ไม่ใช่เรื่องปกติเท่าไรที่เราจะได้เห็นนักแข่งในเวทีระดับโลกอย่าง World Superbike หรือ MotoGP ทำการย้ายเวทีการแข่งขันสลับฝั่งกัน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากพื้นฐานของตัวรถที่แตกต่างกันมาก ไม่ต่างจากการย้างฝั่งจากเวทีรถยนต์ซุปเปอร์คาร์ไปสู่ Formula 1 วันนี้เราเลยจะพามาดูกันว่ามีใครบ้าง แล้วผลงานแต่ละคนเป็นอย่างไร

1. Noriyuki Haga ย้ายจากทีม Yamaha WSBK Team ไปสู่ทีม Yamaha WCM ในปี 2001
ตำนานนักแข่ง World Superbike ชาวญี่ปุ่นที่อยู่คู่วงการมาอย่างยาวนาน สามารถคว้าชัยชนะมาได้นับครั้งไม่ถ้วน และถึงจะไม่เคยคว้าแชมป์โลก แต่ก็สามารถจบฤดูกาลในอันดับที่ 2 และ 3 มาได้อีกหลายครั้ง เขามีโอกาสไปลองของใน WorldGP 500 ในปี 1998 ในฐานนะ Wildcard แถมยังสามารถจบบนโพเดียมได้อีก การย้ายไปแข่งแบบเต็มเวลาการขึ้นในปี 2001 และปี 2003 ซึ่งทำผลงานไม่ดีเท่าไร ทำให้ต้องกลับมาแข่งต่อในบ้านเก่าของตัวเอง

2. Troy Bayliss ย้ายจากทีม Ducati Superbike Team ไปสู่ทีม Ducati Malboro ในปี 2003
อีกหนึ่งตำนานฝั่ง World Superbike ที่เป็นถึงแชมป์โลก 3 สมัย ได้มีโอกาสย้ายไปขับให้ทั้ง Ducati และ Honda ในเวทีรถสูตร ซึ่งผลงานก็ถือไม่ขี้เหร่ เพราะสามารถขึ้นโพเดียมได้ถึง 4 ครั้ง ก่อนที่จะย้ายกลับบ้านหลังเดิม แต่ความน่าทึ่งคือในปี 2006 ที่เขาสามารถคว้าแชมป์โลก WSBK มาได้ Bayliss ก็ได้รับสิทธิ์ Wildcard ไปแข่งใน MotoGP สนามสุดท้ายของฤดูกาล แต่ครั้งนี้เข้าสามารถแย่งแชมป์สนามมาจากนักแข่งเจ้าถิ่นได้อย่างน่าทึ่ง

3. Colin Edwards ย้ายจากทีม Castrol Honda ไปสู่ทีม Aprilia Racing ในปี 2003
หลังจากคว้าแชมป์โลกในเวทีรถตลาดมาได้ 2 สมัย แถมยังขึ้นโพเดียม 25 ครั้ง จาก 26 เรซ ในฤดูกาลสุดท้าย เราก็ได้เห็นการย้ายทีมของ Colin Edwards ที่เกิดขึ้นปีเดียวกับ Troy Bayliss แต่สิ่งที่แปลกคือนอกจากจะข้ามเวทีแล้ว เขายังข้ามค่ายรถอีกด้วย อีกสิ่งที่นักแข่งข้ามฟากคนอื่นทำไม่ได้คือการอยู่ยาว เพราะเขาแข่งอยู่ใน MotoGP ตั้งแต่ปี 2003 – 2014 พร้อมขึ้นโพเดียมอีกหลายครั้งร่วมกับ Yamaha และ Honda

