ประกาศวันอย่างเป็นทางการเรียบร้อย สำหรับช่วงเวลาการจัดงานแข่งขันศึก ThaiGP 2020 ในบ้านเรา ที่ต้องถูกเลื่อนออกไปจากกำหนดเดิมที่ตอนแรกตั้งใจจะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งกำหนดการใหม่ที่ว่าก็คือจะย้ายไปจัดในช่วงต้นเดือนตุลาคมตามเดิม เหมือนตอนปี 2018-2019 โดยกำหนดวันใหม่ของศึก ThaiGP 2019 นั้น จะจัดขึ้นในวันที่ 3-5 ตุลาคม แทนตารางการแข่งขันเดิมของศึก AragonGP 2020 ที่จะย้ายขึ้นไปอีก 1 สัปดาห์ หรือก็คือเขยิบขึ้นไปจัดในช่วงวันที่ 25-27 กันยายน แทน ส่วนเงื่อนไขในเรื่องของบัตรการแข่งขันและอื่นๆ หากทางผู้จัดสนามมีการแจ้งรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม เราจะรีบแจ้งให้เพื่อนรับทราบโดยเร็วที่สุดครับ อ่านข่าว MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ Motorival
Author: admin
หลังเป็นข่าวลือในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ในตอนนี้มันก็ได้เป็นข่าวจริงเรียบร้อยสำหรับการใช้สิทธิ์ลงแข่งในฐานะนักบิด Wildcard กับ Monster Yamaha Factory ของ Jorge Lorenzo ที่ทางค่ายพึ่งมีการประกาศข้อมูลอย่างเป็นทางการเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา สำหรับรายละเอียดในเบื้องต้น ทาง Yamaha ได้ระบุไว้ว่า การแข่งขันที่พวเขาจะส่ง Jorge Lorenzo ลงแข่งขันในฐานะนักบิด Wildcard นั้น ก็คือการแขงขันศึก CatalanGP 2020 ที่จะจัดขึ้นในช่วงวันที่ 5-7 มิถนายน ณ เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน ซึ่งเจ้าตัวได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า “หลังจากที่ผมได้คิดถึงเรื่องนี้มาสักสัปดาห์, เมื่อวันก่อนผมได้จัดสินใจว่าจะลงแข่งที่ CatalanGP, ผมตั้งหน้ารอคอยมันจริงๆและผมหวังจะได้พบกับทุกคนที่นั่น” โดยอันที่จริงสนามแข่งขันนี้ ถือเป็นสนามถนัดของ JL99 อยู่แล้ว แต่การกลับมาขี่ตัวแข่งที่ห่างจากหว่างขาตนเองไปนานถึง 3 ปีครั้งนี้ จะมีผลเป็นอย่างไรนั้น รอติดตามกันต่อไปครับ อ่านข่าว MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ…
สโกมาดิ (Scomadi) รถสกู๊ตเตอร์สัญชาติอังกฤษแท้ เปิดโรงงานผลิตสกู๊ตเตอร์สโกมาดิ แห่งใหม่ เพิ่มกำลังการผลิตมาตรฐานระดับโลก ภายใต้การบริหารงานและจัดจำหน่ายของบริษัท ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ด้วยความมุ่งมั่นพัฒนาสกู๊ตเตอร์สัญชาติอังกฤษแท้ แรงบันดาลใจจากความคลาสสิคอันเป็นเอกลักษณ์ พัฒนาผสานนวัตกรรมอันทันสมัยเพื่อการใช้งานในปัจจุบันและอนาคตที่ตอบโจทย์ผู้ขับขี่ในทุกไลฟ์สไตล์ เจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และไซม่อน ฟิลิปส์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีที ออโต้โมทีฟ กรุ๊ป จำกัด ให้เกียรติร่วมเปิดโรงงานผลิตสกู๊ตเตอร์สโกมาดิ แห่งใหม่ ณ นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ (จ.