“การทดสเตอร์” ถือเป็นแนวคิดการปรับแต่งรถอย่างหนึ่งที่ “นักแต่งรถมือใหม่” โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับในหมู่ผู้ใช้รถเล็ก มักคิดอยากจะทำกับรถของตนเองเป็นอันดับแรกๆ เนื่องจากวิธีการนี้ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับเครื่องยนต์ หรือระบบไฟให้ตุ้มๆต่อมๆใจเล่นว่ารถจะมีปัญหาตามมาในภายหลังหรือไม่แต่อย่างใด เพราะสิ่งที่ต้องทำก็มีเพียงแค่เปลี่ยนโซ่ กับเบอร์หน้า/หลังสเตอร์ไปมา แล้วถ้าไม่ได้ความเร่งหรือความเร็วดังใจก็แค่ถอดเปลี่ยนใหม่ง่ายๆเท่านั้น
แต่สิ่งที่ค่อนข้างปวดหัวหรืองงงวยกันอย่างมากในช่วงแรกก็คือ แล้วต้องทดสเตอร์ยังไงล่ะถึงจะได้ความเร่งหรือความเร็วดังใจที่ตั้งใจไว้ ? ซึ่งเราก็จะบอกวิธีคิดง่ายๆดังนี้ครับ
เพิ่มสเตอร์หน้า หรือ ลดสเตอร์หลัง = ลดอัตราทดลง ส่งผลให้ความเร็วปลายที่รอบสูงสุดจะมากขึ้น แต่อัตราเร่งจะจัดน้อยลง
ลดสเตอร์หน้า หรือ เพิ่มสเตอร์หลัง = เพิ่มอัตราทดขึ้น ส่งผลให้อัตราเร่งจัดขึ้น แต่ความเร็วปลายที่รอบสูงสุดจะน้อยลง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การเพิ่ม หรือ ลด สเตอร์หน้า 1 ฟัน จะมีค่าเทียบเท่ากับการเพิ่ม หรือ ลด สเตอร์หลัง ประมาณ 3 ฟัน
กล่าวคือ เพราะการขยับสเตอร์หน้าขึ้น/ลง 1 ฟัน บนสเตอร์หลังเดิม มักให้อัตราทดขั้นสุดท้ายตอนคำนวนออกมา (จำนวนฟันสเตอร์หลัง หารด้วย จำนวนฟันสเตอร์หน้า) ใกล้เคียงกับ อัตราทดขั้นสุดท้ายของการขยับสเตอร์หลัง ขึ้้น/ลง 3 ฟัน บนสเตอร์หน้าเท่าเดิม
แล้วเราควรจะเพิ่มหรือลดสเตอร์ดีล่ะ ? งานนี้เพื่อนๆต้องถามตนเองก่อนครับ ว่าต้องการเพิ่ม หรือลดสิ่งไหน ของตัวรถ ระหว่างเพิ่มอัตราเร่ง หรือ เพิ่มความเร็วปลาย กันแน่ ?
