รีวิว 2021 Honda GROM ดีไซน์ไว้ไปต่อยอดเองได้ แต่แรงบิดดีกว่า MSX จริง!

หลังจากที่ A.P.Honda ได้เปิดตัวรถใหม่ ครั้งแรกในโลก เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งรถรุ่นนั้นทางทีมงานเราได้วิเคราะห์เอาไว้ อยู่ 2 โมเดลที่อยู่บนภาพเงา และก่อนหน้าวันเปิดตัวหนึ่งวันดูเหมือนว่าทีมงานเราจะวิเคราะห์เกือบถูกที่ว่าเป็น All New MSX แต่ทว่าในวันเปิดตัวจริง ได้มีการเปลี่ยนชื่อใหม่ตามที่ตลาดทั่วโลกเรียกว่า GROM และเพื่อไม่ต้องให้เพื่อนๆ รอกันนาน วันนี้ทีมงาน MotoRival เราจะขอมา รีวิว 2021 Honda GROM ตัวตายตัวแทน MSX กันเลยครับ

เริ่มกันที่ดีไซน์ ก่อนอื่นผมก็ต้องบอกก่อนครับว่า บางคนอาจจะมองว่าสวย หรือ ไม่สวยอันนี้ ก็ขึ้นกับความชอบส่วนบุคคลเลย

จุดเด่นที่เห็นได้ชัดว่า 2021 GROM แตกต่างจาก MSX125SF โฉมก่อนเลยก็คือ ชุดไฟหน้าแบบ Full LED ดีไซน์ใหม่ทรง 8 เหลี่ยม

ชุดไฟท้าย LED ทรงเหลี่ยมดีไซน์เดิม (เหมือนตัว MSX125SF)

จุดที่เป็นไฮไลท์ตามสโลแกน “แต่งใหญ่ ใส่ให้สุด” นั่นก็คือ ชุดแฟริ่งข้างที่มาพร้อมดีไซน์รูน็อต 6 จุด

มันถูกออกแบบมาเป็นพิเศษให้ลูกค้าสามารถถอดเปลี่ยนเพื่อตกแต่งเองได้โดยง่าย ผมขอแปะลิงค์ วิธีการติดตั้ง แฟริ่งแต่ง Scrambler จาก H2C ไว้ด้านล่างนี้ครับ

ส่วนชุดท่อไอเสียก็เป็นแบบออกข้าง แต่ปลายท่อ Slip-on จะมีขนาดยาวกว่าเดิม และทรงเปลี่ยนจากเหลี่ยมมาเป็นมน

ชุดหน้าจอได้ปรับดีไซน์ใหม่ แต่ยังเป็นจอ LCD เช่นเดิม
โดยรวมตัว interface แสดงผลคล้ายๆ ของเดิม เกจ์น้ำมันทางซ้าย, ตัวเลขความเร็วตรงกลาง, สเกลรอบเครื่องทางด้านบน มี Redline ช่วงแถวๆ 8,000rpm เช่นเดิม
มีการย้ายนาฬิกาจากมุมขวาล่างขึ้นไปซ้ายบน เพื่อที่จะได้มีพื้นที่ให้ใส่ลูกเล่น เลขบอกตำแหน่งเกียร์
รวมถึงให้ออปชั่น Shiftlight มาด้วย ซึ่งสามารถเข้าไปเซ็ทลูกเล่น Shiftlight ได้ ว่าให้ทำงานตั้งแต่รอบเท่าไรถึงเท่าไร สเกลตรงรอบเครื่องวิ่งแบบใด คล้ายๆ กับการปรับเซ็ทใน CB150R

ตัวเบาะแอบดูคล้าย MSX125 เจนแรก ที่เป็นแบบตอนเดียว (MSX125SF จะแบ่งเป็น 2 Step)

ล้ออัลลอยปรับจาก 5 ก้าน Y มาเป็น 5 ก้านตรง ในรุ่น ABS จะได้ล้อทอง แต่ STD จะเป็นสีดำ
ส่วนไซส์ยางเหมือนเดิม คือ 120/70-12 ด้านหน้า และ 130/70-12 ทางด้านหลัง ซึ่งซีรีย์ยางของ GROM นี้ จะมี OEM สองรุ่น ก็คือ Vee Rubber และ IRC Wings ซึ่งอันนี้ ก็ต้องบอกว่าแล้วแต่จังหวะ ว่าลูกค้าจะได้ล็อตไหนไหนไป

มิติรถ 2021 Honda GROM
กว้างxยาวxสูง 722 x 1,758 x 1,017 มม. (แคบลงจาก MSX125SF 6 มม. ยาวขึ้น 3 มม.สูงขึ้น 29 มม.)
ระยะฐานล้อ 1,198 มิลลิเมตร (สั้นลง 1 มม.)
ระยะ Ground Clearance (เพิ่มขึ้น 25 มม.)
ความสูงเบาะ 761 มม. (เท่าเดิม)
ความจุ 6 ลิตร (จุขึ้น 0.3 ลิตร)
น้ำหนัก 102 กก. และ 104 ในรุ่น ABS (ถ้าเป็น MSX125 SF 103 และ 104 กก.)

