หลายครั้งที่เราได้ยินข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุบนท้องถนนที่หาข้อสรุปไม่ได้ เจ้าหน้าที่ก็มักจะโยนจบด้วยเหตุ “ประมาทร่วม” แต่กับกรณีล่าสุดของหนุ่มรายหนึ่ง ซึ่งพาลูกสาวซ้อนมอเตอร์ไซค์วิ่งชิดซ้ายอยู่ดีๆ แต่เจอเก๋งจอดกลางเลนเปิดประตูไม่ดูคนเกี่ยวจนล้ม แล้วตำรวจบอกประมาทร่วมนั้น กลับดูเป็นเรื่องที่ “อิ้ยั๋งหวะ ?” หนักมาก
จากคลิปที่เพื่อนๆเห็นอยู่ทางด้านบน จะเห็นเหตการณ์อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนถนนเพลินจิตช่วงเช้าของวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์ในช่วงวินาทีที่ 10 เพื่อนๆจะเห็นรถเก๋ง Mazda 3 สีแดง ที่ขับมาในเลนซ้ายและในตอนแรกเข้าใจว่าผู้ขับแค่ตั้งใจจะเบรกเพราะติดแท็กซี่คันข้างหน้าเฉยๆนั้น จู่ๆก็จอดนิ่งให้ผู้โดยสารที่นั่งเบาะซ้ายเปิดประตูลงมาโดยไม่ชิดไหล่ทางให้ดีเสียก่อน แน่นอนว่าเมื่อผู้โดยสารเปิดประตูออกมาโดยไม่ดู หนุ่มพาลูกซ้อนมอเตอร์ไซค์ขี่ชิดซ้ายจึงไม่ทันระวังตัว และพุ่งเข้าไปยังแนวประตูซ้ายของรถเก๋งที่เปิดออกมาทันที จนทำให้ฝ่ายหลังได้รับบาดเจ็บกระดูกบริเวณหลังเท้าแตกละเอียดและนิ้วเท้าหัก 2 นิ้ว
แต่จุดที่งงยิ่งกว่านั้นก็คือการที่แหล่งข้อมูลระบุว่า เมื่อทางเจ้าหน้าที่ สน.ลุมพินี ได้มาตรวจสอบเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุแล้ว กลับให้สาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจากการประมาทร่วมของทั้งผู้ใช้รถเก๋ง แล้วหนุ่มผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์ที่ไม่ระวังกันเองเสียอย่างนั้น ซึ่งล่าสุดทางญาติของฝ่ายหลังซึ่งเป็นภรรยาของผู้ขี่ และเป็นแม่ของเด็กหญิงที่ซ้อนมอเตอร์ไซค์ก็ได้มีการแจ้งทนายให้เข้ามาช่วยเหลือแล้ว เนื่องจากเหตุการณ์นี้ความผิดน่าจะเกิดจากผู้ใช้รถเก๋งล้วนๆทั้งสิ้น หรือเพื่อนๆคิดว่าไม่ล่ะครับ ?
ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟซบุ๊ค คุณ สุชานุช เพ็งน้ำผึ้ง