ชลบุรี ประเทศไทย) ภายในงาน สโกมาดิ พร้อมเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนและตัวแทนจำหน่ายเข้าร่วมชมมาตรฐานการผลิต เพิ่มความมั่นใจในศักยภาพการผลิต ณ โรงงานที่มีมาตรฐานการผลิตระดับโลก โดยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านยนตรกรรมจาก ซีที ออโต้โมทีฟ ร่วมผนึกกำลังกับ แฟรงค์ แซนเดอร์สัน หนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์สโกมาดิ…
ในโอกาสวันสตรีสากล Royal Enfield ขอยกย่องชีวิตอันน่าทึ่งที่เต็มไปด้วยการผจญภัย การเดินทาง และการค้นพบ ของสุดยอดตำนานนักขี่รถมอเตอร์ไซค์ผู้หญิง “วินนี่เฟร็ด เวลส์” วินนี่เป็นบุคคลผู้สร้างประวัติการณ์ กล้าหาญ และเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้หญิงทั่วโลก รวมทั้งวงการมอเตอร์ไซค์ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ที่ต่างยกย่องวีรกรรมความกล้าของเธอในการขี่มอเตอร์ไซค์รอยัล เอนฟิลด์วนรอบประเทศออสเตรเลียในปีช่วง 50’s -ไม่สนใจแรงต้านจากผู้ชาย วินนี่ เกิดเมื่อปี 1928 ณ รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย เป็นคนที่ไม่เหมือนใครตั้งแต่เด็กเพราะเต็มไปด้วยจิตวิญญาณของนักสำรวจและความโหยหาการผจญภัยอย่างไม่มีที่สิ้นสุด จึงไม่น่าแปลกใจที่เธอสามารถกลายมาเป็นตำนานหญิงเหล็กแห่งวงการมอเตอร์ไซค์ด้วยอายุเพียง 22 ปี เมื่อ วินนี่ ตัดสินใจเลือกเส้นทางเป็นนักบิดมอเตอร์ไซค์ เธอต้องเจอกับแรงต้านทานจากไบค์เกอร์เพศชายอย่างมาก เพราะโลกแห่งมอเตอร์ไซค์ในอดีตก็ไม่ต่างจากโลกของผู้ชาย ที่มักดูแคลนผู้หญิงอายุน้อยที่พยายามจะเข้ากลุ่มกับพวกเขา แต่ด้วยนิสัยที่ไม่ยอมแพ้ของวินนี่ เธอตั้งใจจะไม่ให้ใครมาดูถูก วินนี่วางแผนที่จะขี่มอเตอร์ไซค์ข้ามออสเตรเลียในแบบที่สิงห์มอเตอร์ไซค์ชายคงได้แต่ฝันที่จะทำ – สตาร์ทรถ แล้วบิดไปให้สุดเส้นทางฝันเพียงคนเดียว ในวันที่เธอได้เป็นเจ้าของรอยัล เอนฟิลด์ บุลเล็ต 350 ซีซี เธอป่าวประกาศว่าเธอจะเป็นผู้สร้างสถิติการเดินทางจากชายฝั่งตะวันตกไปสุดชายฝั่งตะวันออกภายใน 3 สัปดาห์ ตัดผ่านใจกลางออสเตรเลียที่แสนท้าทาย จากเพิร์ธถึงซิดนีย์และกลับในเส้นทางเดิม ไม่ว่าจะเป็นคำตักเตือนหรือคำขู่จากกลุ่มมอเตอร์ไซค์ผู้ชาย ก็ไม่สามารถบั่นทอนวินนี่ได้…
