โดยรายละเอียดของตัวสิทธิบัตรนั้น ถือว่าไม่ได้มีความซับซ้อนเท่าไหร่นัก เนื่องจากมันยังเป็นแค่การอธิบายหลักการทำงานคร่าวๆของ ตัวซุปเปอร์ชาร์จไฟฟ้าที่จะเข้ามาช่วยอัดอากาศเข้าเครื่องยนต์ 4 สุบเรียง 999cc ของ BMW S1000RR เท่านั้น ซึ่งตำแหน่งซุปเปอร์ชาร์จที่ว่าก็จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ตรงชิ้นส่วนหมายเลข 24 ซึ่งจะเป็นตำแหน่งของมอเตอร์ไฟฟ้า ที่จะทำงานร่วมกับตัวโข่งไอดี หรือใบพัดหมายเลข 28 และใบพัดที่ว่าก็จะปั่นอากาศเข้าสุ่อินเตอร์คูลเลอร์หมายเลข 18 เพื่อส่งอากาศเย็นๆกำลังอัดสูงเข้าไปยังห้องเผาไหม้ในเสื้อสูบหมายเลข 11 นั่นเอง และสำหรับประโยชน์ของระบบซุปเปอร์ชาร์จไฟฟ้านั้น หลักๆแล้วก็จะแทบไม่ต่างจากซุปเปอร์ชาร์จแบบกลไก ที่เราพบเห็นใน Ninja H2 มากนัก นั่นก็คือการที่มันช่วยเพิ่มพละกำลังให้กับเครื่องยนต์ได้อย่างมากมายมหาศาลด้วยการป้อนอากาศ (จริงๆคือก๊าซออกซิเจนในอากาศ) เข้าไปผสมกับน้ำมันได้ในปริมาณที่มากขึ้น ส่งผลต่อเนื่องให้ไอดีที่เข้าสูงห้องเผาไหม้สามารถจัดระเบิดได้อย่างรุนแรงยิ่งกว่าเดิม ในทางกลับกันมันก็ยังสามารถช่วยในเรื่องการลดมลพิษรวมถึงอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้ด้วย เนื่องจากกล่อง ECU ไม่จำเป็นต้องจ่ายน้ำมันหนาๆอีกต่อไป เพราะมีออกซิเจนมาช่วยทำปฎิกิริยาสันดาปให้รุนแรงพอสำหรับการใช้งานอยู่แล้ว (ถ้าบอกว่าจะจูนให้เน้นในเรื่องการประหยัดเชื้อเพลิงล่ะก็นะครับ) ทีนี้ข้อดีของ “ระบบซุปเปอร์ชาร์จไฟฟ้า” ที่มากกว่า “ซุปเปอร์ชาร์จแบบกลไก” ก็คิือ การที่มันจะไม่กินแรงเครื่องยนต์ในช่วงรอบสูงๆ เพราะมันไม่ต้องอาศัยแรงจากเครื่องยนต์มาปั่นใบพัดด้วยการส่งกำลังผ่านโซ่หรือเฟืองต่อไป แต่อาศัยกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ดึงพลังงานจากแบตเตอรี่ตัวรถแทนนั่นเอง…
Author: admin
เงียบหายไปอยุู่พักใหญ่ ในที่สุดข่าวคราวของรถมอเตอร์ไซค์แนวเอ็นดูโร่น้องใหม่พิกัด 150cc ของ Yamaha ก็ถูกอัพเดทออกมาให้ได้พูดถึงกันอีกครั้ง หลังมีข้อมูลหลุดออกมาว่าพวกเขาได้จุดสิทธิบัตรข้อมูลของมันอย่างเป็นทางการแล้วในอินโดนีเซีย ด้วยชื่อรุ่นว่า “WR155” และ “WR155R” โดยจากข้อมูลแม้จะไม่มีการระบุอะไรเกี่ยวกับตัวรถไว้มากมายนักเนื่องจากข้อมุลล่าสุดที่ว่า มีเพียงแค่การจดชื่อ “WR155” และ “WR155R” เท่านั้นดังที่เราได้กล่าวไปข้างต้น