในอุปกรณ์ตกแต่งรถอ่ะครับ ตำรวจ…
Author: admin
Alpinestars บริษัทผู้ผลิตไรด์ดิ้งเกียร์ชื่อดังจับมือกับ Woolies Workshop สำนักตกแต่งมอเตอร์ไซค์จากแคลิฟอร์เนีย ร่วมกันสร้างคัสตอมไบค์สุดพิเศษที่มีเพียงคันเดียวในโลกโดยใช้รถมอเตอร์ไซค์ยอดตำนานของค่ายแดงอิตาลีอย่าง 1974 Ducati 750 Sport มาเป็นตัวรถพื้นฐานเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 55 ปีแห่ง นวัตกรรม, เป้าหมาย, ความมุ่งมั่น, รูปแบบ, และชัยชนะ ตลอดระยะเวลาเกินกว่าครึ่งศตวรรษของผู้ผลิตรายนี้ ด้านงานตกแต่งโดยรวมนั้น จะเน้นไปที่การนำเสนอความเข้ากันได้ของสองสิ่งด้วยกัน นั่นก็คือความคลาสสิคและความโมเดิร์น ดังนั้นเราจึงเห็นได้ว่าแม้ตัวรถพื้นฐานจะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ถูกผลิตขึ้นเมื่อปี 1974 ก็จริง แต่ทุกชิ้นส่วนที่ถูกนำมาตกแต่งนั้นต่างเป็นของที่มีใช้อยู่ในยุคปัจจุบันทั้งสิ้น ทั้งชุดระบบกันสะเทือนหน้าหลังจาก Ohlins, ชุดก้านเบรก/ก้านคลัชท์/กระปุกปั๊ม จาก Rizoma, ชุดล้อ Marchesini, ชุดท่อไอเสียไทเทเนียมแบบเดินคอตรง 2-2 จาก Akrapovic รวมถึงชุดบอด้พาร์ทต่างๆก็เน้นให้มีเส้นสายผสมผสานในแบบ “โมเดิร์น-คลาสสิค” ได้อย่างลงตัว สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับวันจัดแสดงอย่างเป็นทางการนั้น Alpinestars ได้ระบุไว้ว่าจะนำเจ้า “1974 Ducati 750 Sport – 55 Anniversary…
10 กว่าวันผ่านไป เหตุการณ์ดราม่าระหว่าง Marc Marquez และ Valentino Rossi จากการปะทะกันในการแข่งขันที่อาเจนติน่าก็ยังถูกพูดถึงอยู่โดยตลอด ซึ่งในคืนที่ผ่านมาก็ได้รอบของการจัดงานสัมภาษณ์ก่อนเปิดการแข่งขัน MotoGP สนามที่ 3 ของฤดูกาล 2018 พอดีดังนั้นทางสื่อมวลชนทั้งหลายจึงได้โอกาศเข้าสัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าวกับทั้งสองนักบิดที่ถูกจับแยกสัมภาษณ์กันเพื่อลดความตึงเครียด โดยบทสัมภาษณ์ของ MM93 นั้นเราได้นำเสนอไปก่อนแล้ว ส่วนบทสัมภาษณ์ของ VR46 ก็มาติดตามต่อกันในนี้ได้เลยครับ สำหรับคำถามหลักๆที่สื่อใช้ในการสัมภาษณ์ของ Valentino Rossi ครั้งนี้ก็ยังคงพุ่งประเด็นไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างตัวเขากับ Marc Marquez ว่าจะมีทีท่าอย่างไรบ้าง หลังผ่านเหตุการณ์ดราม่าไปเกือบ 2 สัปดาห์ ซึ่งทางนักบิดวัยเก๋าก็ได้เกริ่นอย่างหัวร้อนเอาไว้ว่า “ผมดูรีเพลย์การแข่งขันย้อนหลังไปแล้ว และผมยังยืนยันคำเดิมในสิ่งที่ผมพูดไปหลังจบการแข่งครั้งนั้น”, “จริงอยู่ว่าการปะทะกันของนักแข่งมันย่อมเกิดขึ้นได้ แต่การปะทะ แ_่ง ตั้ง 5 ครั้งใน 1 สัปดาห์การแข่งขัน (3 วัน) มันไม่ใช่แน่ๆ (Rossi สบถออกสื่ออย่างชัดเจนว่า F__k), สำหรับผมยังไงก็ยังคิดว่าเค้าจงใจ”…
