โอกาส ช้างฯ เซอร์กิต เสี่ยงหลุด MotoGP หลังจบปี 2020 มีมากแค่ไหน ?

จากความเคลื่อนไหวก่อนหน้าที่ว่าทาง Dorna ได้ประกาศยืนยันให้ทางอินโดนีเซีย เป็นเจ้าภาพการแข่ง MotoGP ในปี 2021 ซึ่งปีที่แดนอิเหนาได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของปฏิทินการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลกที่ว่านี้นั้น ดันมาต่อจากปีที่ทางสนาม ช้างฯ เซอร์กิต ของเราหมดสัญญา กับทางผู้จัดพอดี (ฉบับที่ถือสิทธิ์อยู่ในปัจจุบันหมดสัญญาปี 2020) และนั่นจึงทำให้เริ่มเกิดความเป็นไปได้ที่ว่า หรือเราอาจจะไม่ได้ไปต่อแล้วการแข่งขันนี้

KymiRing Finland

โดยหากมองในเบื้องต้น ก็คงต้องเรียนตามตรงว่ามีโอกาสที่จะเป็นเช่นนั้นอยู่ไม่มากก็น้อย เพราะว่า จากข้อมูลที่เราได้รับมา ก็เป็นที่ทราบกันดีว่า ทาง Dorna มีแผนที่จะบรรจุสนามต่อ 1 ฤดูกาลแข่งขันไว้ที่ไม่เกิน 20 สนามในอนาคต จากตอนนี้ที่มีอยู่ 19 สนาม ซึ่งสำหรับสนามลำดับที่ 20 ที่ว่านั้นดูเหมือนจะเป็น คิมิริง ของประเทศฟินแลนด์ ที่มีแนวโน้มค่อนข้างจะ 100% ว่านี่คือสนามที่จะถูกบรรจุเข้ามาในปฏิทินการแข่งขัน MotoGP ปี 2020

Lombok Street Circuit

ฉะนั้นแล้ว ด้วยการเซ็นสัญญาของสนาม ณ เกาะลอมบ็อก ประเทศอินโดนีเซีย ที่ระบุไว้ว่าจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ MotoGP ในปี 2021 ก็เท่ากับว่าต้องมีสนามใดสนามหนึ่งที่หมดสัญญาการกับทาง Dorna หลังปี 2020 จะไม่ได้ไปต่อ เนื่องจากสนาม Street-Circuit ของแดนอิเหนาได้เข้ามาแทนโควต้าแล้วเรียบร้อย

และหากถามว่ามีสนามใดบ้างที่กำลังจะหมดสัญญากับทาง Dorna ในปี 2020 เท่าที่เราทราบข้อมูลในขณะนี้ ก็มีอยู่ทั้งหมด 3 สนามด้วยกัน ได้แก่ เบอร์โน่ – สาธารณรัฐเช็ก, ซิลเวอร์สโตน – อังกฤษ และ ช้างฯ เซอร์กิต บุรีรัมย์ – ประเทศไทย ของเรานั่นเอง จึงหมายความว่าหากทางภาครัฐของไทย ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในการตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ เลือกที่จะยื่นต่อสัญญาสนาม ช้างฯ เซอร์กิต บุรีรัมย์ กับ Dorna พวกเขาก็จะต้องยื่นข้อเสนอสู้กับ ประเทศอังกฤษ และสาธารณรัฐเช็ก เพื่อแย่งสิทธิ์สัญญา MotoGP ในปี 2021 เป็นต้นไปมาให้ได้

ทีนี้ ถ้าหากถามต่อว่าในตัวเลือกทั้ง 3 สนามที่ไล่มาตอนนี้ มีสนามใดบ้างที่มีแนวโน้มว่าทาง Dorna จะเลือกต่อสัญญา เราก็คงต้องไล่เรียงกันตามนี้

– เบอร์โน่ สาธารณรัฐเช็ก : เป็นสนามในยุโรป ที่มีสัญญากับ Dorna ต่อเนื่องมานานร่วมๆ 50 ปี แถมยังมียอดคนดูรวม 3 วันในปีล่าสุดอยู่ที่ 187,348 คน โดยสนามแห่งนี้ถือเป็นอีกแห่งที่มีผู้ติดตาม MotoGP ชมเป็นอันดับต้นๆ หรือถ้าหากพูดถึงเกมการแข่งขัน เราก็จะเห็นได้ว่าสนามแห่งนี้ เป็นสนามที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชมตลอด ดังนั้น สนามแห่งนี้จึงมีโอกาสสูงมากที่จะได้ไปต่อ

