สำหรับคนที่ชื่นชอบรถมอเตอร์ไซค์ ทุกคนก็น่าจะมีความฝัน ที่จะได้ครอบครองรถมอเตอร์ไซค์ตัวพันกันสักครั้งในชีวิต เพราะมันถูกมองว่าเป็นรถที่เป็นที่สุด ทั้งในด้านความแรง และเทคโนโลยี ไม่ว่ารถเหล่านั้นจะเป็นเป็นรถสปอร์ตหรือรถแนวไหนก็ตาม แต่ทุกคนเคยสังเกตกันไหมว่าทำไมรถ Superbike ตัวสุดในสมัยก่อนถึงใช้เครื่องยนต์ 750 ซีซี แล้วทำไมตอนนี้พวกมันถึงหายไป?

ก่อนอื่นเราก็ต้องย้อนไปดูที่มาที่ไปของรถสปอร์ตสายสนาม หรือ Superbike กันก่อนว่ามีที่มาจากไหน จุดเริ่มต้นตำนานความเท่ และความแพร่หลายของรถซุปเปอร์ไบค์นั้นต้องย้อนกลับไปในปี 1988 ซึ่งเป็นปีแรกที่การแข่งขัน FIM Superbike World Championship หรือ WSBK ถูกจัดขึ้น

ซึ่งเป็นการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบระดับโลก ที่จะมีการแข่งขันคล้ายกับ MotoGP หรือ WorldGP ในยุคนั้น แต่เปลี่ยนจากการใช้รถต้นแบบที่ทำขึ้นสำหรับการแข่งในสนามโดยเฉพาะ เปลี่ยนมาเป็นการใช้รถที่มีจำหน่ายสำหรับคนทั่วไป และสามารถใช้งานได้จริงบนถนน ซึ่งทางผู้จัดได้กำหนดสเปคเครื่องยนต์ที่สามารถใช้ลงแข่งได้ดังนี้
- 2 สูบ ปริมาตรกระบอกสูบไม่เกิน 1,000 ซีซี
- 3 สูบ ปริมาตรกระบอกสูบไม่เกิน 900 ซีซี
- 4 สูบ ปริมาตรกระบอกสูบไม่เกิน 750 ซีซี

แน่นอนว่าเพื่อความได้เปรียบสูงสุด ค่ายรถก็คงจะไม่เอารถที่อยู่แล้วไปลงแข่ง พวกเขาจึงเลือกที่จะสร้างรถถนนที่เหมาะสมการการใช้งานในสนามมากที่สุด และรีดทุกความได้เปรียบจากกติกาดังกล่าว นั่นทำให้เราได้เห็นรถอย่าง Honda VFR750R, Yamaha YZF750R, Suzuki GSX-R750R, Kawasaki ZX-7RR ที่มาพร้อมเครื่องยนต์แบบ 4 สูบ นอกจากนี้ก็ยังมี Ducati 918 และ Aprilia RSV1000R ที่ใช้เครื่องยนต์ 2 สูบ จนกลายเป็นตำนานในแบบที่พวกเรารู้จักกัน

แต่ในช่วงปี 1990-2000 Ducati 999 ที่ใช้เครื่องยนต์ลูกใหญ่แบบ V-Twin สร้างความได้เปรียบในสนามแข่งเหนือรถเครื่องเล็กสูบเยอะ ทำให้หลายค่ายเปลี่ยนมาทำรถสูบน้อยลูกโตกันบ้าง ยกตัวอย่างเช่น Honda VTR1000 หรือ Suzuki TL1000R จะบอกว่ารถ Superbike 750 ซีซี เริ่มเสื่อมความนิยมในสนามในช่วงนี้ก็คงไม่ผิดนัก

จนในปี 2003 ตะปูตอกฝาโลงก็ได้ถูกตีลงมา เมื่อทางผู้จัดก็ได้เปลี่ยนกติกาให้รถทุกรุ่น และทุกรูปแบบเครื่องยนต์สามารถใช้ความจุเท่ากันที่ 1,000 ซีซี ส่งผลให้ค่ายรถไม่จะเป็นที่จะต้องทำรถเครื่อง 750 ซีซี อีกต่อไป เราจึงได้เห็นรถที่เราคุ้นเคยอย่าง Honda CBR1000RR, Yamaha YZF-R1, Suzuki GSX-R1000, Kawasaki ZX-10R ถือเป็นจุดสิ้นสุดของรถในตำนานลงในที่สุด
และถ้าเรามาดูในฝั่งของรถถนน ก็จะเห็นได้ว่ารถถนนจำนวนมากในยุคนั้นที่ถูกนับว่าเป็นรถคลาสใหญ่ ก็มักจะมีความจุเครื่องยนต์อยู่ที่ 750 ซีซี เหมือนกัน ส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากภาพลักษณ์ของการเป็นรถคลาสสูงสุดในสนาม แต่เมื่อรถคลาสนี้เปลี่ยนมาใช้เครื่อง 1,000 ซีซี คนในยุคนี้จึงมองว่ารถใหญ่ของจริง จะต้องเป็นรถตัว 1,000
อ่าน Bike History เพิ่มเติมได้ที่นี่