รีวิว Royal Enfield Continental GT 650 และ Interceptor 650 การกลับมาของเครื่อง Twins ในรอบ 50 ปี นี่แหละ RE ที่ต้องการ

0

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทางทีมงาน MotoRival เราได้รับเกียรติจากทาง Royal Enfield ให้เข้าร่วมงานทดสอบ International Press Test Royal Enfield Twins (รีวิว Royal Enfield Continental GT 650 และ Interceptor 650) กันก่อนใคร ซึ่งได้เดินทางมาไกลถึงเมือง Santa Cruz รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐฯ นอกจากการทดสอบแล้ว ยังมีการประกาศราคาอย่างเป็นทางการที่แรกในโลก (คลิ๊กอ่านที่นี่) ออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย

Royal-Enfield-Twin-Thai-Media
สำหรับ Royal Enfield เครื่อง Twins ทั้ง 2 โมเดลนี้ได้ถูกแนะนำครั้งแรกในโลกไปเมื่อ EICMA2017 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการ Come back ครั้งแรกของเครื่อง Twins ของ Royal Enfield ในรอบ 50 ปี เลยทีเดียว เอาเป็นว่าเราขอมาเข้าเรื่องของการ รีวิว Royal Enfield Continental GT 650 และ Interceptor 650 กันเลยดีกว่าครับ

Royal-Enfield-Twins-650_01
เริ่มที่รูปลักษณ์
Royal Enfield Continental GT 650 และ Interceptor 650 ใช้รายละเอียดพื้นฐานเหมือนกัน ได้แก่

Royal-Enfield-Continental-GT-650_12
ไฟหน้าทรงกลมแบบคลาสสิคยุคเก่า ใช้หลอดฮาโลเจน

Royal-Enfield-Continental-GT-650_09
เช่นเดียวกับไฟท้ายทรงเหลี่ยมที่คงดีไซน์อันเก่าแก่ รวมไปถึงไฟเลี้ยวทรงแบบออริจินอล เช่นกัน

Royal-Enfield-Continental-GT-650_15
ฝาถังน้ำมันดีไซน์แบบ Monza พร้อมการเปิดที่ใช้กุญแจไข (ของเดิมเปิดได้เลยโดยไม่ต้องใช้กุญแจ)

Royal-Enfield-Twins-650_10
ตัวแฟรมเป็นเหล็กเช่นเดียวกัน

Royal-Enfield-Continental-GT-650_14
ปลายท่อไอเสียออกคู่ทรง Megaphone พ่นโครมมาตั้งแต่คอท่อดูเงางาม

มาตรวัดทรงกลมถ้วยคู่แบบเข็มอนาล็อกทางด้านซ้ายบอกความเร็วทั้งหน่วย kph และ mph มีตัวเลขดิจิตอล ซึ่งบอกเกจ์น้ำมัน, Odo, Trip A และ B ถ้วยด้านขวาเป็น rpm มีไฟบอกตำแหน่งเกียร์ N

Royal-Enfield-Twins_Switch
ชุดสวิทช์ไฟด้านซ้าย และด้านขวา มีรายละเอียดทั่วๆไป อันได้แก่ ไฟสูง/ต่ำ, ไฟ Pass, แตร, off-run และ ปุ่มสตาร์ท

Royal-Enfield-Continental-GT-650_04Royal Enfield Continental GT 650 มากับสไตล์ Cafe Racer

Royal-Enfield-Continental-GT-650_21
ซึ่งจะมีจุดเด่นที่ แฮนด์ Clip-On จับโช้กใต้แผงคอ

Royal-Enfield-Continental-GT-650_07
เบาะนั่งเดี่ยว พร้อมครอบตูดมดสไตล์ Cafe (แต่มีพักเท้าคนซ้อนติดตั้งมาให้)

Royal-Enfield-Continental-GT-650_06
ถังน้ำมันรูปทรงออกเหลี่ยมๆ แต่อย่างไรก็ดีหากเทียบกับตัวสูบเดี่ยว 535 จะพบว่า มันมีขนาดที่โค้งมนขึ้นกว่าเดิม และมีความสูงของถังจะมากกว่าด้วย (ของเดิม ยาว และเตี้ยกว่า)

Royal-Enfield-Continental-GT-650_01ตำแหน่งพักเท้าร่นไปทางด้านหลังแบบสปอร์ต

Royal-Enfield-Twins-650_02ขณะที่ Royal Enfield Interceptor 650 เป็นสไตล์ Classic Roadster
ใช้แฮนด์บาร์

