2023 Piaggio MP3 รถมอเตอร์ไซค์บิ้กสกู๊ตเตอร์ค่ายอิตาลีที่คนไทยไม่ค่อยได้เห็นบนถนนบ่อยนักอย่าง Piaggio กับรถรุ่นใหม่ที่ถือได้ว่าเป็นเรือธงของค่ายในแบบรถ 3 ล้อ ซึ่งก็เป็นสไตล์ของรถที่ไม่ได้มีให้เราได้เห็นกันทั่วไปเช่นกัน โดยเจ้า MP3 ใหม่ในโฉมนี้ได้รับการอัพเกรดรอบคันตั้งแต่ภายนอกยันภายใน เรียกได้ว่าเป็นรถใหม่แบบ All-new เลยก็ว่าได้
2023 Piaggio MP3 นั้นถึงแม้ว่าตอนนี้มันจะยังไม่ได้ถูกเปิดตัวอย่างเต็มระบบก็ตาม แต่จากข้อมูลตอนนี้ ตัวรถมาพร้อมกับ 2 รุ่นย่อยหลักคือ MP3 400 hpe ที่ใช้เครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยน้ำ 1 สูบลูกโต 400cc ที่ให้พละกำลังสูงสุด 35 แรงม้า และรุ่น MP3 530 hpe Exclusive ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ตระกูลเดียวกันที่ถูกขยายความจุเครื่องยนต์ให้กลายเป็น 530cc ที่ให้พละกำลังได้สูงสุด 44 แรงม้า โดยทางค่ายก็เครมว่าเครื่องยนต์ลูกใหม่นี้ให้พละกำลังและแรงบิดที่มากขึ้น นิ่งเงียบและปล่อยมลพิษน้อยลงจากรุ่นก่อนหน้า
รูปลักษณ์ภายนอกของตัวรถนั้นเปลี่ยนแปลงไปมากจนจำไม่ได้ ด้วยเส้นสายรอบตัวรถที่ดุดันมีเหลี่ยมสันมากขึ้น และยังคงมีหน้าตาหน้าตาที่แตกต่างจากเพื่อนร่วมทางคันอื่นด้วยล้อคู่หน้าแบบ LMW 2 ล้อหน้าและ 1 ล้อหลัง, ระบบเบรกเป็นแบบเป็นแบบดิสก์เดี่ยวทั้ง 3 ล้อ ทำงานร่วมกับระบบเบรก ABS, ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบ Articulated quadrilateral และด้านหลังเป็นแบบสปริงคู่, น้ำหนักตัวรถที่น้อยกว่ารุ่นก่อน และมีการย้ายตำแหน่งป้ายทะเบียนไปไว้ตรงบังโคลนล้อหลัง ทำให้ช่วงท้ายนั้นดูเล็กลง แน่นอนว่านี่เป็นเพียงสเปคโดยคร่าวเท่านั้น
ระบบไปส่องสว่างรอบคันแบบ LED, หน้าจะแสดงผลแบบสี TFT 7 นิ้ว ที่สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือและระบบนำทาง, ระบบกุญแจรีโมท และระบบ ASR ที่เป็นเหมือนกับระบบป้องกันการลื่นรูปแบบหนึ่งของค่ายติดมาเป็นมาตรฐานตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ส่วนรุ่นท็อบนั้นจะมีการเพิ่ม โหมดการขับขี่ 3 โหมด(Comfort, Eco, and Sport), Cruise control, เกียร์ถอยหลังพร้อมกล้องมองหลัง, ระบบเตือนมุมอับสายตา Blind Spot Information System (BLIS) ที่สามารถตรวจจับวัตถุในระยะ 30 เมตร รวมถึงตัวช่วยการเปลี่ยนเลย Lane Change Decision Aid System (LCDAS)
Piaggio นั้นได้ทำการเปิดจอง MP3 เรียบร้อยแล้วในตลาดยุโรป มาพร้อมกับรุ่นย่อย 2 รุ่นหลัก คือรุ่นเริ่มต้น MP3 400 hpe กับราคาแนะนำที่ประมาณ 386,000 บาท และรุ่นท็อบ MP3 530 hpe Exclusive ราคา 478,000 บาท ซึ่งก็ถือว่าราคานั้นดูดีใช้ได้เมื่อเทียบกับรถบิ๊กสกู๊ตเตอร์คู่แข่งรุ่นอื่นที่มีขายในยุโรป โดยปัจจุบันยังไม่มีกำหนดการออกมาว่าจะถูกส่งมอบเมื่อใด แต่ถ้าดูจากเลขปีก็พอจะเดาได้ว่าเป็นช่วงปลายปีนี้ ส่วนจะมีลุ้นเข้าไทยไหมก็คงต้องรอติดตามกันต่อไป ซึ่งราคาของรถในรุ่นท็อบเมื่อเข้าไทยนั้นก็คงแพงกระฉูดเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่างแน่นอน
อ่านข่าวสาร Piaggio เพิ่มเติมได้ที่นี่