ย้อนไปช่วงปลายปีก่อน Zongshen (Ryuka) RX6 แอดเวนเจอร์ไบค์ 650cc คันใหม่ที่ทางค่ายได้ร่วมกันพัฒนากับทาง Norton ได้ฤกษ์การเผยโฉมเป็นครั้งแรกในประเทศจีน ทว่าในตอนนั้นด้วยการถ่ายภาพของสื่อท้องถิ่นที่ไม่ค่อยได้มุม จึงทำให้เราไม่สามารถสังเกตรายละเอียดตัวรถได้ชัดเจนเท่าไหร่นัก จนกระทั่งในที่สุด มันก็ถูกปล่อยภาพที่ใช้อ้างอิงในเอกสารสิทธิบัตรออกมาให้เห็นหน้าตาตัวรถแบบชัดๆทุกมุมเสียที จากภาพที่เราแนบไว้ จะเห็นได้ว่าดีไซน์ของ RX6 นั้น จัดว่าดูมีความทันสมัย, บึกบึน และดูโฉบเฉี่ยวกว่าใครพอสมควรโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับแอดเวนเจอร์ไบค์คันอื่นๆในคลาสเดียวกัน ไล่ตั้งแต่ชุดไฟหน้า LED ที่ดูคล้ายๆกับ Tiger 800 รุ่นใหม่ ลากผ่านถังน้ำมันขนาดใหญ่ และชุดแฟริ่งช่วงท้ายรถกับมือจับกันตกชิ้นหนา ด้านส่วนพ่วงอืนๆที่ทาง Zongshen เลือกติดตั้งให้กับ RX6 ก็ถือว่าค่อนข้างจัดเต็มครบครัน ทั้งระบบกันสะเทือนด้านหน้าโช้กหัวกลับ ด้านหลังโช้กเดี่ยวทำงานร่วมกับสวิงอาร์มอลูมิเนียม, ระบบเบรกดิสก์คู่ด้านหน้าทำงานร่วมกับปัีมเรเดียลเมาท์ 4 พอร์ท ด้านหลังดิสก์เดี่ยวทำงานร่วมกับปั๊มโฟลทติ้งเมาท์ 2 พอร์ท ขณะที่ชุดแครชบาร์, และชุดปี๊บ 3 ใบที่ติดตั้งมาให้ตอนเปิดตัว ยังไม่ถูกนำมาใส่ประกอบภาพสิทธิบัตรชุดนี้ ส่วนจุดเด่นที่สำคัญที่สุดของ ZX6 คันนี้ก็คือเครื่องยนต์แบบ 2…
ด้วยข้อบังคับมลพิษระดับใหม่ของประเทศอินเดียที่เข้มข้นขึ้นกว่าปีก่อนพอสมควร ทำให้เหล่าผู้ผลิตต้องทำการปรับปรุงรถมอเตอร์ไซค์ของพวกเขาใหม่มากกว่าแค่การปรับสีเพื่อให้มันยังสามารถทำตลาดต่อไปได้ในปี 2020 ซึ่งเจ้า Suzuki GIXXER SF ที่เพ่ือนๆเห้นอยู่ในขณะนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น แน่นอนว่าสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปมากที่สุดใน GIXXER SF 150 คันนี้ ก็คือเครื่องยนต์ของมัน ที่แม้จะยังคงเป็นบล็อคสูบเดียว SOHC 155cc ระบายความร้อนด้วยระบบออยคูลเลอร์ เช่นเดิม แต่ด้วยความที่มันต้องถูกปรับจูนและปรับปรุงระบบบำบัดไอเสียให้ผ่านมาตรฐานมลพิษระดับ BS-VI จึงทำให้กำลังสูงสุดของมันลดลงไป 1.2 แรงม้า และ แรงบิดอีก 0.2 นิวตันเมตร จนเหลือเพียง 13.4 แรงม้า กับแรงบิด 13.8 นิวตันเมตรเท่านั้น นอกนั้นในด้านส่วนพ่วงอื่นๆต่างก็ยังคงเหมือนเดิมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นระบบกันสะเทือนแบบโช้กตะเกียบคู่ด้านหน้า และโมโนช็อคทำงานร่วมกับสวิงอาร์มเหล็กกล่องแขนคู่ด้านหลัง, และระบบเบรกจานเดี่ยวหน้า-หลัง ที่มาพร้อมกับระบบ ABS แบบ Single-Channel ส่วนชุดสีของ 2020 GIXXER 250 SF คันนี้ ดูเหมือนจะมีความแตกต่างแค่ในส่วนของชุดอกล่าง ที่ถูกเปลี่ยนสีใหม่ให้เป็นสีดำ…
การแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ประเภท Flat-Track อาจจะไม่นิยมเท่าไหร่นักในบ้านเรา แต่ในอิตาลี, สเปน, อเมริกา, และอื่นๆอีกมากมายในซีกโลกตะวันตกนั้นกลับถือว่ามีกระแสดีขึ้นเรื่อยๆ และดูเหมือนว่าในประเทศอินเดียเองก็มีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นอีกเช่นกัน จนถึงขั้นที่ทาง Royal Enfield ต้องเปิดโรงเรียนสอนการขี่รถในลักษณะนี้โดยเฉพาะภายใต้ชื่อเท่ๆว่า “Slide Control” จากข้อมูลระบุไว้ว่า ทาง Royal Enfield ได้ทำการจับมือกับบริษัท BigRock Dirtpark ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่สำหรับแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์แนวเอนดูโร และแอดเวนเจอร์ที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย ซึ่งตัวรถที่พวกเขาจะใช้สำหรับทำการฝึกสอนนั้นก็จะมีโครงสร้างพื้นฐานมาจากเจ้า Himalayan ที่ถูกปรับแต่งจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม ตั้งแต่การถอดชุดไฟหน้าแล้วแทนที่ด้วยแผ่นป้ายติดหมายเลขหน้ารถ, เปลี่ยนท่อไอเสียใหม่ให้เป็นแบบยกสูงนาบไปตามแนวแฟริ่งคาร์บอนไฟเบอร์ด้านหลัง, ถอดเบรกหน้าออก (เพราะไม่จำเป็นต้องใช้), และเปลี่ยนขอบล้อเพื่อให้รับกับยางกึ่งหนามชุดใหม่ที่ใหญ่และเหมาะกับการสไลด์ก้นมากกว่าเดิม นอกนั้นที่เราไม่ได้กล่าวมาก็ล้วนเป็นของเดิมติดรถทั้งหมด ในการเรียนแต่ละคอร์สจะใช้เวลา 3 ชั่วโมง โดยแบ่งเป็นภาคปฏิบัติอยู่ 2 ชั่วโมง ภาคทฤษฏีอีก 1 ชั่วโมง ซึ่งค่าใช้จ่ายก็จะอยู่ที่ 2,500 รูปีย์ หรือราวๆ 1,000 บาทนิดๆเท่านั้น โดยค่าใช้จ่ายที่ว่านี้ก็จะรวมเบ็ดเสร็จทุกอย่างตั้งแต่ครูผู้สอน, ค่าเช่ารถสำหรับเรียน (Himalayan…
แม้เราจะปฎิเสธไม่ได้ว่า ณ ขณะนี้ Marc Marquez คือนักบิดอันดับหนึ่งที่หาใครเทียบได้ยากในการแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์รายการใหญที่สุดในโลกอย่าง MotoGP แต่ด้วยความที่แชมป์โลกในรุ่นใหญ่ทุกครั้งที่ผ่านมาของเขา เกิดขึ้นกับทีมแข่งเพียงสำนักเดียวนั่นก็คือ Repsol Honda จึงทำให้มักเกิดกรณีดราม่าจากเหล่าผู้ติดตามอยู่เสมอๆว่า “แน่จริงก็ออกไปอยู่ทีมอื่นบ้างเด่ะ จะได้รู้ว่าเก่งจริงรึเปล่า หรือเก๋ากับแค่รถแข่งคันเดียว ?” อยู่เสมอๆ ทว่าดูเหมือนเรื่องนี้จะไม่ใช่แค่เหล่าผู้ชมเท่านั้นที่สงสัยในเรื่องดังกล่าว เพราะล่าสุด แม้แต่นักบิดใน MotoGP เองก็คิดไม่ต่างกัน แถมมันยังเป็นการระบุความคิดเห็นนี้โดยพระรอง 3 ปีติดอย่าง Andrea Dovizioso ที่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่ออิตาลีเอาไว้ว่า “เค้าสร้างบรรทัดฐานไว้สูงและแข็งแกร่งในทุกๆทาง, ซึ่งนั่นคือความจริง, เค้าสามารถปรับตัวได้กับรถทุกคัน … แต่มันไม่สามารถบอกได้ว่าเค้าสามารถชนะได้กับทุกๆทีม, ต่อให้เค้าสามารถจบทุกสิ่งที่เค้าผ่านไปในปีที่ผ่านมา, (แต่)การปรับตัวเข้าหารถที่แตกต่างกันมันต้องใช้เวลา, หลายๆอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ในสถานการณ์นี้, ผมอยากจะเห็นเค้าในทีมโรงงานอื่นบ้าง, เพราะกับ Honda เค้าชนะทุกอย่างแล้ว” Dovizioso กล่าวกับสื่อ La Gazzetta dello Sport อ่านข่าว MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ…
ศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก ฤดูกาล 2020 เตรียมออกสตาร์ทการแข่งขันสนามแรก ที่โลแซล อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศกาตาร์ ในสุดสัปดาห์นี้ แม้ต้องประกาศยกเลิกเกมชิงชัยในรุ่นใหญ่โมโตจีพี แต่ในรุ่นกลางอย่างโมโตทูและรุ่นเล็กโมโตทรียังคงจัดดวลความเร็วตามกำหนดการเดิม สำหรับโปรแกรมการลงสนามในรุ่นโมโตทู ซึ่งมี “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา เจ้าของฉายา “คิงคองก้อง” ยอดนักบิดไทยหนึ่งเดียวในศึกเวิลด์กรังด์ปรีซ์ จากโครงการ “เรซ ทู เดอะ ดรีม” ของ เอ.พี. ฮอนด้า ลงสู้ศึกเต็มฤดูกาลต่อเนื่องเป็นปีที่สอง ในสังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย หมายเลข 35 จะเปิดฉากการแข่งขันประจำปี 2020 อย่างเป็นทางการ เริ่มต้นด้วยรอบซ้อมหรือ FP1 และ FP2 ในวันศุกร์ที่ 6 มีนาคม หลังจากนั้นในวันเสาร์ที่ 7 มีนาคม ตามด้วยรอบ FP3…
อย่างที่เห็นกันในพักหลังๆว่าขณะนี้ทาง Harley-Davidson กำลังขมักเขม้นในการพัฒนาและทำตลาดรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอย่างจริงจังขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งด้วยความที่ในอนาคตพวกเขาอาจจะมีรถมอเตอร์ไซค์ประเภทนี้อีกหลายรุ่น จึงทำให้พวกเขาอาจจำเป็นจะต้องเปิดแบรนด์ใหม่เพื่อสร้างความแตกต่างให้เห็นได้ชัดเจนขึ้นในสายตาลูกค้า หลังมีการรายงานข้อมูลมาว่าทางค่ายได้มีการจดทะเบียนโลโก้สัญลักษณ์ใหม่ของตนเองทีเดียวถึง 2 แบบ จากภาพจะเห็นได้ว่ามันคือโลโก้ของ Harley-Davidson ที่พวกเขาได้จดเอาไว้นั้นล้วนสื่อถึงความเป็นยานพาหนะพลังงานไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี เพราะมีการใช้สัญลักษณ์รูป “สายฟ้า” ประกอบอยู่ตรงกลางทั้ง 2 ชิ้น เพียงแต่จะต่างกันในเรื่องของรูปลักษณ์ในภาพรวม โดยชิ้นด้านขวาจะเป็นโลโก้วงกลมที่มีการระบุข้อความชื่อแบรนด์ไว้โดยรอบ ขณะที่โลโก้ด้านซ้ายก็จะเป็นรูปโล่ และมีการใช้อักษรย่อ H-D วางตั้งเป้นแนวดิ่งเดียวกัน อย่างไรก็ดี ในข้อมูลที่เราได้รับมาจากสื่อยุโรป ยังระบุไว้ว่า สุดท้ายทั้ง 2 โลโก้นี้อาจจะมีขึ้นเพื่อเอาไว้ใช้กับ “รถจักรยานไฟฟ้า” ที่ Harley-Davidson ได้เคยเปิดเผยโฉมคอนเซปท์และหลุดข้อมูลชื่อโมเดล “Rude Boy” ออกมาก็ได้ ถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว เราก็อาจจะได้เห็นพวกเขาใช้มันกับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นที่สองต่อจาก Livewire อย่างเจ้า EDT600R (โค้ดเนมในการสร้าง) ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา ณ ขณะนี้ก็เป็นได้ ว่าแต่ว่า เพื่อนๆชอบโลโก้ไหนมากกว่ากันล่ะครับ ? ขอบคุณข้อมูลจาก Motorcycle.com อ่านข่าว…