หลังจากที่ช่วงเช้า เราได้ทำการนำเสนอข้อมูลของเจ้า VOGE 300AC ไปแล้วว่า มันน่าจะเป็น GPX MAD รุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวในช่วงกลางสัปดาห์หน้า จึงคงจะมีเพื่อนๆหลายคนสงสัยต่อว่า แท้จริงแล้วเจ้า MAD คันนี้นั้น ถูกลอกแบบจากรถจีนมาทุ้งดุ้นเลย หรืออย่างไรกันแน่ และจากการที่เราได้สืบข้อมูลต่อเพิ่มอีกในช่วงเที่ยง เราก็พบว่าแท้จริงแล้ว เจ้า GPX MAD คันนี้ คือรถมอเตอร์ไซค์ที่ ทาง GPX ได้ “พัฒนาร่วมกัน” กับแบรนด์จีนที่มีชื่อว่า Loncin ดังที่เห็นในภาพงานเปิดตัวด้านบนสุด ซึ่งมีการระบุไว้บนจอสกรีนด้านหลังชัดเจนว่า “Develop with GPX Racing” โดยสำหรับข้อมูลในเบื้องต้นของแบรนด์ Loncin นั้นก็มีอยู่ว่า พวกเขาคือแบรนด์ยักษ์ใหญ่อันดับต้นๆของจีนภายใต้การดูแลของบริษัท Longxin Motorcycle Industry Co., Ltd ซึ่งนอกจากการที่พวกเขาจะมีชื่อเสียงในประเทศจีนแล้ว ครั้งหนึ่งพวกเขาก็เคยร่วมงานกับ BMW Motorrad เพื่อผลิตเครื่องยนต์สูบเดียว 650cc ของ…
Author: admin
จากความเคลื่อนไหวล่าสุดของทาง GPX ที่ได้มีการปล่อยภาพทีเซอร์ของโมเดลใหม่ที่เตรียมจะเปิดตัวในงาน Motor Expo 2018 ที่มีชื่อเรียกในเบื้องต้นว่า “MAD” ออกมา ทำให้เพื่อนๆหลายคนสงสัยว่าแท้จริงแล้ว เจ้าน้องใหม่คันนี้จะปรากฏตัวในรูปแบบไหนกันแน่ ซึ่งหลังจากที่เราได้ลองสืบหาข้อมูลคร่าวๆในช่วงคืนที่ผ่านมา เราก็พบเบาะแสชิ้นสำคัญว่าแท้จริงแล้วเจ้า GPX MAD อาจจะคือร่างอวตารของเจ้า VOGE 300AC นีโอ-คลาสสิค จากประเทศจีนที่พึ่งเปิดตัวไปสดๆร้อนๆไม่นานมานี้ก็ได้ เพราะหากเทียบภาพมุมด้านข้างของรถต้องสงสัยที่ว่ากับภาพเงาของ “MAD” ที่ทางค่ายได้ปล่อยออกมาจะเห็นได้ว่า ลายเส้นของมันตรงกันแทบทุกจุด ชนิดที่ว่าแทบไม่มีผิดเพี้ยนไปเลยแม้แต่น้อย ยกเว้นก็แค่ชื่อแบรนด์ที่ตีเอาไว้ตรงแครงก์เครื่องยนต์เท่านั้น ทีนี้ไหนๆโอกาสที่เจ้า GPX MAD น้องใหม่ที่ว่า จะใช้พื้นฐานเดียวกับ VOGE 300AC เรามาดูกันหน่อยดีกว่าครับว่า นีโอ-คลาสสิค สีเขียวมะกอกคันนี้มีจุดเด่นอะไรบ้าง ? เริ่มจากดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่นด้วยลายเส้นแบบร่วมสมัยระหว่างยุคเก่ากับยุคใหม่ตามฉบับรถมอเตอร์ไซค์แนว นีโอ-คลาสสิค ,ระบบไฟส่องสว่างรอบคัน ทั้งชุดไฟหน้า/ไฟท้าย/ไฟเลี้ยว เป็นแบบ LED, เรือนไมล์ดิจิตอล, โช้กหน้าหัวกลับ, โช้กหลังโมโนพร้อมกระเดื่องทดแรง, ระบบเบรกดิสก์คู่ขนาดจาน 300 มิลลิเมตร, ชุดล้ออัลลอยด์ขอบ…
