รีวิว Ducati Diavel 1260 S พาวเวอร์ครุยเซอร์ สมญา “Mega Monster” แรงตัวพ่อ ณ Malaga Spain

0

เมื่อช่วง 2 สัปดาห์ก่อน ก่อนเริ่มงาน Motor Show [BIMS2019] เพียงไม่กี่วัน ทางทีมงาน MotoRival เราได้รับเกียรติจากทาง Ducati Thailand บินไกลมาถึง Malaga ประเทศสเปน เพื่อร่วมทดสอบ Ducati Diavel 1260 S ใหม่ กันก่อนเปิดตัวในอีก 2 วันให้หลังภายในงาน Motor Show 2019 ซึ่งในวันนี้ทางเราขอมา รีวิว Ducati Diavel 1260 S พาวเวอร์ครุยเซอร์ ที่ดีไซน์สุดงาม แสนน่าหลงไหล ดีกรีรางวัล Red Dot Design Award 2019 คันนี้กันครับ

Ducati-Diavel-Concept-Line-Blendก่อนอื่นเราขอพูดถึง การดีไซน์ออกแบบรถคันนี้ก่อน ทางทีม R&D Ducati ได้เปิดเผยว่า พวกเขาคิดพัฒนารถในรูปแบบใหม่ ซึ่งเกิดจากการผสมผสานกัน ระหว่างรถ Superbike, Sport Naked และ Cruiser ชนได้รถสมญา Mega Monster (Diavel) คันนี้

Ducati-DIAVEL-1260-S-STATICสำหรับการออกแบบ Diavel 1260 ใหม่ นั้น ได้แรงบรรดาลใจมาจาก 3 ส่วน ด้วยกัน คือ Muscle Car, Superhero Comics, Hi-tech

ซึ่งจะสะท้อนภาพลักษณ์ ความบึกบึน, แข็งแกร่ง, เงางาม, รวมถึงความซับซ้อน น่าหลงไหล

Review-Ducati-DIAVEL 1260 S STATIC _2
เมื่อมองจากทางด้านข้างจะพบว่า
ด้านหน้าตัวรถมีความหนา บึกบึนดูหนักแน่น
ขณะที่ด้านท้าย มีเส้นสายที่คม และดูปราดเปรียว

Review-Ducati-Diavel-1260-S_5
ตัวไฟหน้าเป็นแบบ Full LED มาพร้อมไฟ DRL สุดหรู ซึ่งสามารถเซ็ทให้เปิดได้แบบ Auto (โคมแบบเดียวกับ XDiavel)

Review-Ducati-DIAVEL 1260 S DETAILS_12
ไฟเลี้ยวด้านข้างเป็นแบบ Light Blade Design ซึ่งติดตั้งอยู่บนชิ้นแฟริ่งปีกข้างหม้อน้ำ
ซึ่งตำแหน่งของหม้อน้ำจาก Diavel เดิมที่อยู่ด้านข้าง ถูกย้ายมาตรงกลางด้านหน้า เพื่อสมรรถนะที่ดีขึ้น

Review-Ducati-DIAVEL 1260 S DETAILS_06
ไฟท้าย LED แบบเรียงยาว 2 แถวรับกับดีไซน์ท้ายโล่ง มีไฟเลี้ยวติดอยู่ที่บังโคลนล้อหลัง

Review-Ducati-DIAVEL 1260 S DETAILS_01
มือจับท้ายถูกซ่อนอยู่ด้านในสามารถดึงออกมาได้

Review-Ducati-Diavel-1260-S_1
ตัวถังน้ำมันขนาดใหญ่ และมีรูปลักษณ์ที่เรียวยาว มีความจุ 17 ลิตร

Review-Ducati-DIAVEL 1260 S DETAILS_08ล้อหลังขนาดใหญ่ สวมยาง ยาง Pirelli Rosso III ไซส์ 240/45 ZR17
ถูกติดตั้งบน Single Side Swingarm เปิดโชว์ลายล้อพ่นดำแบบ 5 ก้านคู่

Review-Ducati-DIAVEL 1260 S DETAILS_09ท่อไอเสียออกด้านข้างสั้น เป็นดีไซน์ท่อคู่ หลังพักเท้าด้านขวา

Ducati-Diavel-1260-S-keylessDiavel 1260 ใช้กุญแจแบบ Keyless เพียงแค่พกติดตัวก็ติดเครื่องยนต์ ได้เหมือนรถยนต์ ดอกกุญแจใช้ไขเปิดฝาถังน้ำมัน
และถ้าไม่อยากพกกุญแจเลยก็ยังทำได้ สะดวกด้วยระบบ Pin Code สำหรับคนไม่ชอบพกกุญแจติดตัว แค่ ใส่รหัส ก็พอ

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_45
ชุด Dashboard เป็นแบบ 2 Level ด้านบน แสดงสัญลักษณ์ต่างๆ อาทิ ไฟเตือนน้ำมัน, ไฟ Engine, ไฟต่ำ-สูง, ABS, Cruise Control

Review-Ducati-DIAVEL 1260 S DETAILS_13
ส่วนด้านล่างเป็นมาตรวัดดิจิตอลสี TFT ขนาด 3.5″ สไตล์ Minimal แบบเดียวกับ XDiavel

Ducati-XDiavel-S_RSD-Info-Mode
สามารถปรับรูปแบบการแสดงผล Info Mode ได้ 4 แบบด้วยกัน Core, Track, Full, City (ภาพประกอบจาก XDiavel)

Ducati-XDiavel-S_RSD-Riding-Mode-Set
Ride Mode มี 3 แบบ Sport, Touring, Urban นอกจากนี้ เรายังสามารเข้าไปปรับตั้งค่าภายใน Ride Mode ทั้งหมดได้อีก
ทั้ง Engine ที่ปรับได้ 3 ระดับ High, Medium, Low
DTC และ DWC ปรับได้ถึง 8 ระดับ ส่วนระบบ Cornering ABS ปรับได้ 3 ระดับ (ปิดไม่ได้)
3 ทำงานมากสุด 2 ทำงานแบบสปอร์ต 1 ปล่อยให้ล้อหลังล็อกได้
นอกจากนี้ยังสามารถ Pair Bluetooth และ จับเวลา Lap Time ได้อีกด้วย (ภาพประกอบจาก XDiavel)

Ducati-XDiavel-S_RSD-Left-Switch
สวิทช์ไฟซ้าย นอกจากปุ่มพื้นฐานอย่าง สวิทช์ไปเลี้ยว แตร ไฟสูง ไฟฉูกเฉิน แล้วก็จะมีปุ่มไฟ DRL ปุ่มเมนู และ Cruise Control รวมถึงไฟ Backlit

Ducati-XDiavel-S_RSD-Right-Switch
สวิทช์ไฟขวา มีปุ่ม Run-Off และ Engine Start แล้ว เพิ่มปุ่ม Lock คอ ทางด้านบนมี ปุ่ม DPL และมีไฟ Backlit ด้วยเช่นกัน

Review-Ducati-Diavel-1260-S_3
ขณะที่ ปุ่ม On-Off Ignition อยู่ด้านใต้ จอสี TFT

Review-Ducati-DIAVEL 1260 S STATIC _1
มิติรถ Ducati Diavel 1260 S
ระยะฐานล้อ 1,600 มม. (ยาวกว่าเดิม 10 มม.)
ความสูงเบาะ 780 มม.
นน. 218 กก. (Dry), 233 กก. (Wet)
ความจุถังน้ำมัน 17 ลิตร

Review-Ducati-Diavel-1260-S_2
ในส่วนของท่านั่ง
Diavel 1260 นั้น ยังมีท่านั่งที่ใกล้เคียงกับ Diavel เดิม แม้จะมีการเปลี่ยนในส่วนของแชสซีส์ ใหม่ ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Trellis Frame ใหม่, Sub Frame ใหม่, สวิงอาร์มใหม่ รวมถึงระบบกันสะเทือนใหม่ หมดก็ตาม

Pon-Review-Ducati-Diavel-1260-S_Pon
ตัว Handlebar ขนาดกว้างและยาว ความสูงปานกลาง โดยรวมสำหรับผู้ทดสอบ ก็ถือว่ากำลังพอดี ไม่เอื้อมมือจนเกินไป แต่ถ้าผู้ที่สรีระช่วงตัวไม่ยาวมากนัก อาจต้องมีเอื้อมมือกันเสียหน่อย

Review-Ducati-Diavel-1260-S-Pon_1_resize
ตัวเบาะสูง 780 มม. ถือได้ว่าไม่สูงมาก ผู้ทดสอบสูง 174 ซม. สวมบูท เหยียบได้เต็มเท้า หย่อนเข้าสบาย
สำหรับตำแหน่งพักเท้าที่วางต่ำลงตรงกลาง ซึ่งจะอยู่ระหว่าง รถ Naked Sport และครุยเซอร์ จึงทำให้ตำแหน่งวางเท้านั้นดูจะสบายๆ ไม่เมื่อย ในแบบ Naked Sport
และช่วยให้การขี่ควบคุมรถแรงๆ เช่นนี้ ยังหนีบถังได้กระชับง่าย จึงทำให้การควบคุมรถทำได้ดีมั่นใจกว่า XDiavel ที่พักเท้ายื่นไปด้านหน้า