เราคงไม่ต้องย้อนอดีตไปอธิบายถึงรายละเอียดเหตุการณ์ที่ Marc Marquez ได้เข้าไปปะทะกับ Valentino Rossi ในการแข่งขัน MotoGP ปี 2018 สนามที่ 2 เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาให้มากมายนัก เพราะล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมานักบิดรายนี้ก็ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องดราม่าที่ยืดยาวมาเกือบครึ่งเดือนว่า “ผมไม่เคือง Rossi (เรื่องคำวิจารณ์ที่อาร์เจนตินา) และผมพร้อมแล้วที่จะเข้าไปคุยกับเค้าในวันพรุ่งนี้” Marquez กล่าวเสริมจากประโยคดังกล่าวอีกว่า “บางทีพรุ่งนี้เราอาจจะได้เจอกันตอนประชุมกฏความปลอดภัย แต่เราคงมีอะไรต้องคุยกันมากกว่านั้น” นอกจากนี้ MM93 ยังกล่าวถึงทั้งความเห็นของ Kevin Schwantz ที่บอกว่าตนเอง “ควรถูกคุมความประพฤติ” กับของ Rossi ที่กล่าว “กลัวทุกครั้งที่ต้องแข่งกับตนเอง” เอาไว้ว่า “ทุกคนล้วนมีความเห็นเป็นของตนเอง และเราก็เคารพในสิ่งนั้น แต่ยังไงผมก็เลือกที่จะโฟกัสกับการแข่งขันมากกว่า”, “ผมเอาก็เคารพในความเห็นของ Rossi แต่ด้วยความสัตย์จริงผมไม่เคยกลัวอะไรซักอย่างตอนที่ผมขี่อยู่ซักครั้ง”, “ผมยังยืนยันในทุกคำที่ผมพูดหลังจบการแข่งขัน (ครั้งนั้น) ผมทำพลาด แต่ผมก็ได้รับการทำโทษไปแล้ว และผมต้องการเข้าไปขอโทษ” และในการสัมภาษณ์ครั้งเดียวกันนั้น ทาง Marc Marquez ก็ได้พูดถึงสาเหตุที่ทำให้รถดับก่อนออกสตาร์ทเพิ่มเติมอีกว่า…
จากกระแสตำแหน่งนักบิดในสังกัดทีม Suzuki Ecstar ที่พร้อมจะเปลี่ยนหน้าได้ทุกเมื่อ เพราะมีข่าวลือออกมาว่าในตอนนี้ทางทีมได้ให้ความสนใจที่จะดึง 2 นักบิดตัวท็อปอย่าง Jorge Lorenzo และ Dani Pedrosa ไม่คนใดก็คนหนึ่งมาร่วมทีมกับนักบิดหน้าใหม่ไฟแรง Alex Rins ทำให้ในตอนนี้ความลำบากใจต้องตกมาที่ Andrea Iannone อีกครั้ง เพราะจากทั้งหมดที่เรากล่าวมาดูเหมือนว่าตัวนักบิดจอมโหม่งโลกคนนี้จะไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมของค่ายคนบ้าในปี 2019 ต่อไปเลยซักนิด อย่างไรก็ดีเมื่อคืนวานที่ผ่านมา Iannone ได้ให้ข้อมูลกับสื่อไว้ว่าในตอนนี้ได้มีทีมอื่นในเวที MotoGP เข้ามาติดต่อยื่นสัญญาให้ตนเองได้พิจารณาในเบื้องต้นบ้างแล้ว แต่เจ้าตัวยังยืนยันคำเดิมว่ายังไงก็ยังจะให้ความสำคัญกับสัญญาใหม่จากสังกัดทีมปัจจุบันของตนเองไว้ก่อน “แน่นอนว่าผมกำลังพิจารณาถึงอนาคตของตัวเอง และอนาคตกับ Suzuki”, “ตอนนี้ผมมีสัญญาของที่อื่นมาให้พิจารณา แต่ยังไงผมก็อยากอยู่ต่อในทีมปัจจุบันมากที่สุด” “ที่นี่คือทีมที่น่าอัศจรรย์, สำหรับคนญี่ปุ่น ผมรู้สึกดีมากๆ, เราเริ่มสร้างอะไรดีๆด้วยกันมาพอสมควร” “ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดของผมในตอนนี้ก็คือ ผมต้องการขึ้นไปสู่หัวแถวด้วยตัวแข่งของ Suzuki ซึ่งมันก็คือเหตุผลที่ผมมาอยู่ตรงนี้” ขอบคุณข้อมูลจาก Motorsport.com อ่านข่าว MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ…