Royal-Enfield-Interceptor-650_05
เบาะนั่งตอนเดียวแบบยาว

Royal-Enfield-Twins-650_07
ถังน้ำมันโค้งมน และมีขนาดใหญ่กว่า

Royal-Enfield-Twins-650_09
ตำแหน่งพักเท้าจะมาข้างหน้ามากกว่า Continental GT

Royal-Enfield-Continental-GT-650-FR
มิติรถ Continental GT 650
นน. (Kerb) 198 กก.
ระยะฐานล้อ 1,398 มม.
ความสูงเบาะ 793 มม.
ถังน้ำมันจุ 12.5 ลิตร

Royal-Enfield-Interceptor-650_FR
มิติรถ Interceptor 650
นน. (Kerb) 202 กก.
ระยะฐานล้อ 1,400 มม.
ความสูงเบาะ 804 มม.
ถังน้ำมันจุ 13.7 ลิตร

Royal-Enfield-Continental-GT-650_17
ท่านั่ง Continental GT
ตำแหน่งแฮนด์ Clip on ที่องศาไม่งุ้มเข้าหาตัวมากแบบรถสปอร์ต รวมถึงความสูงที่ไม่ได้เตี้ยนัก ทำให้การควบคุมบังคับเลี้ยวดูไม่ยากนัก แต่ซอกหนีบถังจะลำบากมาก ทำให้ขี่เร็วๆ ท่าขี่อาจไม่อำนวยเท่ารถสปอร์ต ขณะที่ถังน้ำมันขนาดยาว อาจทำให้สรีระคนเอเชียต่องเอื้อมมือ และโน้มตัวหน่อย เมื่อขี่ระยะทางยาวทั้งวันจึงมีอาการปวดเมื่อยเป็นธรรมดา ขณะที่พักเท้าแบบ Cafe จะร่นไปข้างหลังมากกว่า ก็อาจทำให้เมื่อยเมื่อขี่ไกลๆ เช่นกัน

Royal-Enfield-Twins-650_06
ท่านั่ง Interceptor 650
หลังจากที่ผู้เขียนได้สลับมาขี่ในวันที่ 2 เจ้า Interceptor นี้ ต้องบอกเลยว่ามันขี่สบายมาก สร้างความประทับใจทั้งในเรื่องของการนั่งตั้งแต่ แฮนด์บาร์ที่ตำแหน่งขี่ควบคุมสะดวกและไม่เมื่อย รวมถึงพักเท้าที่อยู่ในตำแหน่งวางขาปกติ ที่ดูไม่เมื่อย
ทำให้ขี่ทั้งวันยังไหวแบบสบายๆ ไม่เมื่อยล้า
แต่ตัวเบาะสูงกว่าอยู่ประมาณ 11 มม. นั่นจึงรู้สึกได้เลยว่ามันสูงกว่า GT อยู่เล็กน้อย แต่ยังไงผู้ขี่ที่สูง 174 ซม. สวมรองเท้าบูท ก็ยังสามารถ เหยียบพื้นได้เต็มฝ่าเท้าหย่อนเข่าได้อยู่เล็กน้อย

Royal-Enfield-Twins-Engine
เครื่องยนต์ 648cc Parallel Twins ระบายความร้อนด้วยอากาศ มีออยคูล ซึ่งแต่ละลูกสูบมีองศาการจุดระเบิดเยื้องกันอยู่ที่ 270 องศา เหมือนกับ Triumph ตระกูล Bonneville ทั้งบล็อก 900cc และ 1200cc
จึงเรียกได้ว่าให้ซุ่มเสียงที่ออกมาผ่านท่อ Megaphone นี้ มีโทนเสียงที่ใกล้เคียงกันแบบไม่ผิดเพี้ยน แต่เสียงจะเบานุ่มกว่าหน่อย จากความจุกระบอกสูบที่น้อยกว่า
เพิ่มระบบ Slip Assist Clutch ช่วยให้คลัทช์นิ่ม ไม่เมื่อยนิ้ว แถมเข้าเกียร์ง่ายมาก ไม่แข็งจนเจ็บเท้าแบบตัวเก่า

Royal-Enfield-Twins-650_Engine-Graph
มาพูดกันที่ตัวเลขเครื่องบล็อกนี้รีดกำลังแรงม้าสูงสุดออกมาที่ 47 bhp@7,250rpm และแรงบิดที่ 52 Nm@5,250Nm