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากที่ทาง Norton จะเปิดตัวสองแสครมเบลอร์ไบค์รุ่นใหม่อย่างเจ้า Atlas Nomad และ Atlas Ranger แล้ว พวกเขายังได้ทำการเปิดตัวซุปเปอร์สปอร์ตไบค์น้องใหม่ของตนเองที่โดดเด่นในเรื่องความเบากว่าใครในคลาสตามชื่อรุ่นของมันที่เรียกว่า “Superlight” โดยสำหรับขุมกำลังของเจ้า Superlight คันนี้นั้น แท้จริงแล้วมันอิงพื้นฐานเครื่องยนต์บล็อค V4 พิกัด 1,200cc จากซุปเปอร์ไบค์รุ่น V4 RR ซึ่งเป็นพี่ใหญ่สุดในสายนี้ของ Norton แต่ทางค่ายได้ทำการหั่นเอาเสื้อสูบคู่หลังของมันออกไป และขยายความจุกระบอกสูบที่เหลืออีก 2 อัน อย่างละ 25cc จึงทำให้ปริมาตรรวมสุดท้ายของมันอยู่ที่ 650cc ซึ่งมันสามารถทำกำลังได้สูงสุดที่ 105 แรงม้า ณ 12,500 รอบ/นาที ด้านชุดเฟรมเป็นแบบโครงท่ออลูมิเนียมน้ำหนักเบา, ชุดระบบกันสะเทือนด้านหน้าหัวกลับรุ่น NIX30 จาก Ohlins ส่วนชุดโช้กหลังก็เป็นรุ่นท็อปสุด TTXGP จากแบรนด์เดียวกัน, ถังน้ำมัน 18 ลิตรเองก็เป็นวัสดุคาร์บอน ซึ่งแน่นอนว่าชุดแฟริ่ง…
แม้ว่าในตอนนี้ทาง Suzuki จะได้ทำการเปิดตัว Katana รุ่นใหม่ออกมา เพื่อสานต่อตำนานที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ยุคปี 1980 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังมีเหล่าผู้หลงไหลความเร็วในประเทศญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อย ที่ยังคงหลงไหลในเจ้า Katana รุ่นแรก นั่นจึงทำให้เรายังคงเห็นสำนักแต่งดังๆปั้น “ไอ้เข้ 1100” ออกมาให้เราได้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ ซึ่งเจ้า Suzuki Katana 1000R ที่เราเห็นอยู่ตรงนี้ก็คือหนึ่งในนั้นเช่นกัน สำหรับข้อมูลในเบื้องต้นของเจ้า Katana 1000R สีน้ำเงินดำคันนี้ก็มีอยู่ว่า มันถูกปั้นขึ้นมาโดยสำนักแต่ง Kagayama โดยมีจุดมุ่งหมายคือเอาไว้ใช้ลงทำการแข่งขันแบบ Time-Attack ในรายการ Tsukuba 2000 ซึ่งด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้มันถูกขุนเต็มกำลังด้วยการเปลี่ยนเอาหัวใจ(เครื่องยนต์)ใหม่จากซุปเปอร์ไบค์รุ่นน้องสุดอย่าง GSX-R1000 รุ่นปี 2016 เข้าไปเพื่อให้มันแรงพอที่จะกดเวลาเหนือคู่แข่งได้ นอกจากนี้ทางสำนักยังให้ข้อมูลอีกว่า ชุดเฟรมของ Katana 1000R คันนี้นั้นถูกสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อใช้ลงทำการแข่งขันโดยเฉพาะ แถมพวกเขายังทำการเปลี่ยนชุดสวิงอาร์มใหม่ให้เป็นแบบแขนเดี่ยว หรือ โปรอาร์ม โดยให้เหตุผลว่ามันจะช่วยส่งอาการที่ล้อหลังมายังตัวผู้ขี่ได้ดีกว่าสวิงอาร์มแขนคู่ ทำให้ตัวผู้ขี่สามารถคุมรถอย่างมั่นใจมากขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น ในชิ้นส่วนแต่งซิ่งบน Suzuki…
