รีวิว Honda CT125 สัมผัสแรกแม่บ้านขาลุยตัวใหม่ ขวัญใจคนมีไลฟ์สไตล์เฉพาะตัว !

เรียกได้ว่ามีกระแสตอบรับค่อนข้างดีเลยทีเดียวสำหรับการเปิดตัวของ Honda CT125 ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ และหลังจากนั้นไม่นานนัก ทางทีมงาน MotoRival เราก็ได้รับเชิญจากทาง A.P.Honda ให้เข้าร่วมทดสอบรถแม่บ้านขาลุยตัวใหม่คันนี้เป็นครั้งแรกด้วย ซึ่งสัมผัสแรก รีวิว Honda CT125 จะเป็นอย่างไรบ้าง? เรามาว่ากันเลยครับ

สำหรับ CT125 – The Hunter CUB นั้น ก็จะมีจุดเด่นหลักๆอยู่ที่ มันถูกพัฒนาต่อยอดมาจาก C125 ที่เราเห็นมาแล้วพักใหญ่ แต่ชุดเฟรมเฟรม ที่เป็นแบบแบคโบน จะถูกปรับใหม่เพื่อให้เจ้า CT125 สามารถใช้งานแบบสมบุกสมบันได้อย่างทนทานมากขึ้น ทั้งด้วยการเสริมจุดยึดและจุดดามต่างๆเข้าไป

นอกนั้นในเรื่องเส้นสายรอบคัน ก็จะเป็นงานออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจและรักษาเอกลักษณ์จากพี่ๆตระกูล Trail CUB ที่ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 1960 เป็นต้นมาได้อย่างครบถ้วน เช่น ระบบไฟส่องสว่างเป็นแบบโคมกลม LED ด้านหน้าซึ่งดูเหมือนว่าจะยกมาจากเบ้าหล่อเดียวกันกับ Monkey 125

ขณะที่ไฟเลี้ยวก็จะเป็นโคมเหลี่ยมหลอด LED หน้าหลัง เช่นเดียวกันกับไฟท้ายที่ใช้โคมลักษณะเดียวกัน

แน่นอนว่าในฝั่งมาตรวัดเองก็ยกกรอบเบ้ามาจาก Monkey 125 เช่นกัน เพียงแต่จะไม่มีอินเตอร์เฟซ “ลิงกระพริบตา” มาให้ตอนบิดกุญแจเตรียมสตาร์ทรถก็เท่านั้น ซึ่งจากตรงนี้เพื่อนๆก็จะเห็นด้วยว่าแฮนด์บาร์ของมันนั้นมีความสูงยื่นออกมาจากตุ๊กตาแฮนด์พอสมควร

ถังน้ำมันที่ให้มามีขนาดใหญ่ถึง 5.3 ลิตร

ติดตั้งชุดโครงเหล็กด้านหน้าพร้อมการ์ดแครงก์กันเครื่องยนต์กระแทกที่หนาพอสมควร ซัพพอร์ทเครื่องยนต์ยามโดนเนินแรงๆได้เป็นอย่างดี

ตำแหน่งกรองอากาศย้ายจากหลังแกนคอมาไว้ใต้เบาะฝั่งซ้าย พร้อมทำปากท่อเดินขึ้นมาไว้ที่ตระแกรงเหล็กด้านหลังที่สามารถรับน้ำหนักได้มากถึง 20 กิโลกรัม (และเผลอๆจะรับได้มากกว่านี้อีกพอสมควร เนื่องจากเหล็กที่ใช้มีความหนาพอประมาณ)

ซึ่งเป็นระนาบเดียวกันกับท่อไอเสียที่ยกสูงเดินแนวขึ้นมาขนาบใต้แนวเบาะผู้นั่งทางฝั่งด้านขวา ทำให้เราสามารถขี่เจ้า CT125 ลุยน้ำในระดับหัวเข่าได้สบายๆ และตัวการ์ดความร้อนเองก็ทำหน้าที่ได้ดี เพราะถึงจะใช้งานไปแล้วพักใหญ่ แต่ตัวการ์ดก็จะแค่อุ่นๆเท่านั้น ถ้าใส่กางเกงขายาวด้วยยังไงก็หายห่วง

พักเท้าผู้ขี่พับได้ นอกจากนี้ยังสามารถถอดยางรองออกเพื่อให้มันกลายเป็นพักเท้าแบบเหล็กจิกรองบูธเท้าพื้นแข็งสำหรับลุยป่าได้ด้วย