Royal-Enfield-Continental-GT-650_05
เรื่องแรกที่ต้องพูดก่อนเลย คือการสั่นสะท้านมันหายไปแล้ว จากที่ไม่ประทับใจเลยในสูบเดี่ยว คันนี้สมูทขึ้นมาก มีอาการสั่นแบบรถ 2 สูบทั่วไป ไม่ทำให้รำคาญ ขี่ได้สนุกออกทริปวันละ 200 กม.+ ไม่ปวด หรือชาบริเวณข้อมือแต่อย่างใด ประทับใจมากเรื่องแรก

Royal-Enfield-Interceptor-650_06
แรงบิดช่วงต้น มาเร็วตั้งแต่รอบต่ำจนถึงประมาณ 3,000rpm และไปดึงอีกทีช่วงปลาย 6-7,000rpm ก่อนรอบตัดที่ Redline 7,500rpm
ขณะที่ Top Speed นั้น เราได้เกือบ 170 กม./ชม. ที่รอบประมาณ 6,000 ปลาย คาดว่าน่าจะไปได้ราว 175 กม./ชม. (ขึ้นกับสภาพแวดล้อมในการทดสอบ)

Royal-Enfield-Continental-GT-650_13
ด้านไอร้อน เนื่องจากการบิดที่ California อากาศเย็น ระดับ 12-24 องศาเซลเซียส บางครั้งที่เย็นมากๆ เราก็อยากได้ไอความร้อนของเครื่องยนต์มาทำให้อบอุ่นขึ้น
แต่กลับไม่พบเลย.. ซึ่งถ้าจะต้องขี่ในอากาศบ้านเรานั้นคงขี่ได้สบายๆ ไม่อึดอัดจากไอร้อนแน่นอน

Royal-Enfield-Twins-650_04
อัตราสิ้นเปลือง เราไม่สามารถวัดได้ แต่จากการประเมินด้วยระยะทางที่วิ่ง ราวๆ 100 กม. สเกลน้ำมันพึ่งลด 1 ขีด
ขณะที่การเติมเข้าไปเต็มถังนั้น จากการประเมินด้วยสายตา พบว่า การขี่ระยะทางร่วม 100 กม.+ น่าจะเติมน้ำมันไป 3 ลิตร กว่าๆ ไม่เกิน 4 ลิตร

Royal-Enfield-Continental-GT-650_11
ระบบกันสะเทือน
ด้านหน้าใช้โช้กหัวตั้ง Telescopic เหมือนกัน ขนาดแกน 41 มม. และมีระยะเคลื่อนตัวที่ 110 มม.
ด้านหลัง โช้กค์คู่แบบพร้อม Piggy-Back ปรับ Preload ได้ 5 ระดับ และมีระยะเคลื่อนตัวที่ 88 มม. เหมือนกัน แต่ในตัว Interceptor 650 ช่วง Preload จะสั้นกว่า

Royal-Enfield-Continental-GT-650_03
เราพบว่าการใช้งานทั้ง 2 โมเดล นั้นอาการช่วงล่างไม่แตกต่างกันเลย หากเทียบกับ Continental GT 535 เดิม ที่มีอาการแข็งปั๋ง ตัวนี้ดูผ่อนคลายนั่งสบายขึ้นกว่าเดิมเยอะ ขี่แล้วไม่รู้สึกอึดอัด แม้จะต้องเจอช่วงรอยต่อของถนน หรือ พื้นผิวที่ไม่ราบเรียบนัก

Royal-Enfield-Twins-650_03แต่จุดที่พบ คือ โมเดล Interceptor นั้น กลับ ขี่ควบคุมได้ค่ายกว่า บังคับเลี้ยวได้ง่ายกระฉับกระเฉงกว่าในช่วงโค้งอย่างชัดเจน ซึ่งแตกต่างจากรถยุโรปคลาสสิคแบรนด์อื่นๆ ที่มักจะมีอาการเลี้ยวไม่ค่อยไป ซึ่งใน Royal Enfield Twins ทั้ง 2 รุ่นนี้ สวมยางหน้าขนาด 100/90/R18 และ หลัง 130/70/R18 โดยรวมการเลี้ยวโค้งนั้นไม่ขืน เหมือนพวกใช้ล้อหน้าขนาดใหญ่กว่า แต่เนื่องจากแก้มยางที่ถือว่าค่อนข้างแคบอาจทำให้การเลี้ยวโค้งเทโค้งนั้นอาจทำได้ไม่เยอะเหมือนสไตล์อื่นที่มากับหน้ายางที่กว้างกว่าในพิกัดเดียวกัน