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ หากเพื่อนๆลองสังเกตุดูจะเห็นได้ว่าทาง Ducati พยายามที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ของตัวเองขึ้นชื่อในเรื่องการจัดระบบความปลอดภัยสำหรับผู้ขับขี่มาโดยตลอด ทั้งการติดตั้งระบบ Advance ABS หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ Cornering-ABS ในรถมอเตอร์ไซค์ของตนเองไว้หลากหลายรุ่นเป็นรายแรกๆของโลก (คาดว่าเป็นรายที่ 2 ต่อจาก KTM) และการติดตั้งระบบเชื่อมต่อกับเสื้อถุงลมนิรภัยอย่าง D|Air เพียงรายเดียวในโลก เป็นต้น และในตอนนี้ทาง Ducati ก็ได้มีแผนงานใหม่่เกี่ยวกับเรื่องที่เรากล่าวถึงโดยใช้ชื่อประจำแผนนี้ว่า ” 2025 Safety Road Map ” ซึ่งแน่นอนว่าจุดประสงค์หลักๆของแผนงานนี้ก็คือความพยายามที่จะทำให้รถมอเตอร์ไซค์มีความปลอดภัยต่อลูกค้ามากที่สุด โดยเริ่มจาก การนำระบบ Cornering-ABS ไปติดตั้งให้กับรถมอเตอร์ไซค์ทุกรุ่นเป็นออพชั่นพื้นฐาน และเตรียมใช้ระบบเรดาร์ตรวจจับความเสี่ยงเป็นอุปกรณ์เสริมความปลอดภัยให้กับตัวรถภายในปี 2020 ด้านข้อมูลสำหรับระบบเรดาร์ที่ว่านั้น แท้จริงแล้วทาง Ducati ได้เริ่มงานวิจัยและพัฒนามาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2016 โดยเริ่มจากการวิจัยระบบเรดาร์ด้านหลังตัวรถเพื่อแจ้งเตือนผู้ขับขี่ว่ามีวัตถุต้องสงสัยจากด้านหลังก่อนเป็นอย่างแรก หลังจากนั้นในปีถัดมาคือปี 2017 พวกเขาก็ได้ทำการวิจัยระบบเรดาร์ด้านหน้าที่จะใช้ทำงานร่วมกับระบบ Cruise Control ต่ออีกชิ้น เพื่อตรวจจับความเสี่ยงที่อาจจะก่อให้เกิดการพุ่งเข้าชนกับสิ่งกีดขวางด้านหน้า ซึ่งระบบการทำงานของมันนั้นจะคล้ายๆกับระบบตรวจจับที่ใช้ในรถยนต์หรูๆของยุโรปเลยทีเดียว…
หากยังจำกันได้เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทาง Yamaha ได้ทำการเข้าซื้อสิทธิบัตรเทคโนโลยีระบบบังคับเลี้ยวสำหรับล้อ “คู่หน้า” จาก Brudeli ทำให้หลายคนต่างสงสัยว่าทางค่ายยักษ์ใหญ่แห่งเมืองฮามามัทสึ ประเทศญี่ปุ่นจะเอาเทคโนโลยีรถมอเตอร์ไซค์สามล้อนี้มาเพิ่มอีกทำไมทั้งๆที่ตัวเองก็มีเทคโนโลยี LMW เป็นของตนเองอยู่แล้ว จนกระทั่งคำตอบเริ่มกระจ่างชัดขึ้นเมื่อเราได้เห็นภาพสิทธิบัตรชุดนี้ จากภาพจะเห็นได้ว่ามันดูเหมือนกับเป็นการผสมผสานระหว่างรถสองคันด้วยกันนั่นก็คือ Yamaha VMAX ครุยเซอร์ไซส์บิ๊กที่พึ่งถูกประกาศยุติสายการผลิตไปได้ไม่นานซึ่งเห็นได้ชัดเจนตั้งแต่หลังช่วงแกนคอไปจนถึงท้ายรถลงไป ในขณะที่จุดเด่นหรือจุดสนใจในคราวนี้ก็คือช่วงหน้าตัวรถที่เปลี่ยนแปลงจากแบบแกนโช้กตะเกียบคู่ธรรมดาๆ มาเป็นแบบปีกนกคู่แยกออกสองฝั่งตามดีไซน์ของเทคโนโลยีระบบบังคับเลี้ยวใหม่ที่พึ่งซื้อมา จุดเด่นหลักของระบบนี้คือแม้ว่าตอนเลี้ยวตัวล้อจะเอียงทำมุมกับพื้นถนน แต่ตัวโช้กไม่ได้เอียงทำมุมตามไปด้วยอย่างที่ระบบบังคับเลี้ยวล้อคู่หน้าในมอเตอร์ไซค์แบรนด์อื่นๆเป็น จึงส่งผลให้การซับแรงสะเทือนของตัวโช้กอัพสามารถทำได้ดีกว่าเนื่องจากแนวแรงกระทำของถนนไม่ได้ผิดเพี้ยนไปจากแนวการเคลื่อนที่ของโช้กมากมายนัก และถ้าหากทาง Yamaha เลือกเปิดตัวเจ้า VMAX ท่ี่มาพร้อมกับเทคโนโลยีระบังบังคับเลี้ยวแบบนี้จริง ก็จะทำให้เจ้านี้กลายเป็นคู่แข่งสายตรงกับ Honda NeoWing Concept อีกหนึ่งครุยเซอร์สามล้อที่มีระบบบังคับเลี้ยวแบบปีกนกคู่คล้ายๆกัน ซึ่งเราต้องมาดูกันต่อไปว่าทั้งสองโมเดลนี้จะปรากฏตัวให้เห็นในรูปแบบขายจริงเมื่อไหร่กันแน่ ขอบคุณข้อมูลจาก Young-Machine อ่านข่าว Yamaha เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ Motorival
แม้ว่าทาง Yamaha จะได้ทำการเปิดตัวเจ้า Lexi 125 ใหม่ไปแล้วตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมาในงาน Motor Show 2018 แต่เอาจริงๆแล้วมันยังเป็นแค่การเปิดตัวแบบนำตัวรถมาจัดแสดงเท่านั้น ไม่ได้มีการประกาศราคาสำหรับวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ซึ่งเมื่อเทียบกับทางฝั่งอินโดนีเซียนั้น จะเห็นได้ว่าพวกเขาพึ่งเปิดราคาอย่างเป็นทางการเมื่อไม่กี่วันมานี้เองทั้งๆที่เปิดตัวรถก่อนบ้านเราไปตั้งแต่เดือนมกราคม หรือต้นปีที่ผ่านมา โดยสำหรับตัวเลขราคาที่อินโดนีเซียแบบไม่รวมภาษีนั้นอยู่ที่ 19.95 ล้าน รูเปียห์ หรือราวๆ 45,000 บาทในรุ่นพื้นฐาน และ 22.8 ล้าน รูเปียห์ หรือราวๆ 51,600 บาท ในรุ่น S สำหรับจุดเด่นของ Yamaha Lexi 125 นั้น โดยภาพรวมจะอยู่ที่ดีไซน์ซึ่งผสมผสานกันระหว่างความหรูหราและความสปอร์ตไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ไล่ตั้งแต่ชุดโคมไฟ LED ด้านหน้าและด้านหลังที่ตีกรอบไว้แหลมคมพอตัว, ใช้ชุดหน้าจอมาตรวัด LCD Full-Digital, ระบบกุญแจ Keyless พร้อมฟังก์ชั่นเรียกหาตัวรถ (เฉพาะรุ่น S), พอร์ทชาร์จไฟสำหรับโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, ชุดระบบกันสะเทือนหลังแบบแก๊สมีซับแทงค์แยก, ชุดล้ออัลลอยด์หน้าหลังเป็นแบบ…
