ย้อนไปในศึก MotoGP ช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุรุนแรงระหว่างแข่งจนกรรมการต้องตีธงแดงยุติการแข่งขัน ผลลัพท์ของมันอาจทำให้นักแข่งที่ขึ้นนำก่อนธงแดงถูกตีออกมาอาจเสียตำแหน่งแชมป์ประจำสนามไปเลยก็ได้ เนื่องจากตามกติกาเดิมจะสรุปผลการแข่งขันจากอันดับของนักบิดใน 1 รอบการแข่งขันก่อนที่จะเกิดเหตุการตีธงแดง
กล่าวคือ หากอิงตามกติกาการสรุปผลกาเดิมเมื่อเกิดกรณีตีธงแดงเพื่อยุติการแข่งขันขึ้นมา ทางคณะกรรมการจะตัดสินผลการแข่งขัน โดยอิงจากลำดับของนักบิดใน 1 รอบเต็มก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการตีธงแดงขึ้น เช่น หากในตอนตีธงแดง การแข่งขันได้ดำเนินมาถึงรอบที่ 17 ทางคณะกรรมการจะสรุปผลการแข่งขันจากอันดับของเหล่านักบิดในจังหวะก่อนที่พวกเขาจะเข้าเส้นชัยเพื่อแข่งขันต่อในรอบที่ 16 (นับอันดับหลังเหล่านักบิดเข้าเส้นชัยจบการแข่งขันรอบที่ 15)
จากการสรุปผลเช่นนี้ จึงทำให้ในหลายๆครั้ง เหล่านักบิด และผู้ติดตามการแข่งขัน MotoGP มองว่ามันเป็นการสรุปผลการแข่งขันที่ย้อนหลังจากเหตุการณ์สุดท้ายก่อนที่ธงแดงจะถูกตีขึ้นมามากเกินไป เพราะในระหว่าง 1 รอบการแข่งขันที่เกิดขึ้นก่อนตีธงแดง นักบิดบางคนอาจไล่แซงนักบิดขึ้นมาหลายอันดับแล้วก็ได้ ถ้าเกิดกรรมการนับคะแนนจากอันดับย้อนหลังไป 1 รอบสนาม การไต่อันดับขึ้นมาของนักบิดคนดังกกล่าวก็จะสูญเปล่าทันที หรือในกรณีที่บางครั้ง นักบิดบางคนอาจล้มจนไม่สามารถกลับมาแข่งขันได้แล้วในรอบเดียวกันกับที่เกิดเหตุการณ์ตีธงแดง พอคณะกรรมการกลับไปนับอันดับการแข่งขันในรอบก่อน ปรากฏว่านักบิดที่ล้มไปในรอบล่าสุดดันได้คะแนนเสียอย่างนั้น เนื่องจากใน 1 รอบสนามก่อนหน้า เขายังวิ่งอยู่นั่นเอง
ดังนั้น สำหรับการแข่งขัน MotoGP 2022 ทางคณะกรรมการจึงได้ปรับกติกา หรือวิธีการคิดอันดับของนักบิด หลังเกิดเหตุให้ต้องยุติการแข่งขันหลังธงแดงถูกตีออกมาใหม่ โดยจากเดิมที่จะให้คะแนนนักบิดตามอันดับที่วิ่งอยู่ใน 1 รอบสนามก่อนเกิดการตีธงแดง คราวนี้จะเปลี่ยนมานับอันดับของนักบิดจากการเข้าเส้นชัยครั้งล่าสุด ก่อนที่จะเกิดการตีธงแดงแทน
ยกตัวอย่างคือ หากเกิดเหตุนักบิดล้มนักจนกรรมการต้องตีธงแดงและไม่สามารถดำเนินการแข่งขันในรอบที่ 17 ต่อไปได้ เนื่องจากการแข่งขันได้ดำเนินรอบมามากกว่า 2 ใน 3 ของรอบการแข่งขันทั้งหมดในวันดังกล่าวแล้ว ทางคณะกรรมการจะตัดสินอันดับของนักบิด จากลำดับการเข้าเส้นชัยครั้งล่าสุด หรือก็คือการเข้าเส้นชัยเพื่อแข่งขันในรอบที่ 17 เลย ไม่ต้องย้อนไปนับอันดับในจังหวะก่อนเหล่านักบิดจะเข้าเส้นชัยเพื่อแข่งขันในรอบที่ 16 เหมือนในกติกาดั้งเดิม นั่นเอง และจะเห็นได้ว่ามันคือการนับอันดับนักบิดที่ดูทันท่วงทีขึ้นมาก ซึ่งมันก็น่าจะป้องกันกรณีดราม่าที่เคยเกิดขึ้นในการแข่งขันปีก่อนๆได้ดีเลยทีเดียว
อ่านข่าว MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่