Review-Ducati-DIAVEL 1260 S DETAILS_03
สำหรับตำแหน่งผู้ซ้อนนั้น Diavel 1260 ถือได้ว่าตัวเบาะหลังนั้นมีความใหญ่พอควร ใหญ่กว่า XDiavel ที่มีทรวดทรงตูดแหลม นั่นจึงทำให้นั่งได้เต็มก้นอยู่ ซึ่งถ้าเป็นไปได้หากมีคนซ้อนบ่อยๆควรติดพนักกันตกด้วยจะปลอดภัยขึ้นมาก เพราะถ้าเปิดคันเร่งแรงๆ ผู้ซ้อนไม่ทันระวังมีตกรถได้ง่ายๆ

Review-Ducati-DIAVEL 1260 S DETAILS_07
บล็อกเครื่องยนต์ใหม่ Testastretta L-Twin ความจุ 1,262cc มาพร้อมวาล์วแปรผัน DVT เป็นเครื่องบล็อกเดียวกับ XDiavel มีพละกำลัง 159 HP @9,500rpm (157 HP ในตลาด US, Canada, Mexico) และ ทอร์คระดับ 129 Nm@7,500rpm
แต่ส่งกำลังด้วยโซ่ และใช้คันเร่งไฟฟ้าเช่นกัน และยังมีระบบ Slipper Clutch มาให้ด้วย
ในรุ่น S นี้ มาพร้อมกับ DQS (Quick Shift Bi-Direct) ซึ่งดีงามมาก

Review-Ducati-DIAVEL 1260 S DETAILS_11
ตัวคันเร่งไฟฟ้ามาพร้อม Riding modes 3 แบบ Urban (ตอนกำลังเหลือ 100 แรงม้า คันเร่งหน่วงเบาเน้นปลอดภัย), Touring (ม้าเต็ม แต่คันเร่งสมูทเน้นขี่ง่าย บิดตึงมือนิดๆ) และ Sport (ม้าเต็ม การตอบสนองเครื่องยนต์รวดเร็วทันใจ)

เมื่อติดเครื่องยนต์ ด้วยระบบ Keyless เสร็จ กำคลัทช์ เพื่อออกตัว พบว่าน้ำหนักคลัทช์ หนักพอประมาณ เรียกว่าไม่เบา แต่ก็ไม่ถึงกับหนักเกินไป ขณะที่ การหาตำแหน่งเกียร์ว่างทำได้ไม่ยาก และคันเกียร์ไม่ถึงกับว่าแข็ง

Review-Ducati-Diavel-1260-S-Pon_4_resize
เราเลือกที่ Urban Mode กันก่อน เพื่อทำความคุ้นชินกับรถ จังหวะคันเร่ง พอให้ควบคุมได้ไม่ยาก มีระยะหน่วงเล็กน้อย สามารถเปิดคันเร่งได้แบบไม่ต้องเกร็งข้อมือจนเกินไป กลัวว่าจะเปิดคันเร่งหนักเกิน ถือว่า เหมาะแก่การ ขี่ในเมืองที่รถติดๆ หรือช่วงที่ฝนตกถนนลื่นๆ

Review-Ducati-Diavel-1260-S-Pon_7_resize
หลังจากนั้นไม่นาน เราปรับมาเป็น Touring แรงขึ้นชัดเจน ม้ามาเต็มไม่โดนตอน แต่ภาพรวมการเปิดคันเร่งนั้นยังสมูท มีหน่วงตึงมือนิดๆ ซึ่งถือว่าเหมาะสมกับใช้งานทั่วๆไป ไม่ว่าจะเดินทางไกล หรือ ขี่แบบรถติดในเมืองเมื่อชินมือแล้ว

Review-Ducati-Diavel-1260-S-Ponส่วน Sport นี่บิดติดมือดีมาก คันเร่งมาไวตอบสนองทันท่วงที รถพร้อมกระชากพุ่งไปข้างหน้าอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นถ้าขี่ในช่วงเล่นโค้งตามเขา จึงต้องระวังการเดินคันเร่งให้เนียน เผลอเปิดแบบพรวดเดียว เครื่องรีดทอร์คระดับ 110 Nm มาได้ตั้งแต่รอบต่ำ ไม่ถึง 4,000rpm ยิ่งถ้ามีผู้ซ้อนเชื่อว่าบิดไม่ดี และคนซ้อนไม่ระวังมีหงายตกรถได้ง่ายๆ