– ซิลเวอร์สโตน อังกฤษ : ถือเป็นอีกสนามคลาสสิคในยุโรปเช่นกัน แต่จากปัญหาในปีล่าสุดที่มีทั้ง ผิวแทร็คเสื่อมสภาพไวจนมีแต่หลุมแอ่งทั้งๆที่เพิ่งปรับใหม่ไปเมื่อต้นปี 2018 และที่หนักกว่านั้นคือการที่ตัวแทร็คไม่สามารถระบายน้ำขังเนื่องจากฝนตกหนักได้จนต้องยุติการแข่งขันไปในที่สุด ไม่เพียงเท่านั้น หากลองเช็ครายละเอียดกันดีๆ ดูเหมือนว่าสนามแห่งนี้จะไม่ขอต่อสัญญาต่อหลังจบปี 2020 เนื่องจากเหตุผลทางธุรกิจ

อย่างไรก็ดี หากทางซิลเวอร์สโตนไม่ได้ต่อสัญญากับ Dorna จริง ทางรัฐบาลอังกฤษก็ต้องไม่นิ่งนอนใจแน่ๆ เพราะถึงอย่างไรก็ตามในประเทศแห่งนี้ก็ถือเป็นที่ๆมีผู้ติดตามมอเตอร์สปอร์ตเยอะอยู่เช่นกัน ดังนั้นพวกเขาจึงอาจจะดันสนามโดนิงตันพาร์ค ที่ตอนนี้ใช้แข่งในรายการ WSBK เข้ามาเสียบโควต้าของ ซิลเวอร์สโตนแทน และแน่นอนว่าเราก็ยังนิ่งนอนใจไม่ได้อยู่ดี

– ช้างฯ เซอร์กิต บุรีรัมย์ ไทย : สนามน้องใหม่ล่าสุดของบ้านเรา ที่ในตอนแรกมีนักแข่งบ่นว่าน่าเบื่อ แต่สุดท้ายพอแข่งจริงกลับมีจังหวะให้สวนแลกกันตลอด แถมตัวเลขคนดูทั้ง 3 วันของสัปดาห์การแข่งขันในปีแรกก็ยังทำสถิติตัวเลขสูงสุดจากสนามทั้งหมด 19 สนาม ซึ่งนี่ถือเป็นสิ่งที่ล่อตาล่อใจทาง Dorna อย่างมาก

ติดแค่ตรงที่เพื่อนๆหลายคนคงทราบกันดีว่า ในการขอสปอนเซอร์ของสนามบ้านเราเพื่อซื้อลิขสิทธิ์จัดแข่ง MotoGP นั้น มีความไม่แน่นอนเท่าไหร่นัก แถมสิทธิตรงนี้ยังขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะเดินเรื่องหรือไม่ ซึ่งเมื่อดูจากสถานการณ์บ้านเมืองเราตอนนี้ มีโอกาสสูงมากที่ภาครัฐคงไม่ได้เดินเรื่องกับทาง Dorna ในเร็ววันอย่างที่คาดหวังไว้ และสุดท้ายอาจจะชวดโควต้า เนื่องจากทางประเทศอังกฤษสามารถเอาสนามโดนิงตันพาร์คเสียบแทนซิลเวอรสโตนได้ในที่สุด

นั่นจึงเท่ากับว่า แม้สนามช้างฯ ของเราจะมีสถิติที่สวยงามแค่ไหนในการแข่งขัน MotoGP 2018 ครั้งที่ผ่านมา แต่หากภาครัฐไม่รีบดำเนินเรื่องต่อสัญญากับทาง Dorna อย่างน้อยก็ภายในสิ้นปีนี้ (หลังเห็นแนวโน้มการแข่งในปี 2019 ว่าเป็นทางบวกหรือทางลบ) สนามช้างฯ ก็มีโอกาสที่จะหลุดจากการแข่งขัน MotoGP หลังจบปี 2020