หากพูดถึงรถมอเตอร์ไซค์ที่มีระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้าหลังนั้น จะเห็นได้ว่ายังไม่มีผู้ผลิตซักรายทำรถมอเตอร์ไซค์แนวนี้มาขายเลยซักคนเดียว อาจจะด้วยเหตุผลทางต้นทุน, น้ำหนัก หรือขีดความสามารถของรถมอเตอร์ไซค์บวกกับยางหนามธรรมดาๆก็เพียงพอแล้ว แต่แค่นั้นคงยังไม่พอในสายตาของวิศวกรหนุ่ม Guido Koch เพราะล่าสุดเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เค้าได้เปิดตัวคอนเซปท์ไบค์ KTM 990 All-Wheel Drive ออกมาในงาน IMOT Show ที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี ซึ่งเมื่อทุกคนได้มองลงไปถึงรายละเอียดตัวรถคร่าวๆแล้วก็พบว่าความสมบูรณ์ของตัวรถนั้นจัดว่าอยู่ในระดับที่พร้อมทำขายจริงได้เลยทีเดียว อย่างไรก็ดีแม้ว่าเราจะกล่าวไปในข้างต้นว่าตัวรถคันนี้คือ KTM 990 Adventure แต่แท้จริงแล้วชิ้นส่วนที่เป็นของดั้งเดิมติดรถนั้นมีแค่เพียง เครื่องยนต์, สวิงอาร์มหลัง, และชุดเบรกเท่านั้นที่เป็นของเดิม นอกนั้นที่เราไม่ได้กล่าวถึงทาง Guido Koch ได้ทำการสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นชุดสวิงอาร์มแขนเดี่ยวสำหรับยึดล้อหน้า, ชุดคอม้าสำหรับทำหน้าที่เป็นแกนล้อ, ชุดขาโยงสำหรับเป็นตัวบังคับเลี้ยว และอื่นๆอีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับระบบขับเคลื่อนล้อหน้าทั้งหมด นอกจากนี้จุดเด่นอีกอย่างของเจ้า KTM 990 AWD Prototype คันนี้ก็คือ ตัวระบบตัดต่อกำลังที่เชื่อมต่อกับเพลาขับเคลื่อนนั้น มีเงื่อนไขในการทำงานอยู่ว่า เมื่อใดก็ตามที่ล้อหลังเกิดหมุนไม่สัมพันธ์กับล้อหน้า (หมุนเร็วกว่า) เกิน 5…
จบไปได้ด้วยดีกับการผ่าตัดข้อมือข้างขวาของ Dani Pedrosa หลังเหตุการณ์ปะทะกับ Johann Zarco เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ก่อน ล่าสุดด้วยสปิริตอันแรงกล้าของเจ้าตัว ทำให้นักบิดร่างเล็กรายนี้ไม่อยากหยุดรอพักฟื้นให้เสียเวลา และเตรียมตัวที่จะลงฝึกซ้อมต่อเพื่อแข่งขัน MotoGP ในสนามถัดไปที่จะจัดขึ้นสุดสัปดาห์นี้ในทันที ซึ่งเจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์กับทางสื่อเอาไว้ดังนี้ “หลังผ่าตัดเสร็จ ผมก็เริ่มรู้สึกดีขึ้นทีละนิดๆในแต่ละวัน”, “ผมพยายามทำกายภาพบำบัดเพื่อเพิ่มความสามารถในการเคลื่อนไหวไปพร้อมๆกับการลดแผลอักเสบไป”, “จากจุดนี้มันยังบอกได้ยากว่าเราจะสามารถทำอะไรได้บ้างจนกว่าผมจะกลับไปขับรถของผมอีกครั้ง” “แต่สิ่งนึงที่ค่อนข้างชัดเจนในตอนนี้ก็คือผมอยากที่จะไปลองดูให้ได้ซึ่งส่วนนึงที่ทำให้ผมกล้าที่จะลองก็เพราะกำลังใจจากทุกๆคนที่ส่งข้อความเข้ามา ผมจึงอยากขอบคุณทุกๆคนในส่วนนี้” อ่านข่าว MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ Motorival