รีวิว BMW R1250GS / R1250GS Adventure สัมผัสแรก “ตัวจบ แห่งสาย ADV”

0

หลังจากที่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อกลางเดือนก่อน ล่าสุด BMW Motorrad Thailand ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชน สามารถเข้าร่วมทดสอบรถมอเตอร์ไซค์ระดับท็อปของสายแอดเวนเจอร์-ทัวร์ริ่ง อย่าง All-New BMW R1250GS และ R1250GS Adventure เป็นครั้งแรกในแบบทริปขี่สั้นๆ ซึ่พวกเราทีมงาน MotoRival จะขอมา รีวิว BMW R1250GS / R1250GS Adventure แบบ 1st Impression กันครับ

bmw-r1250gs-r1250gsa-1st-review-09
แต่ก่อนที่จะบอกเล่าถึงความรู้สึกที่ได้ขี่ เราขอเล่ารายละเอียดของ R1250GS/R1250GSA ใหม่กันก่อนดีกว่าครับ ซึ่งเราก็จะเริ่มกันที่ไฮไลท์สำคัญที่สุดของมัน อย่างเครื่องยนต์ลูกสูบนอน 2 สูบ 8 วาล์ว (4 วาล์วต่อสูบ) บล็อคใหม่ที่พัฒนาต่อยอดมาจากบล็อค 1,184cc ลูกเดิม ให้มีขนาดความจุใหญ่ขึ้นเป็น 1,254cc ด้วยการขยายทั้งขนาดลูกสูบและยืดช่วงชัก จนต้องขยายขนาดแครงก์ล่างใหม่เพื่อรับกับชิ้นส่วนที่ใหญ่ขึ้น

ส่วนระบบระบายความร้อนก็แน่นอนว่าจะต้องเป็นระบบหม้อน้ำ แต่เพื่อความอุ่นใจ BMW ก็ยังออกแบบครีบระบายความร้อนมาด้วย ด้านระบบหัวฉีดคู่และระบบไอเสียใหม่ ผ่านการรับรองมาตรฐานยูโร 4 ที่เน้นประหยัดเชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษสู่อากาศ ขณะที่ระบบไหลเวียนน้ำมันเครื่องภายในก็มีการออกแบบชุดกลไกรักษาระดับน้ำมันเครื่องให้พร้อมใช้งานตลอดเวลา ไม่ว่าจะตอนลงเขาหรือขึ้นเนินชันๆ

2019-BMW-R1250-gs-Engine-01
ไม่เพียงเท่านั้นทาง BMW ยังได้ทำการเสริมเทคโนโลยี ShiftCam หรือระบบวาล์วแปรผันเข้ามา (อ่านการทำงานโดยละเอียดที่นี่) โดยเริ่มจากการออกแบบชุดเพลาลูกเบี้ยวรอบต่ำใหม่ ให้เป็นแบบ สองลูปที่แตกต่างกัน โดยแคมตัวหนึ่งจะเปิดเยอะ อีกตัวจะเปิดน้อย (แต่จะเปิดในช่วงเวลาเดียวกัน) เพื่อให้เกิดการหมุนวุนของไอดีภายในเสื้อสูบ ช่วยให้ปฎิกิริยาสันดาปภายในมีความสมบูรณ์มากขึ้น ซึ่งนี่จะเป็นแค่แคมชาฟท์ที่ใช้สำหรับย่านรอบต่ำตั้งแต่ 1-4,999 รอบ/นาทีเท่านั้น