ท่านั่ง Honda GROM

เริ่มที่ความสูงเบาะ 761 มม. ซึ่งผมสูง 175 ซม. สวมรองเท้าผ้าใบ ก็เรียกได้ว่า หย่อนขาเหยียบได้เต็มมั่นคงสบายๆ ใครสรีระเล็ก ต้องถือว่าไม่มีปัญหากับมินิไบค์ คันนี้ ส่วนตำแหน่งช่วงท่อนขา ผมรู้สึกว่าชุดแฟริ่ง GROM นี้มันทำออกมาได้ดี ดูไม่ติดเข่าเหมือนอย่าง MSX ที่จะเน้นมุมเหลี่ยมมากกว่า

ประเด็นต่อมาก็คือ ตำแหน่งแฮนด์ มันเป็นแฮนด์ทรงสูง และแคบ จึงช่วยให้การคอนโทรลทำได้ดี รวมถึงลัดเลาะในเมืองทำได้คล่องแคล่ว แต่ส่วนตัวผมกลับรู้สึกว่า ถ้าขี่ยาวๆ แฮนด์ทรงนี้อาจเมือยไปนิด เพราะข้อศอกมันต้องงอเยอะ ถ้าเปลี่ยนให้ต่ำลงหน่อย จะผ่อนคลายลงได้อีก
นิด

ส่วนตำแหน่งของเบาะคนซ้อน ที่เปลี่ยนกลับมาเป็นเบาะราบตอนเดียวแบบ MSX เจนแรก ทำให้มันนั่งซ้อนได้สบาย สามารถขยับร่นตำแหน่งได้ไม่อึดอัด แต่ GROM ก็ยังคงไม่มีมือจับกันตกให้มาเหมือนกับ MSX อยู่ดี ดังนั้นก็แนะนำให้นั่งหนีบสะโพกผู้ขับขี่ หรือ จะเกาะเอวเกาะไหล่ก็แล้วแต่สะดวกครับ

เครื่องยนต์บล็อกใหม่
หัวฉีด PGM-Fi ยังคงเป็นแบบ SOHC ระบายความร้อนด้วยอากาศ
มีความจุจริง 123.9cc ลดลงจากเดิม 1cc
เพิ่มกำลังอัดเพิ่มขึ้นเป็น 10.0 : 1
ส่วนขนาดกระบอกสูบเล็กลงเหลือ 50 มม. แต่เพิ่มระยะชักขึ้นมาอยู่ที่ 63.1 มิลลิเมตร หรือ เรียกได้ว่า ลูกเล็กลง แต่ชักยาวขึ้น เพื่อเน้นแรงบิดการใช้งานในเมือง
ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจอะไรครับ กับการปรับเครื่องใหม่เช่นนี้ เพื่อให้มันรับกับการเพิ่มเกียร์มาเป็น 5 Speed
และนั่นก็ทำให้เคลมอัตราสิ้นเปลืองเพิ่มเป็น 65.7 กม./ลิตร

หากเพื่อนๆ ได้ดูกราฟ แรงม้า และแรงบิดของ GROM ที่ทาง A.P.Honda ได้นำเสนอในวันเปิดตัว จะพบว่า
ทอร์คจะยกสูงกว่า MSX125SF ตั้งแต่ช่วงต้น-ปลาย ขณะที่แรงม้ารอบต้นๆ จะเท่าๆ กัน และจะยกขึ้นชัดเจนในช่วงย่านกลาง-ปลาย

ซึ่งจากภาพรวมการใช้งาน ผมที่เป็นลูกค้า MSX125 2013 นั้น ยอมรับ ครับว่า มันจะแรงกว่าเดิมจริงหรือแบบเห็นได้ชัดเลยหรือ?
แต่พอลองบิดจริง ยอมรับครับแรงบิด ย่านต้น-กลาง มาดีกว่าจริงๆ บิดในเมืองสนุก ไม่แพ้ AT 150cc พวกตัวจี๊ดๆ เลย
ส่วนย่านปลายนั้น ไม่รู้สึกว่าแตกต่างกันมากนัก แต่จากการทดสอบ TopSpeed ของทีมงานเรา พบว่าได้ตามมาตรวัดที่ 120 กม./ชม.
ส่วน MSX125 ผมได้ 126 กม./ชม. ตามมาตรวัด

นอกจากนี้เดินทางไกลก็ผ่อนคลายขึ้นด้วยเกียร์ 5 Speed ทำให้ไม่กินรอบเครื่องสูง หรือ ขี่แล้วเหนื่อยรอบตึงมือจนเกินไป

จากตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองที่ผมใช้งานทดสอบ 3 วัน ขี่ทั้งเทส TopSpeed และในเมือง ตัวเลขก็ได้ 58 กม./ลิตร ตามมาตรวัด ซึ่งก็ประหยัดกว่าเดิมขึ้นมาอีก
เพราะ 2013 MSX125 รถผมเวลาเติมน้ำมันจริงจะได้อยู่ประมาณ 40 ปลายๆ – 50 กม./ลิตร

ระบบกันสะเทือน
โช้กอัพ USD ขนาดแกน 31 มิลลิเมตร (เหมือนเดิม) โดยในรุ่น STD จะเป็นกระบอกสีเงิน ส่วน ABS เป็นกระบอกสีทอง
โช้กหลังเดี่ยว วางบนสวิงอาร์มเช่นเดิม

ภาพรวมจากการใช้งานโช้กอัพเดิมๆ ต้องบอกว่าถ้าขี่คนเดียวใช้งานปกติทั่วไป ขี่ในเมือง รู้สึกว่ามันเหมาะสมกำลังสบาย
อาจไม่ถึงกับหนึบแน่น แต่ก็ไม่ย้วยจนยวบ
แต่ถ้ามีสายซ้อน หรือ บรรทุกโหลดหนัก ก็อาจรู้สึกย้วยไปบ้าง

เอาเป็นว่าถ้าใครชอบซิ่ง ผมแนะนำแค่ เปลี่ยนโช้กหลังเป็นพวกโช้กแก๊สแต่ง และก็อาจเซ็ทน้ำมันโช้กหน้าอีกหน่อย ก็ได้ช่วงล่างที่เฟิร์มขึ้น ขี่ซิ่งได้สนุกขึ้นอีกหน่อย

ส่วนมุม Rake 25 องศาเท่าเดิม แต่ระยะเทรลเพิ่มเป็น 84 มม. (ยาวขึ้น 3 มม.)
ถ้าดูจากตัวเลข หมายความ GROM จะมีความกระฉับกระเฉงลดลง แต่แลกมาด้วยความมั่นคงที่เพิ่มขึ้น
แต่จากภาพรวมการใช้งานผมต้องถือว่าไม่ต่างจากเดิมครับ ยังเลี้ยวลัดเลาะได้คล่องแคล่วเช่นเคย

ระบบเบรก
ด้านหน้าจานดิสก์เดี่ยว ขนาด 220 มม. ทำงานร่วมกับปั๊มคาลิปเปอร์ 2 สูบ จาก Nissin
ด้านหลังจานดิสก์เดี่ยว ขนาด 190 มม. ทำงานร่วมกับปั๊มคาลิปเปอร์ 1 ลูกสูบ จาก Nissin เช่นกัน

โดยภาพรวมแล้ว ผมถือว่ามันให้กำลังการเบรกที่ ok เพียงพอกับขนาดของตัวรถแล้ว ถามว่าระบบ ABS จำเป็นไหม อันนี้ ต้องเรียนตามตรงว่า ส่วนตัวสำหรับผมรถขนาด 125cc น้ำหนักตัวไม่ได้ หนักมาก และถ้าไม่ได้แบบขี่ลุยฝนจริงๆจัง อย่างช่วงหน้าฝน สำหรับผมคิดว่าอาจจะยังไม่จำเป็น

แต่เพื่อนๆ ที่ต้องการความปลอดภัย ผมว่า ซื้อตัว ABS ไปเลยก็ได้ เพราะสีสันก็ดูสวยกว่าตัว STD อีกด้วย

สรุป รีวิว 2021 Honda GROM ในเรื่องรูปลักษณ์ มันอาจไม่ได้ดูหวือหวา ซึ่งอันนี้ต้องบอกก่อนว่าทาง Honda เค้าจงใจดีไซน์มาให้เพื่อนๆไปแต่งต่อในสไตล์ของคุณเอง โดยหัวใจสำคัญ คือในเรื่องของขุมกำลังที่พัฒนาดีขึ้น และออปชั่นลูกเล่นบนหน้าจอที่ให้มา เมื่อเทียบราคาเปิดตัวกับ MSX125SF แล้วมีราคาถูกลงกว่าอีกประมาณ 1,000 บาท
ถ้าเพื่อนอยากได้รถ มินิไบค์ ที่ขี่สนุกสักคัน และแต่งเปลี่ยนสไตล์ได้ง่ายๆ และรวดเร็ว 2021 Honda GROM คันนี้ ถือเป็นรถที่น่าสนใจไม่น้อย

ด้านราคา 2021 Honda GROM STD อยู่ที่ 69,900 บาท มากับ สีแดง, น้ำเงิน, ดำ
ส่วนรุ่น 2021 Honda GROM ABS มีราคาอยู่ที่ 77,400 บาท มีสีเดียว คือ สีเงิน ล้อทอง และกระบอกโช้กสีทอง