โดยรวมแล้วสำหรับผม เอง ใช้ Touring Mode เกือบจะทั้งทริปนี้ เพราะ พละกำลังที่มาเต็ม และ คันเร่งที่มีระยะหน่วงเหมาะสม ไม่มาไวจนน่ากลัว ทำให้เราขี่ได้สนุก และยัง Enjoy Route เส้นทางได้ โดยที่ไม่เครียด

Review-Ducati-Diavel-1260-S-Pon_5_resize
สำหรับ แรงบิดมหาศาล ทำให้เวลาเร่งแซง หลายครั้ง แทบไม่ต้องจบเกียร์ลงมาเลย หลายจังหวะ ยังพอเดินคันเร่งแซงที่เกียร์ 6 ได้ หรือ ช่วงที่ขึ้นทางชันบนทางขึ้นเขา ยังสามารถใช้เกียร์สูงที่เกียร์ 4 ไต่ขึ้นได้อย่างสบายๆ

Review-Ducati-Diavel-1260-S_4
อีกจุดที่ผมชื่นชอบมากเป็นพิเศษ คือ DQS แบบ 2 ทิศทาง ให้ฟีล เหมือนขี่รถสนาม แม้จะเป็นรถสไตล์พาวเวอร์ครุยเซอร์เช่นนี้ ไม่ต้องมาคอยพะวงบีบคลัทช์ ให้เมื่อยนิ้ว อีกต่อไป แค่งัดขึ้น หรือ กดเท้าลง ที่สำคัญไม่ต้องมาผ่อนคันเร่งให้เสียจังหวะ ในช่วงทำอัตราเร่งอีกด้วย

ด้านอัตราสิ้นเปลือง Ducati เคลมไว้ที่ 18.52 กม./ลิตร ซึ่งจากการใช้งานจริงของเราขี่ไปเรื่อยๆ ตามขบวน มีเร่งแซงกันบ้าง ในช่วงขึ้น-ลง เขา ทำอัตราสิ้นเปลืองได้เฉลี่ย ราว 17.25 กม./ลิตร

Review-Ducati-DIAVEL 1260 S STATIC _4อีกลูกเล่น ที่มีมาให้นั่น คือ Ducati Power Launch (DPL) ช่วยให้การออกตัวแบบรถ Drag
ซึ่งปรับได้ 3 ระดับ (LV3 สำหรับคนทั่วๆไป 2 จะเหมาะแก่ผู้ชำนาญ และ 1 เหมาะแก่ผู้ที่ชำนาญมาก)
เลือกเสร็จหน้าจอบอกให้ทำตามขั้นตอน บีบคลัทช์ – เข้าเกียร์ 1 – บิดหมดปลอก
และค่อยๆ ปล่อยคลัทช์ช้าๆ รถก็จะออตัวแบบ Launch Control พุ่งออกตัวไปอย่างรวดเร็ว

ระบบกันสะเทือน ในรุ่น 1260 S เรียกได้ว่า ยกมาแบบใหม่ หมดจด ทั้งตัวโช้กอัพ

Review-Ducati-DIAVEL 1260 S DETAILS_04โช้กหน้า Ohlins ขนาดแกน 48 มม. ปรับระดับได้ครบถ้วน ซึ่งขันปรับรายละเอียดได้ที่แกนโช้กด้านบน

Review-Ducati-DIAVEL 1260 S DETAILS_10
ด้านหลัง Monoshock จาก Ohlins ซึ่งปรับได้ครบถ้วนเช่นกัน

ภาพรวมการซับแรงสะเทือนนั้น ทำได้ดี ให้ฟีลลิ่งแบบ เฟิร์มๆ แน่นๆ กับเส้นทางบน Ronda ที่เรียกได้ว่าแข็ง แต่กระชับ

Review-Ducati-DIAVEL 1260 S DETAILS_14
ขณะที่เฟรม Trellis และ Sub Frame ก็ปรับปรุงใหม่ ยันสวิงอาร์มแขนเดี่ยว ตัวใหม่ ที่มีความสั้นกว่าเดิม ที่จะช่วยมอบความคล่องตัวดีขึ้นอีกหน่อย แต่โดยรวมแล้ว ระยะฐานล้อยาวขึ้น 10 มม.
นั่นจึงทำให้มันมีความเสถียรภาพในโค้งที่ดีขึ้น