ส่วนในช่วงรอบตั้งแต่ 5,000 รอบ/นาทีขึ้นไป ก็จะเป็นหน้าที่ของแคมชาฟท์ชุดที่ 2 ที่จะเปิดเยอะ และนานยิ่งขึ้น (ในตอนนี้วาล์วจะเปิดเท่ากันทั้ง 2 ตัว ไม่มีการเยื้องกันเหมือนตอนใช้ลุกเบี้ยวรอบต่ำ) เพื่อขยายย่านแรงบิดหรือย่านกำลังที่กว้างมากกว่าเดิม พร้อมมอบพละกำลังสูงสุด 136 แรงม้า ที่ 7,750 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 143 นิวตันเมตร ที่ 6,250 รอบต่อนาที นอกจากนี้ เพลาลูกเบี้ยวยังเปลี่ยนมาขับเคลื่อนด้วยห่วงโซ่ฟันแทนโซ่ส่งกำลังแบบเดิม

bmw-r1250gs-r1250gsa-1st-review-13
ซึ่งจากการได้ลองสัมผัสคร่าวๆแล้ว เราพบว่าเครื่องยนต์สามารถทำงานได้อย่างนุ่มนวลมากในช่วงรอบและความเร็วต่ำ ตามฉบับของเครื่องยนต์ 2 สูบนอน ขณะที่หากอยากจะกระแทกคันเร่งแก้ง่วงขึ้นมา มันก็สามารถตอบสนองต่อการเปิดคันเร่งของผู้ขี่ได้ดีมาก แถมจังหวะการทำงานของระบบ ShiftCam เองยังเนียนสนิท ไม่รู้สึกถึงความต่างของช่วงกำลังแต่อย่างใด เรียกได้ว่าวิศวกรของ BMW ออกแบบมาดีใช้ได้เลยแม้นี่จะเป็นครั้งแรกที่พวกเขานำมันมาใช้กับผลิตภัณฑ์ของตนก็ตาม (เทียบกับ R1200GS โฉมก่อนแล้ว ความติดมือของกำลังเครื่องต่างกันอย่างเห็นได้ชัดมากๆครับ)

นอกจากนี้ทางผู้ดูแลโปรเจ็กต์ ยังระบุอีกว่า ด้วยความที่ตัวรถ BMW R1250GS นั้น เกิดมาเพื่อใช้งานเดินทางใกล ทำให้พวกเขาเลือกที่จะปรับปรุงชุดเซนเซอร์ระบบวัดค่าไอเสีย, ระบบวัดอากาศขาเข้า และอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการไหลเวียนไอดี/ไอเสียใหม่ทั้งหมด เพื่อให้เครื่องยนต์ 2 สูบนอนบล็อคนี้สามารถใช้งานได้กับน้ำมันเบนซิน/แก๊สโซฮอลล์ E10 ทุกค่าออกเทนแทบจะทั่วโลก โดยไม่ต้องนำกล่องไปปรับจูนน้ำมันใหม่ใดๆทั้งสิ้นที่ศูนย์บริการ ถึงหน้าเว็บจะบอกว่ารองรับตั้งแต่ ออกเทน 95 ขึ้นไปก็ตาม

bmw-r1250gs-r1250gsa-1st-review-04
ด้านระบบกันสะเทือนของทั้ง R1250GS และ R1250GSA นั้นก็แน่นอนว่าจะต้องโดดเด่นด้วยชุดระบบกันสะเทือนหน้าแบบเทเลเลเวอร์ ที่ช่วยให้ตัวรถมีความเสถียรสูงขณะเบรก และสามารถซับแรงกระแทกจากผิวถนนได้กีกว่าการใช้กอัพตะเกียบคู่ทั่วๆไป

bmw-r1250gs-r1250gsa-1st-review-03
ส่วนระบบกันสะเทือนด้านหลัง ก็จะเป็นแบบสวิงอาร์มอลูมิเนียมแขนเดี่ยว ซึ่งกลายเป็นเสื้อเพลาขับไปในตัว ทำงานร่วมกับชุดโช้กอัพแก๊สเดี่ยว สามารถปรับพรีโหลดได้ด้วยระบบไฮดรอลิก