ย้อนไปเมื่อช่วงกลางปี ทาง Ducati ได้มีการเปิดตัว Monster 1200 รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 25 ปี Monster ออกมาในชื่อ “Monster 1200 – 25th Anniversario” ซึ่งด้วยความพิเศษตรงนี้เองจึทำให้มันถูกล็อคจำนวนไว้ให้ผลิตขึ้นมาเพียงแค่ 500 คัน บนโลกเท่านั้น จากจุดที่ว่านี้เองจึงทำให้ทางสำนัก Motivation เกิดปิ้งไอเดียทำชุดแต่ง “Tri Colore” สำหรับ Ducati Monster 1200 ออกมา เพื่อปลอบใจลูกค้าที่อาจจะพลาดจอง หรือคนที่มีเจ้าสัตว์ประหลาดคันนี้ในครอบครองอยู่แล้ว แต่อยากได้ชุดสีโทนธงชาติอิตาลีมาประดับรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจของตนเอง และนอกจากชุดบอดี้พาร์ทหลักที่ได้รับการตกแต่งด้วยเฉดสีแบบใหม่แล้ว พวกเขายังติดตั้งของแต่งเสริมเป็นแพ็คเกจรวมลงไปบนเจ้า Ducati Monster 1200 – Tri Colore By Motivation ทั้ง ชุดท่อไอเสีย Full-System จาก SC-Project, ชุดล้ออลูมิเนียมฟอร์จจาก O.Z.…
BMW Motorrad ประเทศไทย สานความต่อเนื่องกับกิจกรรมประจำปีของการรวมพลสิงห์นักบิดทั่วประเทศ ในงาน BMW Motorrad Days 2018 กับปีที่สามของเทศกาลมอเตอร์ไซค์ที่เนรมิตบรรยากาศ PURE & CRAFTED ท่ามกลางขุนเขาของสนาม 8 Speed เขาใหญ่ ให้ผู้เข้าร่วมงานได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมมากมาย ทั้งสินค้าสำหรับสาวกบิ๊กไบค์ในสไตล์แฮนด์ คราฟต์ มินิคอนเสิร์ตจาก อิมเมจ, สิงโต นำโชค, ทีโบน, และป้าง นครินทร์ กิ่งศักดิ์ โดยมีไฮไลต์ที่ปลดปล่อยความมันส์เคล้าสารอะดรีนาลินกับ Fun Race ทั้ง Drag Lane การแข่งความเร็วแบบ 1 ต่อ 1 บนทางตรงในระยะ 201 เมตร ที่จำลองบรรยากาศการแข่งขันสไตล์วินเทจจากงาน Glemseck ในเยอรมนี Dust Lane การแข่งขันแบบ Fun Dirt Race…
หลังจากที่เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ เราได้มีการเกริ่นออกมาหน่อยๆแล้วว่าขณะนี้ทาง GPX ได้มีแผนที่จะเปิดตัวมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ แบบ New-Model ที่งาน Motor Expo 2018 ซึ่งกระแสตรงนั้นยังไม่ทันได้หายดีเท่าไหร่นัก พวกเขาก็ได้มีการปล่อยภาพทีเซอร์ของมันออกมาให้เราได้เดาต่อกันทันที และนั่นก็คือภาพทีเซอร์ของเจ้า “MAD” ที่เรากำลังเห็นกันอยู่ในขณะนี้ โดยจากเงาในภาพ จะเห็นได้ว่าเจ้า MAD ที่ว่านี้นั้น น่าจะมาในรูปแบบของรถมอเตอร์ไซค์แนว “Cafe-Racer” เพราะหากสังเกตกันดีๆจะเห็นได้ว่าแม้ช่วงท้ายของมันจะมีดีไซน์แบบสปอร์ตไบค์ แต่ช่วงหน้าตัวรถกลับมีการใช้ถังน้ำมันทรงโค้งมน และเผยให้เห็นปลอกโช้กด้านหน้าชัดเจน ดังนั้นด้วยดีไซน์แบบนี้คงเป็นรถมอเตอร์ไซค์แบบอื่นใดไม่ได้นอกจากแนว คาเฟ่ต์ ซึ่งผลสุดท้ายแล้ว เจ้า MAD คันนี้จะมีสเปครายละเอียด และราคาเป็นอย่างไรนั้น รอติดตามกันให้ดีที่หน้าเพจ MotoRival ของเราได้เลยครับผม อ่านข่าว GPX เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ Motorival
หลังจากที่เมื่อวันก่อนเราได้มีการนำเสนอกฏกติกาใหม่ที่ทางคณะกรรมการ MotoGP เตรียมบังคับใช้ในปี 2019 กันไปแล้ว และหนึ่งในกฏที่ว่านี้ก็มีข้อหนึ่งที่เกียวกับ ” การลดอุณหภูมิน้ำมันลง 15 องศาจากอุณหภูมิแวดล้อมก่อนเติมเข้าถัง ” ซึ่งทำให้เพื่อนๆหลายคนคงสงสัยไม่น้อยว่า การลดอุณหภูมิน้ำมันที่ว่านี้ ทำไปเพื่ออะไร ? ทำไปทำไม ? ทำแล้วได้อะไร ? ซึ่งเราก็ได้หาคำตอบตรงนี้มาให้เพื่อนๆได้รับทราบไปพร้อมๆกันเรียบร้อย ยังไงก็มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ ก่อนอื่น เพื่อนๆต้องทำความเข้าใจก่อนนะครับว่า “น้ำมันเชื้อเพลิง” ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ จะสามารถแปรผันความหนาแน่นตามอุณภูมิแวดล้อมรอบตัวมันเองอีกทีได้ง่ายมาก เนื่องจากโมเลกุลต้องการขยายตัวออกจากกันตามอุณหภูมิค่อนข้างสูง จึงส่งผลให้ปริมาตรของมันสามารถแปรเปลี่ยนได้ตามอุณหภูมิที่เปลี่ยนไป แต่แม้ปริมาตรของน้ำมันจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากโมเลกุลต้องการขยายตัวออกจากกันตามอุณหภูมิก็จริง ในส่วนของน้ำหนักตัวของมันกลับไม่ได้มีการเพิ่มตามแต่อย่างใด เพราะที่ปริมาตรเพิ่มขึ้นเกิดจากการที่โมเลกุลน้ำมันขยายตัวออกจากกัน ไม่ได้เกิดจากการเพิ่มจำนวนโมเลกุลภายในตัวน้ำมัน จากเหตุและผลด้านบน ถ้าจะยกตัวอย่างให้เข้าใจง่ายขึ้น ก็คงต้องดูในรูปที่เราแนบมาตรงนี้ ที่จะเห็นได้ว่าแม้น้ำหนักของน้ำมันจะอยู่ที่ประมาณ 16.5 กิโลกรัมเท่ากันทั้งสามถัง แต่พออุณหภูมิเปลี่ยนไป ปริมาตรของมันก็เปลี่ยนตาม คือถังแรก 15 องศาเซลเซียส ปริมาตรของมันจะอยู่ที่ 22 ลิตร และพอเพิ่มอุณหภูมิเป็น 25 องศาเซลเซียส ปริมาตรของน้ำมันก็จะขยับเพิ่มเป็น…