เบาะนั่งตอนเดียว ไม่มีเบาะผู้ซ้อนมาให้ มาพร้อมคอนเซปท์ “ขี่ด้วยกันมันส์กว่า” (หมายถึงจะพาคนซ้อนมาทำไม ? ให้เขาขี่ไปด้วยกันเลย มันส์กว่าเยอะ) ก็ถูกบุมาหนาและมีความกว้างพอประมาณ ให้ความรู้สึกค่อนข้างดีและไม่ติดขัดกับช่วงขาเวลาต้องออกท่าทางแบบเอนดูโร่เท่าไหร่นัก แต่ประเด็นในเรื่องความสะดวกสบายเราคงต้องขอนำมันมาทดสอบขี่ยาวๆอีกครั้งก่อนถึงจะทราบในจุดนี้ได้

และแม้ทาง Honda จะบอกว่ามันสูงขึ้นกว่า C125 หรือ Honda Wave 125 ที่เรารู้จักกันดี แต่ในภาพรวมก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ผู้ขี่สูงไม่เกิน 170 เซนติเมตร สามารถใช้อุ้งเท้าวางลงแตะพื้นทั้ง 2 ข้างได้สบายๆ ส่วนท่าขี่ในเบื้องต้น ตำแหน่งแฮนด์บาร์ของ CT125 จะค่อนข้างใกล้ตัวผู้ขี่และสูงกว่ารถมอเตอร์ไซค์แม่บ้านทั่วๆไปเล็กน้อย เน่ื่องจากว่าทาง Honda ตั้งใจออกแบบไว้เผื่อตอนยืนขี่ ซึ่งเมื่อประกอบกับตำแหน่งพักเท้าที่เหมือนจะร่นเข้ามาอีกหน่อยทำให้เราสามารถใช้ขาหนีบช่วงเบาะนั่งได้พอดิบพอดี

ฝั่งความคล่องตัวในการพลิกเลี้ยว ด้วยการเซ็ทให้องศาแผงคอของ CT125 ค่อนข้างชัน กับแฮนด์บาร์ที่ค่อนข้างกว้าง (เมื่อเทียบกับรถแม่บ้านทั่วๆไป) และฐานล้อที่สั้นอยู่แล้วเป็นทุนเดิม ทำให้ในจังหวะแรกๆเพื่อนๆอาจจะรู้สึกว่ารถหน้าไวไปบ้าง แต่ถ้าปรับตัวเข้าหารถอีกนิด จะรู้สึกได้ทันทีว่ามันสามารถพลิกเลี้ยวได้ง่าย และมีความคล่องตัวสูง ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากๆในยามที่ต้องซอกแซกในเมืองหรือไต่ทางแคบๆที่ต้องหักหลบอุปสรรคไปมา

ระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแบบตะเกียบคู่หัวตั้งแก่นโช้กยาว ยึดกับแผงคอ 2 ชั่น มาพร้อมช่วงยุบเยอะถึง 110 มิลลิเมตร มีปลอกยางหุ้มแกนกันฝุ่นมาให้ ส่วนด้านหลังเป็นแบบโช้กคู่ช่วงยุบเยอะ 70 มิลลิเมตร เช่นกัน แต่ไม่สามารถปรับเซ็ทค่าความแข็ง/อ่อนได้ ซึ่งด้วยความที่ช่วงยุบค่อนข้างเยอะ รวมถึงการเซ็นอัพโช้กให้มีความยืดหยุ่นอีกประมาณหนึ่ง ทำให้มันสามารถซับแรงได้ค่อนข้างดีปีนหลังเต่าได้สบายๆ แต่จะติดก็ตรงที่หากเพื่อนๆมีน้ำหนักตัวมากหน่อยอย่างเช่นตัวผู้ทดสอบ (หนักราวๆ 90 กิโลกรัม) จังหวะที่ลงหลังเต่าเร็วๆ ตัวการ์ดแครงก์ด้านล่างก็อาจจะกระแทกกับอุปสรรคง่ายไปนิด ดังนั้นในภาพรวมหากต้องเอาไปลุยจริงๆมันจึงเหมาะกับการขี่แบบค่อยๆใต่ผ่านอุปสรรคไปเรื่อยๆมากกว่า