bmw-r1250gs-r1250gsa-1st-review-06
อย่างไรก็ดีตัวระบบช่วงล่างทั้งหน้าและหลังนั้นจะถูกควบคุมด้วยไฟฟ้า หรือ Dynamic ESA ที่จะคอยปรับการตอบสนอง ของโช้คอัพให้เหมาะสำหรับ น้ำหนักบรรทุก (ผู้ขี่/ผู้ซ้อน/สัมภาระ), สภาพผิวถนน, และโหมดการขับขี่ที่เลือกใช้ อยู่เสมอๆจึงทำให้ไม่ว่าเราจะเอาเจ้า R1250GS/GSA ไปขี่บนถนนรูปแบบไหน หรือผู้ขี่/ผู้ซ้อน กับสัมภาระจะหนักเท่าไหร่ ตัวรถก็สามารถรักษาสมดุลของตัวเองไว้ได้ และตัวโช้กเองก็สามารถทำงานให้สอดรับกับสภาพการใช้งานได้แทบทั้งหมดเช่นกัน ซึ่งที่เราบอกว่าไม่ทั้งหมด ก็เพราะว่าถ้าเอาไปโดดเนินแบบรถโมโตครอสนี่คงไม่ไหวครับ เพราะตัวรถหนักขนาดนี้ โดดสูงๆสัก 2 เมตรขึ้นไปทีนึงคงมีแตกหักกันไปข้าง (ไม่คนก็รถล่ะครับ)

bmw-r1250gs-r1250gsa-1st-review-18
ด้านระบบอิเล็กทรอนิสก์ที่ช่วยเสริมความสะดวกสบายในการควบคุมเอง ใน BMW R1250GS/GSA ใหม่ มาพร้อมโหมดการขับขี่พื้นฐาน 4 แบบด้วยกันคือ
– Rain : ABS และแทร็คชันทำงานไวสุด (กระแทกคันเร่งยังไงล้อหลังก็ไม่ยอมปัดหรือสไลด์), โช้กทำงานแบบเน้นความสมดุลเป็นหลัก, เครื่องยนต์ทำงานค่อนข้างนิ่มนวล
– Road : ABS และแทร็คชันทำงานกลางๆ (แต่ก็ยังกระแทกสไลด์ยากอยู่ดี มีแค่อาการล้อหน้าลอยหน่อยๆเท่านั้น แต่แป้บๆเครื่องก็ตัดกำลังล้อหน้าตกลงพื้นเหมือนเดิม), โช้กยังติดนุ่มอยู่แต่มีความหนืดขึ้นเล็กน้อย, คันเร่งตอบสนองไวขึ้นกว่า Rain แต่ก็ยังไม่ดุดันเท่าไหร่นัก
– Dynamic : ABS และแทร็คชันจะทำงานยากขึ้น, คันเร่งตอบสนองไว ดุดัน, ช่วงล่างกระด้างขึ้นนิดๆเพื่อรอบรับการขับขี่แบบดุดัน
– Enduro : สามารถปิด ABS ล้อหลังได้ เพื่อเหยียบเบรกสไลด์, หรือจะทำเพาเวอร์สไลด์ด้วยการกระแทกคันเร่งก็ทำได้เช่นกัน ซึ่งการสไลด์ท้ายทั้งหมดจะถูกควบคุมด้วยกล่อง ECU อีกทีว่าจะอนุญาตให้รถท้ายสไลด์ได้เท่าไหร่ หรือล้อหลังหมุนเร็วกว่าล้อหน้าได้กี่เปอร์เซ็นต์ ถ้าเกินระบบก็จะเลี้ยงคันเร่งให้เอง ซึ่งเนียนมาก ถ้าไม่สังเกตก็ไม่รู้สึกเลยว่าระบบทำงานให้อยู่, ส่วนโช้กหน้าหลัง จะให้ตัวได้มากขึ้น เพื่อเน้นการซับแรงกระแทกจากหลุมเนินต่างๆที่พบได้เสมอๆบนเส้นทางแบบเอนดูโร่ (โหมดนี้ขี่สนุกมากครับ ผู้ทดสอบเลยเปิดไว้แทบจะตลอดเวลา ไม่เปลี่ยนไปเล่นโหมดอื่นเลย ฮ่าๆ)