ย้อนไปตอนเมื่อราวๆ 6 ปีที่แล้ว (ปี 2013) การควอลิฟายแบบ Knock Out หรือ Q1 / Q2 ถูกนำเข้ามาใช้ในการคัดกริดสตาร์ทของนักบิด MotoGP เป็นครั้งแรก โดยจุดมุ่งหมายก็เพื่อเพิ่มความเข้มข้นและความสนุกในการติดตามผลที่มากกว่าการควอลิฟายแบบปกติ ซึ่งผลที่ได้ก็เป็นอย่างที่พวกเขาหวังเอาไว้ และในตอนนี้ทางคณะกรรมการก็มีมติตรงกันแล้วว่า พวกเขาจะใช้วิธีการควอลิฟายแบบนี้กับการแข่งขันในรุ่นเล็กกว่าอย่าง Moto2 และ Moto3 ในปีหน้าด้วย โดยสำหรับรูปแบบการฝึกซ้อมในเบื้องต้นก่อนการแข่งขันของทั้งในรุ่น Moto2 และ Moto3 จะยังคงแบ่งเป็น 3 เซสชันตามเดิม และสำหรับนักบิด 14 คนแรกที่สามารถทำเวลาในการฝึกซ้อมทั้ง 3 รอบได้ดีที่สุดของแต่ละรุ่น ก็จะได้รับสิทธิให้เข้าสู่การควอลิฟายรอบ Q2 โดยอัตโนมัติ ขณะเดียวกันนั้นเอง ในการควอลิฟายในรอบ Q1 จะมีนักบิดเพียงแค่ 4 คนแรกที่ทำเวลาได้ดีที่สุดเท่านั้น ที่จะได้รับโอกาสให้เลื่อนเข้ามากดเวลาหากริดสตาร์ทต่อในรอบ Q2 ซึ่งนักบิดทั้ง 4 คนที่ได้สิทธิ์ดังกล่าว จะได้รับยางหลังซอฟท์เพิ่มอีกคนละ…
แม้ว่าการแข่งขัน MotoGP 2018 จะพึ่งจบลงไปสุดๆร้อนๆเมื่อวานนี้ แต่ยังไม่ทันได้พักหายใจหายคอดี ทางคณะกรรมการก็ปล่อยข้อมูลกฏกติกาที่พวกเขาเตรียมจะเปลี่ยนและบังคับใช้ใน MotoGP 2019 ออกมา ซึ่งเราก็ขอนำข้อมูลที่ว่ามาบอกเล่าแบบคร่าวๆให้เพื่อนๆได้รับทราบกันครับ “ข้อมูลตัวรถ (Data Log)” ทางคณะกรรมการทางเทคนิค จะได้รับอนุญาต และสามารถโหลดข้อมูลตัวรถในกล่อง ECU ทั้งหมดของแต่ละทีม เข้าสู่ “คอมพิวเตอร์ส่วนกลาง” ของคณะกรรมการโดยตรง เพื่อให้ข้อมูลตัวรถที่โหลดมาผิดเพี้ยนน้อยที่สุด (ป้องกันการดัดแปลงก่อนส่งให้คณะกรรมการตรวจสอบ) และเมื่อข้อมูลทั้งหมดถูกตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว ทางกรรมการจะลบข้อมูลออกจากคอมพิวเตอร์ทันที “กล่อง ECU และ เซนเซอร์ IMU” ในปี 2019 จะไม่ได้มีแค่กล่อง ECU เท่านั้น ที่ต้องเป็นของส่วนกลาง แต่ชุดเซนเซอร์ IMU รวมถึงส่วนต่อพ่วงต่างๆที่เกี่ยวข้องก็ต้องเป็นของส่วนกลางด้วย นอกจากนี้ทางคณะกรรมการยังไม่อนุญาตให้ทีมแข่งปรับแต่ง หรือติดตั้งส่วนเสริมใดๆเพิ่มเข้าไป (เพื้อป้องกันการหลอกข้อมูลก่อนส่งเข้ากล่อง ECU) “ระบบเบรก” วัสดุที่ใช้ในการผลิตสาย/ตัวเชื่อมต่อปั๊มเบรก และ ลูกสูบภายในปั๊มจะถูกกำหนดโดยคณะกรรมการให้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น (เพื่อความปลอดภัยของนักบิด และคาดว่ากฏนี้น่าจะเริ่มคิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ของ Lorenzo…