จากเหตุการณ์อันหน้าเศร้าในการแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ระดับโลก ที่ในปีนี้มีนักบิดรุ่นใหม่ต้องเสียชีวติจากอุบัติเหตุระหว่างแข่งขันไปถึง 3 ราย ได้แก่ Jason Dupasquier (MotoGP : Moto3) เมื่อเดือนพฤษภาคม, Hugo Millan (European Talent Cup) เมื่อเดือนกรกฏาคม, และล่าสุด Dean Berta Vinales (WSBK : WSSP300) เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน ทำให้หลายคนต่างมองว่าทางคณะกรรมการควรคิดหาทางออกที่ลดความเสี่ยงของนักบิดในระหว่างแข่งขันให้น้อยลงไปมากกว่านี้อีกหรทอไม่ ? โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Valentino Rossi ที่มีประสบการณ์ในการแข่งขันระดับโลกมานาน และมองว่านักบิดรุ่นใหม่ๆ ขี่รถอันตรายเกินไป แถมยังไม่เคารพในเรื่องความปลอดภัยของเพื่อนร่วมอาชีพอีกด้วย
“สิ่งที่เกิดขึ้นในเฆเรซคือภัยพิบัติครั้งใหญ่, แล่มันก็เกิดขึ้นมาแล้วสามครั้งในปีนี้กับนักบิดที่เด็กมากๆ(ที่ต้องเสียชีวิตไป)” Rossi กล่าว “เราทำอะไรได้บ้าง ? ผมคิดว่าปัญหาคือสิ่งที่อันตรายที่สุดในกีฬาของเราคือตอนที่นักบิดล้มแล้วมีนักบิดตามหลังพวกเค้ามา(อย่างกระชั้นชิด)”
“สถานการณ์นี้ในการแข่งขัน (รุ่น Supersport 300/Moto3) มันอันตรายมาก, เพราะคุณมีนักแข่งเข้าร่วมเยอะ มากกว่าสี่สิบสองคัน, และทุกคนก็อยู่ใกล้กันมาก”, “ดังนั้นความเสี่ยงที่การชนแบบนี้จะเกิดขึ้นนั้นย่อมสูงมาก”, “สีงที่เราสามารถทำได้, อย่างแรกสุดคือต้องผลักดันให้นักบิดที่ตามมาด้านหลังเคารพกติกาธงเหลืองจริงๆ”, “ผมไม่รู้ว่าความหนักหน่วงของการชนกันที่เฆเรซมันมากแค่ไหน, แต่ที่ผมมั่นใจคือ ปกติแล้วพอนักบิดเห็นธงเหลืองพวกเค้าก็มักจะพยายามทำให้ตนเองเสียจังหวะน้อยที่สุดเท่าที่ได้” (ยังขี่เร็วเหมือนเดิม แต่แค่ไม่แซงคันข้างหน้า)
“แต่บางทีนี่อาจเป็นทางเดี่ยวที่จะช่วยให้มันดีขึ้น, และรวมถึง ในปีนี้กับนักบิดทุกคน, และกับนักบิดรุ่นใหม่ที่ขี่กันดุมากๆๆๆๆ, และเมื่อคุณได้ลองติดตามการแข่งขัน คุณก็จะเห็นว่ามันค่อนข้างน่ากลัว เพราะทุกคนต่างก็ใส่กันเกินขีดจำกัดและพวกเค้าไม่เคยคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้น(ถ้าพลาด)”, “สำหรับผม ทุกคนควรจำเอาไว้ว่า การแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์น่ะ มันอันตราย”
นอกจากนี้ทางสื่อต้นทาง Motorsport.com ยังมีการสอบถามความเห็นกับ Valentino Rossi เพิ่มอีกว่า หากเขามองว่าการที่นักบิดรุ่นใหม่มักขี่กันอย่างดุดัน และใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยระหว่างการแข่งขันไม่มากพอ ถ้าเช่นนั้นทำไมไม่ให้คณะกรรมการเพิ่มกรอบอายุของนักบิดรุ่นเล็กให้สูงขึ้นแทน ? ซึ่งทาง VR46 ก็มองว่า นั่นอาจไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ช่วยอะไรได้มากนัก
“(การเพิ่มกรอบอายุให้สูงขึ้น) อาจจะ (เป็นทางออก), แต่มันก็ยากอยู่ดี เพราะต่อให้คุณขยับกรอบอายุนักบิดขึ้นอีกสัก หนึ่งปี หรือ สองปี, มันก็อาจจะช่วยได้ แต่มันก็ไม่ได้สร้างความแตกต่างได้มากนัก”, “แต่บางทีสำหรับคนที่ควบคุมการแข่งขัน, โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการแข่งขันรุ่นเล็กที่มีนักบิดเด็กมากๆ, พวกเค้า(กรรมการ) จะต้องเข้มงวด(ในกติกา)มากขึ้น และต้องปฏิบัติต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสนามอย่างแม่นยำ(รวดเร็ว)”
“และถ้าหากนักบิดบางคนทำบางสิ่งที่อันตราย, พวกเค้าต้องกล้ามากขึ้นที่จะทำโทษ, บางที่นี่อาจเป็นทางออก”, “ผมคิดว่ากีฬา(แข่งรถ)ของเรานั้นคือสิ่งมหัศจรรย์, เราทุกคนรักในกีฬาชนิดนี้, แต่คุณจำเป็นต้องทำทุกอย่างด้วยความเคารพ(ในเรื่องความปลอดภัย)กับนักบิดคนอื่นๆ เพราะแน่นอนทุกคนก็ต่างอยากจะขึ้นไปอยู่ในแถวหน้า”
“มันยังมียางสิ่งที่สำคัญกว่าการแซงขึ้นไปให้ได้สักสองอันดับ นั่นคือความปลอดภัยของตัวคุณเองและคูแข่งของคุณ, และผมคิดว่านี่คือข้อความที่ต้องชัดเจนขึ้นกว่านี้ในอนาคต(กับนักบิดรุ่นใหม่)”
อ่านข่าว MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่