แต่หากอิงจากข้อมูลก่อนหน้านี้ที่เราได้เคยนำเสนอไปเมื่อประมาณกลางปีก่อน และจากการวิเคราะห์เพิ่มเติม เจ้า WR155 คันดังกล่าวจะใช้ เครื่องยนต์บล็อคเดียวกับ Yamaha MT-15 นั่นก็คือเครื่องยนต์สูบเดียว 154.9cc ตามชื่อรุ่นที่ฟีเจอร์เด็ดทั้ง ระบบวาล์วแปรผัน VVA ช่วยขยายย่ายพลังให้กว้างขึ้น เสริมด้วยระบบหม้อน้ำสำหรับระบายความร้อนกับชุดสลิปเปอร์คลัชท์ แต่จะถูกปรับเซ็ทอัตราทดเกียร์ใหม่เพื่อรองรับกับการใช้งานที่ต้องเน้นแรงต้นเป็นหลักแทน และถ้าหาก Yamaha เลือกใช้เครื่องยนต์ลูกนี้ใน Dirt Bike คันนี้จริง มันก็จะกลายเป็นรถมอเตอร์ไซค์ในประเภทนี้ พิกัดนี้คันแรกที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยน้ำ ด้านราคาในเบื้องต้นของ Yamaha WR155 และ WR155R ก็มีการเผยข้อมูลมาด้วยเช่นกันว่าทาง Yamaha จะตั้งไว้ที่ราวๆ 90,000…
หลังจากที่เมื่อวันก่อน เราได้มีการนำเสนอข้อมูลไปว่าในงาน BIG Motor Sale 2019 ที่กำลังจะเปิดงานรอบมอเตอร์ไซค์ในวันพรุ่งนี้นั้น ทาง Suzuki Motors Thailand อาจจะมีการเปิดราคาของ Burgman 400 คู่กับ Katana ที่ประกาศยืนยันว่าจะเปิดราคาในวันนี้ด้วยก็ได้ แต่สุดท้ายดูเหมือนจะไม่เป็นอย่างนั้นเสียแล้ว หลังจากที่เราพึ่งได้รับข้อมูลล่าสุดจากภายในชี้แจงเกี่ยวกับมันออกมา โดยสำหรับข้อมูลที่ว่าเกี่ยวกับ Burgman 400 ก็คือการที่ ขุมกำลังติดรถของมัน ที่เป็นแบบเครื่องยนต์สูบเดียวขนาด 400cc DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำพร้อมให้แรงบิดที่ดีตั้งแต่รอบความเร็วต่ำถึงกลางเป็นเยี่ยม และมีกำลังสูงสุดที่เหมาะแก่การใช้งานฉบับบิ๊กสกูตเตอร์คือ 31 แรงม้า (PS) ประหยัดน้ำมันถึง 28 กิโลเมตร/ลิตร แถมยังผ่านมาตรฐานค่าไอเสียระดับ Euro 4 ด้วยค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 97 กรัม/กิโลเมตร แต่สุดท้าย ดันไม่ผ่านมาตรฐานไอเสียของบ้านเราเสียนี่ อย่างไรก็ดีแหล่งข้อมูลของเรา ได้ระบุเพิ่มเติมไว้ว่า แม้ทาง Suzuki Motors Thailand จะยังไม่สามารถนำ…
ยังคงมีข้อมุลข่าวสารออกมาให้อัพเดทกันอยู่เรื่อยๆสำหรับ CFmoto 250SR ว่าที่สปอร์ตไบค์พิกัด 1/4 ลิตรน้องใหม่จากค่ายแดนมังกร ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็พึ่งมีการนำเสนอไปว่ามีคนพบเห็นตัวรถโฉมโปรโตไทป์ของมันกำลังถูกขี่ทดสอบในประเทศอินเดียไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา และจากข้อมูลล่าสุด