Royal-Enfield-Continental-GT-650_16
ระบบดิสก์เบรกมาพร้อม ABS จาก Bybre ทั้งหน้า-หลัง
จานหน้าขนาด 320 มม. และ ด้านหลัง 240 มม. ใช้ปั๊มเบรก ปั๊มเดียวกับรุ่นเดิม (ด้านหน้าในตัวสูบเดี่ยวตีเป็น Brembo)
แต่ขนาดจานเบรกหน้าใหญ่ขึ้น 20 มม. และเพิ่ม ABS

Royal-Enfield-Interceptor-650_08
โดยรวมใช้งานทั่วไปก็ ถือว่าทำน่าที่ได้พอใช้กับการขี่ทั่วๆไป เพียงพอ
แต่ถ้าขี่เร็ว และเบรกหนักๆยังแอบรู้สึกว่าไม่ดูดติดมือนัก
แต่เบรกหลังรู้สึกทำงานใช้ได้ดีเลย และ ABS ไม่มาแบบฟุ่มเฟือย เหมือนรถญี่ปุ่นหลายๆ ค่าย

Royal-Enfield-Twin-Cover
สรุป รีวิว Royal Enfield Continental GT 650 และ Interceptor 650 (Twins) ที่เราได้มาขี่ก่อนใคร ณ แคลิฟอร์เนีย USA ในครั้งนี้ ยืนยันได้ว่า การกลับมาของเครื่องยนต์ Parallel Twin จะทำให้ Royal Enfield Come back กลับมาให้มีมาตรฐานเทียบเท่ากับรถยุโรปค่ายอื่นๆ ทั้งในด้านของคุณภาพชิ้นงาน รวมไปถึงสมรรถนะของเครื่องยนต์ ที่น่าประทับใจ ลืมภาพแย่ๆ ในโมเดลสูบเดี่ยวไปได้เลย

Royal-Enfield-Continental-GT-650_10แม้ทั้ง 2 โมเดลนี้ จะแตกต่างเพียงรูปลักษณ์ รายละเอียดเพียงเล็กน้อย แต่สิ่งเหล่านี้ ล่ะที่ทำให้ ท่าทางและฟีลล่ิ่งการขี่ที่เปลี่ยนไป

Royal-Enfield-Continental-GT-650
อยากหล่อไป Continental GT พร้อมขี่ซิ่งได้บ้าง

Royal-Enfield-Twins-650_05
ถ้าจะคลาสสิคแบบดั้งเดิม ขี่ Chill Out แบบกินลมชมวิว ก็ต้อง Interceptor 650

Royal-Enfield-Twins-650_10ที่สำคัญเราคงต้องรอการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงต้นปีหน้า คาดว่าในไตรมาสแรกปี 2019 และมารอดูราคากันครับว่าจะน่าสนใจมากเพียงใด
เบื้องต้นผู้เขียนคาดการณ์ว่าน่าจะแพงกว่าราคา USA ประมาณ 5 หมื่นบาท

Royal-Enfield-Twins-650_08
ซึ่ง Royal Enfield Interceptor 650 อาจมีราคาเริ่มช่วง 2.4 แสนบาท

Royal-Enfield-Continental-GT-650_08
ขณะที่ Royal Enfield Continental GT 650 อาจมีราคาเริ่มที่ 2.6 แสนบาท ไว้คงต้องรอดูอัพเดทไปยาวๆ พร้อมๆ กันครับ

Pon-Royal-Enfield-Twinขอขอบคุณ Royal Enfield และ Royal Enfield Thailand สำหรับทริปทดสอบ Its Playtime ที่ เมือง Santa Cruz รัฐ แคลิฟอร์เนีย ในครั้งนี้ด้วยครับ
ภณ เพียรทนงกิจ Test Drive & Photo

อ่านข่าว Royal-Enfield เพิ่มเติมได้ที่นี่

เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ

Share.

About Author

Background EXP in Automotive journalists more than 10 Years Writer & Test Driver @Pantip Garage 2018-Present @9carthai 2015- 2017 @Torque & VIPStyle Magazine 2015 @Autospinn 2012-2015 @GTmania.tv 2009-2010

error: Content is protected !!