ระบบเบรกที่ให้มา แม้จะเป็นแบบดิสก์เดี่ยวหน้า/หลัง แต่การเซ็ทติ้งระบบปั๊มเบรกภายใน กลับทำให้ผู้ขี่รู้สึกว่ามันต้องใช้ระยะในการกำและการกดเบรกพอสมควร หรือว่าง่ายๆคือต้องกดลึกหน่อยมันถึงจะเอาอยู่ โดยทั้งนี้ก็คาดว่าจะเป็นเพราะทาง Honda ตั้งใจให้คาแรคเตอร์ระบบเบรกของ CT125 คันนี้ มีความเหมาะสมในการใช้งานเชิงบุกตะลุยมากกว่า เพราะถ้าหากเซ็ทให้เบรกจับดีเกินไป เวลาเจอทางโคลน หรือทางกรวดลื่นๆ เบรกก็จะล็อคได้ง่ายๆนั่นเอง (แต่เอาจริงๆตัวล้อหน้าก็มีระบบ ABS ที่ทำงานได้ค่อนข้างดีมาให้อยู่แล้ว ดังนั้นเพื่อนๆก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้อยู่ดีสำหรับการเบรกหนักๆที่ล้อหน้า)

และไฮไลท์สุดท้ายคือเครื่องยนต์ ที่เป็นสูบเดียว 124cc SOHC ระบายความร้อนด้วยอากาศ จ่ายน้ำมันด้วยหัวฉีด PGM-FI ลูกเดิม ลูกเดียวกับ C125 และ Wave 125i แต่มีการปรับปรุงภายใน และปรับจูนใหม่เล็กน้อยเพื่อให้มันมีพละกำลังในรอบต่ำที่ติดมือกว่าเดิม และเปลี่ยนเสตอร์หลังจาก 36 ฟัน เป็น 39 ฟัน ส่วนด้านหน้ายังคงเป็นแบบ 14 ฟันเท่าเดิม จึงทำให้อัตราการตอบสนองของเครื่องยนต์ช่วงต้น และอัตราเร่งช่วงเกียร์ 1-2 มีความติดมือมากกว่าร่างต้นของมันอย่างเห็นได้ชัด สามารถเปิดคันเร่งแล้วไต่ขึ้นเนินชันได้สบายๆ แม้จะลองจอดอยู่นิ่งๆแล้วถึงค่อยเปิดคันเร่งส่งรถตอนอยู่ตีนเนินก็ตาม (ไม่ได้ใช้ความเร็วส่งมาช่วย) ส่วนข้อสงสัยในเรื่องความเร็วปลายนั้นเราขอยกยอดไว้ตอนได้นำรถมาทดสอบแบบฟูลรีวิวอีกครั้งครับ เนื่องจากการทดสอบในครั้งนี้ ไม่มีจังหวะให้ทำความเร็วสูงๆเกิน 40 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้เลย

สรุป รีวิว Honda CT125 ในเบื้องต้นนั้น ถือว่าค่อนข้างน่าประทับใจในหลายๆจุดๆ โดยเฉพาะหน้าตาที่รักษาเอกลักษณ์รถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Trail CUB ไว้ได้เป็นอย่างดี ขณะที่สมรรถนะตัวรถเอง แม้ว่าอาจจะไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อถูกใจคนเป็นวงกว้าง แต่ถ้าเป็นคนมีไลฟ์สไตล์อยากเข้าป่าแบบชิลๆ ลัดเลาะอุปสรรคไปเรื่อยๆ ถึงที่พักก็กางเตนท์ แล้วจิบกาแฟสบายๆ เจ้าแม่บ้านขาลุยคันนี้ก็ถือว่าเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจในสายตาพวกเขาไม่น้อย

ดังนั้นถ้าหากเพื่อนๆคือคนกลุ่มหลังอย่างที่เรายกตัวอย่างมาล่ะก็ สามารถเดินทางไปจับจองเจ้า Honda CT125 ราคา 84,900 บาท ที่ศูนย์ CUB House และศูนย์บริการ Wing Center ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แต่ถ้าหากเพื่อนๆคนไหนที่ยังลังเลใจและอยากใช้เวลาศึกษาเจ้ารถมอเตอร์ไซค์คันนี้เพิ่มเติมอีกสักนิดล่ะก็ อดใจกันอีกหน่อย เร็วๆนี้ทางทีมงาน MotoRival เราจะมีการปล่อยฟูลรีวิวของมันมาให้เพื่อนๆได้เก็บรายละเอียดไปพร้อมๆกันกับพวกเราเพิ่มอีกแน่นอนรอชมกันได้เลยครับ