bmw-r1250gs-r1250gsa-1st-review-02
โดยระบบทีี่ว่านี้จะสามารถเซ็ทได้ผ่านจอยปรับที่ประกับแฮนด์ซ้าย/ขวา และแสดงผลบนหน้าจอ TFT ขนาด 6.5 นิ้ว ที่สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือด้วยระบบบลูทูธเพื่อเข้าสู่ฟังก์ชันระบบนำทาง (สามารถแชร์เส้นทางให้กับเพื่อนร่วมทางได้ผ่นแอพพลิเคชันฟรีของ BMW), ฟังเพลง, และรับโทรศัพท์ เป็นต้น

bmw-r1250gs-r1250gsa-1st-review-50
ไม่เพียงเท่านั้น หากลูกค้าคนไหนคิดว่าตัวเองแน่พอ พวกเขาเหล่านั้นก็สามารถนำเจ้า R1250GS/GSA ไปเข้าศูนย์บริการ BMW Motorrad เพื่อเสียบปลั๊กโปรแกรมกล่อง ECU ให้ปลดล็อคโหมด ‘Dynamic Pro’, และ ‘Enduro Pro’ ได้ด้วย ซึ่งหลังจากที่ปลดล็อคโหมดการขับขี่นี้แล้ว โหมดเดิมที่่ไม่มี Pro ก็จะหายไปในทันที (ส่วน Rain กับ Road ยังอยุ่เหมือนเดิม) ขณะที่การทำงานของทั้งสองโหมด Pro ที่เพิ่มขึ้นมาก็จะดุดันและเอื้อให้ผู้ขี่สามารถเล่นหรือออกแอคชันกับตัวรถได้มากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตัวผู้ขี่เองก็ต้องมีทักษะระดับโปรด้วยเช่นกัน เพราะไม่เช่นนั้น อาจจะคุมรถไม่อยู่ (ปลดล็อคแล้ว ดูเหมือนจะปรับคืนไม่ได้ด้วยนะครับ ดังนั้นก็ตัดสินใจให้ดีก่อนปลดเด้อ)

bmw-r1250gs-r1250gsa-1st-review-17
และเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานที่สูงขึ้นไปอีก ทาง BMW ยังเสริมระบบควบคุมการทรงตัวแบบอัตโนมัติ (ASC) ที่ช่วยรักษาเสถียรภาพหน้าหลังของตัวรถให้สมดุลตลอดเวลา (ทำงานร่วมกับ Dynamic ESA) และมีระบบช่วยออกตัวในทางลาดชัน (Hill Start Control) ที่ช่วยรั้งตัวรถให้ทั้งเนินขึ้นและเนินลง ขอเพียงแค่กำคลัทช์ ปิดคันเร่งแล้วกำเบรกค้างไว้ประมาณ 2 วินาที เพื่อให้ระบบทำงาน หลังจากนั้นก็เข้าเกียร์ เปิดคันเร่ง แล้วคลายคลัทช์เพื่อออกตัวได้เลยโดยไม่ต้องกลัวว่ารถจะไหล

bmw-r1250gs-r1250gsa-1st-review-16
นอกจากนี้ยังเพิ่มความปลอดภัยทุกการเข้าโค้งด้วยระบบ Dynamic Traction Control และ ABS Pro (หรือที่รู้จักกันในชื่อ Cornering ABS) ที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องพะวงว่าเบรกในโค้งแล้วรถจะล้มพับหรือตั้งหน้าดื้อแหกโค้งออกไป ซึ่งระบบ ABS ของ BMW R1250GS/GSA นั้นจะมาพร้อมกับฟังก์ชันที่สามารถปรับจังหวะการทำงาน (บีบ/ปล่อย) ให้เหมาะสมกับพื้นผิวถนนที่ล้อสัมผัสอยุ่ ณ ขณะนั้นด้วย โดยระบบจะทำงานแบบเรียลไทม์หรือประมวลผลตลอดเวลาที่กำเบรกนั่นเอง (หากเบรกบนถนนดำแล้วระยะไม่พอลงไปถึงกรวดข้างทาง ABS ก็จะปรับจังหวะการทำงานของตัวเองให้เหมาะสมในทันที ฉลาดสุดๆ)