เพราะถ้าหากในการเดินทางไปทำงานแต่ละครั้ง เพื่อนๆจะต้องขี่ตัวรถด้วยความเร็วสูงจนส่งผลให้เครื่องยนต์ต้องปั่นรอบจัดต่อเนื่องนานมากๆในการเดินทาง หรือถนนไปทำงานเป็นเส้นถนนโล่งๆ เป็นทางตรงยาวๆ การลดฟันสเตอร์หลังลง หรือ เพิ่มฟันสเตอร์หน้าขึ้น จะเป็นตัวเลือกที่ช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ได้ เนื่องจากเมื่ออัตราทดต่ำลง ที่ความเร็วสูงสุดเท่ากัน รอบเครื่องยนต์จะใช้น้อยกว่าอัตราทดเดิม ช่วยลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ได้ประมาณหนึ่ง
ไม่เพียงเท่านั้น ถ้าเครื่องยนต์มีแรงเหลือหรือปั่นไหว ความเร็วสูงสุดที่ได้ก็อาจจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากตัวรถยังมีรอบให้ไล่ความเร็วต่อ แต่ถ้าหากเราลดอัตราทดเยอะเกินไปจนเครื่องปั่นไม่ไหว แทนที่จะได้ความเร็วปลายให้ไหลเพิ่ม จะกลับกลายเป็นว่าเครื่องตื้อ บิดไม่ไป ไหลไม่ขึ้นจนความเร็วสูงสุดลดลงแทน
ในขณะเดียวกัน ถ้าหากการเดินทางในขีวิตประจำวันของเพื่อนๆ ต้องขึ้นทางชันตลอดเวลา, ต้องแบกของเยอะ, ใช้บุกป่าฝ่าดง, หรือใช้แค่ซอกแซกการจราจรติดๆในเมือง จึงต้องการเน้นอัตราเร่งที่ติดมือ การเพิ่มฟันสเตอร์หลังขึ้น หรือ ลดฟันสเตอร์หน้าลง จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับการแก้ไขปัญหาตรงนี้มากกว่า เนื่องจากเมื่ออัตราทดสูงขึ้น ที่ตัวเครื่องยนต์จะสามารถส่งแรงบิดมาปั่นล้อหลังได้เต็มที่มากกว่า
แต่แน่นอนว่าในเมื่อเราเพิ่มอัตราทดขั้นสุดท้ายให้สูงขึ้น ความเร็วของรถที่รอบสูงสุดก็จะต้องลดลงตาม ซึ่งก็ต้องทำใจ เว้นเสียแต่ว่าตัวรถเดิมๆที่เพื่อนๆใช้อยู่นั้น เซ็ทอัตราทดเกียร์สุดท้ายมาแบบประหยัดรอบ ที่มักจะเกิดขึ้นในรถมอเตอร์ไซค์ประเภททัวร์ริ่ง หรือกลุ่ม 300cc-650cc ที่พอขี่ๆไปจนถึงเกียร์ 6 แล้วรอบไม่ไหลต่อ การเพิ่มอัตราทดก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์เหล่านี้ได้ความเร็วสูงสุดที่เพิ่มขึ้นแทน
อย่างไรก็ดี ทางเราไม่แนะนำให้เพื่อนๆไปลอกสูตรสำเร็จของใครมาใช้กับรถของตนเอง เพราะแต่ละคนมีปัจจัยที่ส่งผลถึงตัวรถไม่เหมือนกัน ดังนั้นควรเช็คให้ดีก่อนว่าลักษณะการใช้งานของเราเหมือนกันกับผู้ให้สูตรนั้นรึเปล่า ทั้งในเรื่อง น้ำหนักตัวของเรา, น้ำหนักของสัมภาระที่ต้องแบก, ลักษณะเส้นทาง เป็นต้น
และเพื่อให้การคำนวนมีความละเอียดมากขึ้น เราจึงขอแนบลิ้งค์เว็บไซต์ www.gearingcommander.com ที่ทำขึ้นมาเพื่อเปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถคิดคำนวนอัตราทดของรถตนเองได้ ว่าเพิ่ม/ลดสเตอร์ไปแล้ว (รวมถึงขนาดยางที่เปลี่ยนไป) จะส่งผลถึงความเร็วสูงสุด ประผันต่อเนื่องไปถึงรอบเครื่องยนต์อย่างไรบ้าง โดยค่าต่างๆที่ในเว็บไซต์นี้มี จะเป็นค่าเฉพาะของรถแต่ละคันค่อนข้างจะครบรุ่น ซึ่งถือว่าดีมากๆเลยทีเดียว ยังไงก็ลองกดเล่นดูนะครับ เข้าใจได้ไม่ยากเลย
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก MotoGP
อ่าน Tips Trick เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