สื่ออินเดีย ก็ได้มีการระบุเพิ่มเติมอีกว่า ทาง CFmoto ไม่ได้มีแผนที่จะทำตลาดเจ้า 250SR เพียงแค่ในรุ่นพิกัดเครื่องยนต์ 249cc เพียงรุ่นเดียวเท่านั้น แต่พวกเขายังมีแผนจะทำตลาดรุ่น 300SR ที่จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาดความจุ 292.4cc DOHC, ระบายความร้อนด้วยน้ำ, ทำกำลังสูงสุดได้ที่ 33.9 แรงม้า (PS) และมีแรงม้าสูงสุดที่ 20.5 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ 6 สปีด ซึ่งมีใช้อยู่แล้วใน CFmoto 300NK เวอร์ชันตลาดอินเดีย เพื่อเอาไว้ชนกับ KTM RC390 และ TVS Apache RTR 300 (AKA BMW G310RR Acartar) อีกด้วย…
หลังจากที่ เมื่อเดือนที่แล้วทาง Kawasaki Japan ได้มีการปล่อยภาพของ 2020 Kawasaki Ninja 400 กันไปแล้ว มาในวันนี้ทาง Kawasaki EU ก็ได้ฤกษ์ปล่อยภาพของ 2020 Kawasaki ZX-6R ที่พวกเขาเตรียมไว้เพื่อวางจำหน่ายมันในช่วงครึ่งหลังปี 2019 ถึง ครึ่งแรกของปี 2020 กันบ้าง และด้วยความที่ตัวรถ Kawasaki ZX-6R พึ่งมีการปรับโฉมครั้งใหญ่ไปเมื่อปีก่อน จึงทำให้ในเวอร์ชันอัพเดทล่าสุดนี้ มันจะมีความเปลี่ยนแปลงแค่เพียงชุดสีภายนอกเท่านั้นที่ถูกปรับใหม่ ซึ่งชุดสีที่ว่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวอร์ชัน KRT Edition ก็จะมีลายกราฟฟิคเหมือนน้องรอง Ninja 400 ไม่มีผิดเพี้ยน ทั้งการปรับลวดลายใหม่ให้ตัวรถดูหรูหราขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยด้วยลายกราฟฟิกสีทองบนพื้นสติ๊กเกอร์สีดำ และตัดโทนช่วงใต้ท้องรถ, ข้างวินชิลด์, และอกล่างด้วยแถบสีแดง นอกจากนี้ ทาง Kawasaki EU ยังได้ทำการเพิ่มเฉดสีใหม่ของ ZX-6R เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งเฉด นั่นก็คือสีดำล้วน Metallic Spark…
หลังโดนยื้อยุดการต่อสัญญามาเป็นเวลาได้เดือนกว่าๆ เนื่องจากทาง Ducati อยากฉีกสัญญา Jorge Lorenzo ให้ออกจาก Repsol Honda แล้วมาอยู่กับตนภายใต้สังกัดทีม Pramac แต่ก็ไปไม่รอดเพราะค่ายปีกนกไม่ยอม ส่งผลให้ในที่สุด Jack Miller ได้รับการต่อสัญญาฉบับ MotoGP ปี 2020 ของเขาเสียทีดังที่ตนหวังและรอคอยมานาน นอกจากนี้ การต่อสัญญาฉบับดังกล่าว ยังเหมือนกับเป็นการปลอบใจ Jack Miller อยู่นิดๆด้วย เน่ื่องจากทาง Ducati ยังยินดีเพิ่มค่าเหนื่อยให้กับเขา แถมยังพร้อมมอบตัวแข่งสเปคโรงงานหรือ Ducati Desmosedici GP20 เหมือนกับที่ Andrea Dovizioso, Danillo Petrucci, และ Francesco Bagnania จะได้ใช้ใน MotoGP ปี 2020 ด้วย ซึ่งนี่จะเป็นครั้งแรกของ Ducati ใน MotoGP…