และเพื่อความปลอดภัยอีกขั้น มันยังมีระบบ Dynamic Brake Control หรือ DBC ที่ช่วยให้เบรคหลังทำงานได้ดียิ่งขึ้น โดยการตัดกำลังของเครื่องยนต์เมื่อเบรคในสถานการณ์ฉุกเฉิน ป้องกันอาการคันเร่งค้าง เนื่องจากการเกร็งข้อมือของผู้ขี่ ทำให้ยังบังคับรถและควบคุมได้ในทุกสภาวะการขับขี่ ฟังก์ชั่นเหล่านี้ช่วยให้ผู้ขับขี่ขับสนุก เพิ่มความปลอดภัย และมั่นใจในทุกเส้นทาง ซึ่งจากการที่ผู้ทดสอบได้ลองเล่นระบบนี้ดูแล้ว ก็ถือว่ามันช่วยให้ตัว R1250GS/GSA สามารถเบรกได้อย่างมีเสถียรภาพดีจริงๆ (อันนี้รวมถึงระบบ ABS Pro ด้านบนด้วยนะครับ)

bmw-r1250gs-r1250gsa-1st-review-15
ต่อกันอีกนิดในส่วนของท่าทางการขี่ และการบาลานซ์ตัวรถต่างๆ ซึ่งด้วยความที่ตัวผู้ทดสอบนั้นสูงแค่เพียง 168 เซนติเมตร จึงทำให้พะวงไม่น้อยตอนขึ้นคร่อม และจอดพักแบบไม่เอาขาตั้งลง เนื่องจากความสูงเบาะของ R1250GS นั้นอยู่ที่ 850 มิลลิเมตร (ระดับเบาะต่ำสุด) กับน้ำหนักตัว 249 กิโลกรัม (สูงสุดเมื่อรวมน้ำมัน 90% ในถัง) ส่วน R1250GSA ก็อยู่ที่ 890 มิลลิเมตร (ระดับเบาะต่ำสุด) กับน้ำหนักตัว 268 กิโลกรัม (สูงสุดเมื่อรวมน้ำมัน 90% ในถัง)

bmw-r1250gs-r1250gsa-1st-review-21
ทว่าหลังจากที่หาจังหวะสตาร์ทออกไปได้แล้ว ด้วยระบบกันสะเทือนที่สามารถปรับเซ็ทแดมพ์ปิ้งและพรีโหลดได้เองดังที่เรากล่าวไปก่อนหน้านี้ กับศูนย์ถ่วงรถที่ต่ำเพราะใช้เครื่องยนต์แบบสูบนอน การจัดตำแหน่งท่านั่ง การออกแบบความกว้างของโครงรถช่วงหว่างขา ทำให้การคอนโทรลรถสามารถทำได้ง่ายมาก ไม่ว่าจะทั้งตอนนั่งขี่บนถนนดำธรรมดา หรือตอนขี่บนทางฝุ่น ที่แม้จะมีการเข้ามาของระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆช่วยอยู่บ้าง แต่โดยรวมก็ถือว่า R1250GS/R1250GSA นั้นถือว่าเป็นรถที่ขี่ง่ายมากๆเลยทีเดียว (ฝั่ง GSA อาจจะรู้สึกหน่วงๆและอุ้ยอ้ายหน่อย เนื่องจากน้ำหนักตัว แต่ก็แลกมาซึ่งความนิ่งเวลาขี่บนทางดำที่มากกว่าแทน)