4. Neil Hodgson ย้ายจากทีม Ducati Superbike Team ไปสู่ทีม Ducati Malboro ในปี 2004
ถือเป็นนักแข่งอีกคนที่เปลี่ยนเวทีไปมาหลายรอบ เดิมที่ต้องบอกว่าเขาคือนักแข่งที่โตมากับรายการ Grand Prix และได้ขึ้นมาแข่งใน WorldGP 500 แบบเต็มเวลาร่วมกับ Yamaha ในปี 1995 แต่ด้วยผลงานที่ไม่ดี ทำให้ต้องย้ายบ้านไปสู่ World Superbike ก่อนที่จะสู้จนขึ้นมาเป็นแชมป์โลกได้สำเร็จ และมีโอกาสกลับบ้านฝั่งรถสูตรอีกครั้งในปี 2004 แต่ก็แข่งได้แค่ปีเดียวเพราะผลงานที่ไม่ดีนัก

5. Ruben Xaus ย้ายจากทีม Ducati Superbike Team ไปสู่ทีม D’Antin Ducati ในปี 2004
รองแชมป์โลก World Superbike และนักแข่งอีกคนจากค่ายแดง ที่มีโอกาสย้ายบ้านกับเขาบ้าง เขาได้แข่งให้กับทีมอิสระของทั้ง Ducati และ Yamaha ใน MotoGP ผลงานที่ดีที่สุดคือการติดโพเดียม 1 ครั้ง ก่อนที่ในปี 2006 จะกลับมาสู่บ้านหลังเดิม ร่วมกับค่ายรถรายเดิม แต่เป็นในฐานะนักแข่งทีมรอง

6. Chris Vermeulen ย้ายจากทีม Honda Ten Kate ไปสู่ทีม Camel Honda ในปี 2006
รองแชมป์โลก World Superbike อีกเช่นกัน ที่ก่อนหน้านี้ในปี 2005 เขาได้ไปลองแข่งใน MotoGP มาแล้วบ้างนิดหน่อย ก่อนที่จะลงเต็มตัวในปี 2006 ผลงานที่ดีที่สุดคือการเป็นแชมป์สนามร่วมกับทีมโรงงาน Suzuki

7. Ben Spies ย้ายจากทีม Yamaha WSBK Team ไปสู่ทีม Yamaha Texh3 ในปี 2010
ถือเป็นอีกหนึ่งคนที่ย้ายเวทีไปมาหลายรอบ เริ่มจากการเป็นแชมป์รายการ AMA Superbike เขามีโอกาสไปรับจ็อบเป็นบางสนามให้กับทั้ง Yamaha และ Suzuki ใน MotoGP ก่อนที่จะขึ้นมาสู่ World Superbike แบบเต็มตัวในปี 2009 และคว้ามแชมป์โลกในฤดูกาลนั้นไปในทันที ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาถูกตึงไปฝั่งรถสูตรในทันทีเช่นกัน ผลงานที่ดีที่สุดคือการเป็นแชมป์สนาม 1 ครั้ง

8. Cal Crutchlow ย้ายจากทีม Yamaha WSBK Team ไปสู่ทีม Yamaha Tech3 ในปี 2011
นักแข่งคนนี้เติบโตมาจากรายการประจำถิ่นอย่าง British Superbike ก่อนที่จะขยับขึ้นมาสู่ทีมโรงงานใน World Superbike ได้อย่างรวดเร็ว จบฤดูกาลแรกในอันดับที่ 5 แต่เขาก็แข่งอยู่ที่นั่นได้เพียงแค่ปีเดียว ก่อนที่ถูกดึงมาสู่ MotoGP ผลงานที่ดีที่สุดคือการคว้าแชมป์สนามร่วมกับ LCR Honda มาได้ 3 ครั้ง

9. Toprak Razgatlioglu ย้ายจากทีม BMW Motorrad ไปสู่ทีม Pramac Yamaha ในปี 2026
ถือว่าเป็นนักแข่งคนล่าสุดจากเวทีโปรดักชั่น ที่ทำการย้ายบ้านไปตามความฝัน และหาความท้าทายใหม่ในเวทีของรถสูตร ซึ่งผลงานในบ้านหลังปัจจุบันของตัวเองก็ถือเป็นที่ประจัก เพราะสามารถคว้าแชมป์โลกได้กับทั้ง Yamaha และ BMW ต้องมาดูกันว่าย้ายรายการแข่งผลงานของเขาจะเป็นอย่างไร
ที่มา wsbk
อ่านข่าวสาร WSBK เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าวสาร MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่