Review-Ducati-Diavel-1260-S-Pon_2_resize
สำหรับตัว องศา Rake ที่ 27 และ ระยะเทรล 120 มม. ทำให้ภาพรวมการคอนโทรลรถทางด้านหน้า ใกล้เคียงสไตล์รถ Naked Sport มากกว่าครุยเซอร์ นั่นจึงทำให้มันดูมีความฉับไว ในการเข้าโค้งที่ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ดี ด้วยระยะของแฮนด์ และไซส์ล้อหลังขนาด 240 มม. การหัก Steering ในโค้งจึงอาจทำให้รถมันดูขืนๆ ไปบ้าง เมื่ออาจต้องเลี้ยวในทางแคบๆ แต่เมื่อเราขี่ในโค้งที่กว้าง การเอียงเทรถไปทั้งคันนั้น การคอนโทรลรถโดยรวมถือว่าทำได้ง่ายกว่า Diavel เดิม และ XDiavel
กับเส้นทาง Ronda ขึ้น Andalucia ที่เป็นโค้งสลับซ้าย-ขวา นั้น มันทำให้เรา Enjoy การขี่ Diavel 1260 ใหม่ คันนี้ ได้ดีมากทีเดียว

ระบบเบรก Diavel 1260 S

Review-Ducati-DIAVEL 1260 S DETAILS_02
ด้านหน้า ปั๊มเบรก Brembo M50 คาลิปเปอร์ 4 สูบ บน Twin Disc ขนาด 320 มม.
ด้านหลัง ปั๊มเบรก Brembo คาลิปเปอร์ 2 สูบ จานเดี่ยวขนาด 265 มม.
มาพร้อม Bosch Cornering ABS

Review-Ducati-Diavel-1260-S-Pon_3_resize
ด้วยการใช้ปั๊มเบรกหน้า-หลัง เป็นแบบที่พบให้รถ Superbike ตัวแรงทั้งหลาย เราคงไม่ต้องมาบรรยายสรรพคุณอะไรมาก
เพราะมันให้ความมั่นใจได้ทั้งภาพลักษณ์ และการใช้งานจริง กับการเบรกหนักๆ ก็สามารถหยุดพละกำลังเครื่องระดับ 1.2 ลิตร ได้ไม่ยากเย็นนัก

Ducat-DIAVEL 1260 S-Static
สรุป รีวิว Ducati Diavel 1260 S กับการทดสอบ Global Press Test ในครั้งนี้ ทำให้เราได้รับรู้ว่า มันเป็นรถที่ผสมผสาน รถทั้ง 3 สไตล์เข้าด้วยกัน
จะขี่ชิลหล่อๆ ก็ดูเนี๊ยบมีระดับ, จะเอาแรงก็หายห่วง ไม่เหมือนพวกรถมะกันที่ ซีซี เยอะ แต่ม้าน้อย ไร้พละกำลัง, จะขี่สนุกเล่นโค้งก็ทำได้เร้าใจ ใกล้เคียงรถ Naked
แถมด้วยฟังก์ชั่นเทคโนโลยี แบบรถสนามที่อัดแน่นให้มากมาย

Review-Ducati-DIAVEL 1260 S STATIC _3
นอกจากนี้ การันตีรางวัล Red Dot Design Award 2019 ทำให้คุณมั่นใจได้ว่า มันคือ รถที่ติดอันดับเรื่องของความหล่อ และโดดเด่นไม่ซ้ำใครอย่างแน่นอน
เป็นพาวเวอร์ครุยเซอร์ ขนานแท้ ที่จบครบเครื่อง ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย

Ducati-Diavel-1260-S-BIMS2019 (5)_resize
ส่วน ราคา Ducati Diavel 1260 ในไทย ที่เปิดใน BIMS2019 มี 2 รุ่น ได้แก่
– 2019 Ducati Diavel 1260 ราคา 882,000 บาท มีสีเดียว คือ เทา Sand Stone Grey
– 2019 Ducati Diavel 1260 S ราคา 1,025,000 บาท มี 2 สี คือ เทา Sand Stone Grey และ ดำเฟรมแดง Thrilling Black & Dark Stealth

Review-Ducati-DIAVEL 1260 S DETAILS_05ขอขอบคุณ Ducati Thailand สำหรับทริปทดสอบ Ducati Diavel 1260 S ในครั้งนี้ครับ
ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver

อ่านรีวิว อื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าวสาร Ducati เพิ่มเติมที่ได้ที่นี่

เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ

Share.

About Author

Background EXP in Automotive journalists more than 10 Years Writer & Test Driver @Pantip Garage 2018-Present @9carthai 2015- 2017 @Torque & VIPStyle Magazine 2015 @Autospinn 2012-2015 @GTmania.tv 2009-2010

error: Content is protected !!