จากการอัพเดทข้อมูลเมื่อวันก่อน ที่ว่าด้วยการเตรียมเปิดตัวของ 2020 Yamaha YZF-R1 / YZF-R1M ในไทยสัปดาห์หน้าที่งาน BIG Motor Sale 2019 ซึ่งในตอนนี้เราจะมาวิเคราะห์ตัวเลขราคาของมันก่อนเปิดตัวจริงๆกันครับ แต่ก่อนพูดถึงราคาในไทย เราอยากนำเสนอข้อมุลราคาของทั้ง R1 และ R1M ที่ทาง Yamaha USA ได้ตั้งเอาไว้เพื่อจำหน่ายมันในประเทศของตัวเองกันก่อน โดยในฝั่งของ R1 โฉมปี 2019 จะมีราคาจำหน่ายแบบไม่รวมภาษี่ที่ 16,699 ดอลล่าร์สหรัฐ ราวๆ 515,000 บาท ขณะที่ R1 โฉมปี 2020 ก็จะมีราคาจำหน่ายแบบไม่รวมภาษี่ที่ 17,399 ดอลล่าร์สหรัฐ ราวๆ 536,700 บาท ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีการอัพราคาขึ้นเพียงแค่ประมาณ 20,000 บาทนิดๆเท่านั้น ส่วน R1M นั้นดูจะแตกต่างออกไปพอสมควร เพราะเจ้า R1M…
ขณะที่ข่าวคราวหรือกระแสของ Honda CBR1000RR รุ่นใหม่ที่ว่ากันว่าจะแรงกว่าเดิมจนพร้อมชน Ducati Panigale V4R ได้ยังคงมีมาให้ถูกพูดถึงอยู่เรื่อยๆ แต่ในขณะเดียวกันนั้นเอง เราก็พึ่งได้รับข้อมูลใหม่เกี่ยวกับ Honda CBR600RR มานำเสนอให้เพื่อนๆได้รับทราบความเคลื่อนไหวด้วยเช่นกัน โดยสำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุดของ Honda CBR600RR ที่ว่าก็คือ การที่เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ทาง Honda USA ได้มีการเผยชื่อรุ่นรถมอเตอร์ไซค์กว่า 20 รุ่นด้วยกันที่พวกเขาจะจำหน่ายในปี 2020 ซึ่งผลปรากฏว่าหนึ่งในนั้นมีเจ้า CBR600RR ซุปเปอร์สปอร์ตไบค์ที่ถูกยืนยันว่ามีการยุติสายการผลิตและวางจำหน่ายในหลายๆประเทศทั้งญี่ปุ่นและโซนยุโรปไปแล้วตั้งแต่ปลายปี 2017 เพราะไม่มีการปรับปรุงเครื่องยนต์ให้ผ่านมาตรฐาน Euro 4 อย่างไรก็ดี ใช่ว่านี่จะเป็นเรื่องใหม่ที่น่าตกใจเท่าไหร่นัก เพราะอันที่จริงแล้ว เจ้า Honda CBR600RR รุ่นที่ถูกยุติสายการผลิตในญี่ปุ่นกับยุโรปนั้น ยังคงมีจำหน่ายอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกามาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน เนื่องจาก ณ ประเทศเมืองคาวบอยแห่งนี้ไม่ได้มีข้อกำหนดเรื่องมลพิษที่เข้มข้นเท่าไหร่นักนั่นเอง ดังที่เราเคยอ้างอิงไปก่อนหน้านี้ช่วงปลายปี 2018 ว่า CBR600RR โฉมปี 2019 ยังคงมีค่าไอเสียที่ปล่อยออกมาเท่ากับโฉมปี…