bmw-r1250gs-r1250gsa-1st-review-08
ทิ้งทวนกันอีกหน่อยสำหรับความพิเศษของ BMW R1250GS Adventure ที่เพิ่มขึ้นมานอกเหนือจากความสูงเบาะ และน้ำหนักตัวเมื่อเทียบกับ R1250GS ซึ่งจะหลักๆแล้วก็จะอยู่ที่ขนาดความจุถังน้ำมันที่ใหญ่ขึ้นเป็น 30 ลิตรจาก 20 ลิตร, วินชิลด์หน้าขนาดใหญ่, จงอยบังโคลนด้านหน้าที่ยาวและกว้างกว่าเดิม, แครชบาร์ด้านหน้าที่ใหญ่และกว้างขึ้นโอบล้อมตั้งแต่ช่วงฝาสูบเครื่องยนต์ด้านล่างวาดขึ้นมาจนถึงข้างหน้าถังน้ำมัน, แร็คหลักสำหรับใส่ปี๊บออกโรงงาน, คันเบรกเท้ามีตัวเสริมคตวามสูงสำหรับการขี่ในท่ายืน, และเก๊ะหน้าสำหรับเก็บกุญแจ Keyless เป็นต้น นอกนั้นในส่วนของเครื่องยนต์, ระบบอิเล็กทรอนิกส์, และอื่นๆต่างเหมือนกันกับ 1250GS ทั้งหมด

bmw-r1250gs-r1250gsa-1st-review-19
สรุป รีวิว BMW R1250GS / R1250GS Adventure ในครั้งนี้นั้น ที่จริงแล้วมันยังมีรายละเอียดที่ซ่อนไว้อีกมากมาย และที่บอกไป เป็นรีวิว 1st Impression นั่นจึงทำให้ เราพอรับรู้ได้ว่า มันเป็นรถ ADV Bike ที่เยี่ยมยอด ที่หลายคนใฝ่ฝัน ทั้งเทคโนโลยีจัดเต็ม ขุมพลัง Boxer ที่ทรงพลัง แม้ตัวใหญ่ แต่การคอนโทรลดีเยี่ยม ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนักบิดเกือบทุกคนถึงยกย่องให้มันเป็น “ตัวจบ แห่งสายทัวร์ริ่ง”

งานนี้หากเพื่อนๆคนไหนสนใจล่ะก็ สามารถรับชม และจับจอง All-New BMW R1250GS และ BMW R1250GS Adventure ที่ศูนย์บริการ BMW Motorrad ทั่วประเทศ ได้เลยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยสำหรับรุ่นรถจะมีจำหน่ายในไทยทั้งหมด 4 รุ่นย่อยด้วยกัน ได้แก่
BMW R1250GS Limited Edition (ล้อแม็ก) ราคาจำหน่าย : 1,085,000 บาท
BMW R1250GS Limited Edition + HP Style (ล้อซี่ขอบทอง, สีไตร-คัลเลอร์, ของแต่ง) ราคาจำหน่าย : 1,105,000 บาท
BMW R1250GS Adventure Limited Edition + Exclusive Style (ล้อซี่, ของแต่ง) ราคาจำหน่าย : 1,174,000 บาท
BMW R1250GS Adventure Limited Edition + HP Style (ล้อซี่ขอบทอง, สีไตร-คัลเลอร์, ของแต่ง) ราคาจำหน่าย : 1,174,000 บาท (เท่ากับตัว Exclusive)

bmw-r1250gs-r1250gsa-1st-review-14
ขอขอบคุณ BMW Motorrad Thailand สำหรับการเอื้อเฟื้อกิจกรรมและภาพในการทดสอบ All-New BMW R1250GS และ BMW R1250GS Adventure ในครั้งนี้

รณกฤต ลิมปิชาติ Test Rider + Photo + Writer

อ่านข่าวสาร BMW เพิ่มเติมได้ที่นี่

เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ

Share.

About Author

error: Content is protected !!