ข่าวล่าสุดมาเร็วอีกครั้ง และถือว่าเป็นอีกข่าวที่น่าจะโดนใจสายซิ่งไม่น้อย เพราะที่งาน BIG Motor Sale 2019 ที่จะจัดขึ้นในสุดสัปดาห์นี้ นอกจาก Yamaha จะทำการเปิดตัว All-New Yamaha XSR155 ในงานดังกล่าวแล้ว พวกเขายังบอกอีกว่ายังมีรถมอเตอร์ไซค์โมเดลอื่นอีก 3 รุ่นเปิดตัวในงานเดียวกันอีกด้วย ซึ่งจากการสอบถามข้อมูลกับภายในของทาง Yamaha เราก็ได้คำตอบมาว่า อีก 3 โมเดลที่เหลือนั้น จะไม่ได้มีแค่โมเดลที่ถูกปรับสีเฉยๆเท่านั้น แต่ยังจะมีโมเดล All-New ประกอบอยู่ด้วย ซึ่งและหากถามกันต่อว่าแล้วมันจะเป็นโมเดลไหน ? ณ ตอนนี้ หนึ่งโมเดลที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดก็คือ Yamaha YZF-R1 และ YZF-R1M รุ่นใหม่ ที่พึ่งมีการเปิดตัวโฉมปี 2020 ในประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนก่อน โดยสาเหตุที่ทำไมครั้งนี้ทาง Yamaha จึงรีบเหลือเกินที่จะเปิดตัว Yamaha YZF-R1 และ YZF-R1M รุ่นใหม่ทั้งๆที่มันพึ่งเผยตัวเพียงไม่ถึงเดือนจากการ World…
ในการแข่งขัน MotoGP ทุกยุคทุกสมัย กรณีนักบิดพลาดออกตัวก่อนไฟสัญญาณ หรือ จั๊มพ์สตาร์ท มักมีเกิดขึ้นให้เห็นอยู่เสมอๆ โดยบทลงโทษที่นักบิดผู้นั้นจะต้องได้รับก็คือ พวกเขาจะต้องวิ่งเข้าพิทเลนขณะแข่งขัน เพื่อขี่รถด้วยความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง จึงส่งผลให้นักบิดต้องเสียเวลาไปอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 10-15 วินาที ขณะเข้าพิทเลน ซึ่งดูจะโหดร้ายเกินไปนิด และอย่างที่เพื่อนๆทราบกันดีว่า ในการแข่งขัน MotoGP 2019 นี้ทางคณะกรรมการได้เพิ่ม “บทลงโทษเพิ่มระยะทางในพื้นที่เลนพิเศษของสนาม” เข้ามาในการแข่งขัน เพื่อใช้ลงโทษนักบิดที่ ตัดแทร็ค, วิ่งล้นลิมิตแทร็คหลายครั้ง, หรือแม้แต่แซงก้าวร้าว เป็นต้นเข้ามา เพื่อหวังเพิ่มเวลาต่อรอบของนักบิดคนนั้นๆราว 3-5 วินาที ต่อการวิ่งในพื้นที่เลนพิเศษดังกล่าวหนึ่งครั้ง ดังนั้นเพื่อลดความโหดร้ายของบทลงโทษการจั๊มพ์สตาร์ทลง ทางคณะกรรมการจึงมีมติว่าจะเปลี่ยนวิธีการทำโทษใหม่ในศึก MotoGP 2020 จากการให้นักบิดวิ่งเข้าพิทเลนขณะแข่งขัน เป็นการวิ่งในพื้นที่เลนพิเศษดังกล่าว 2 รอบ ภายในช่วง 5 รอบแรกของการแข่งขัน ซึ่งเท่ากับว่าจะเป็นการเพิ่มเวลาของนักบิดเพียง 6-10 วินาทีเท่านั้น ต่อการโดนทำโทษหนึ่งครั้งนั่นเอง (แต่อันที่จริงในการแข่งขันที่ AustinGP…