อีกหนึ่งการแข่งขันอีสปอร์ตที่กำลังมาแรง สำหรับการแข่งขัน Honda eSports Championship บวกให้สุด อย่าให้อะไรมาหยุด – DOTA2 Tournament 2018 ที่จัดโดย เอ.พี.ฮอนด้า ร่วมมือกับสมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทย หรือ TESF (THAILAND E-SPORTS FEDERATION) และ Twitch สนับสนุนเด็กรุ่นใหม่ที่มีความมุ่งมั่น ไม่หยุดที่จะพัฒนาตนเอง ผลักดันเด็กที่เป็นเกมเมอร์ ให้เป็นเพลย์เยอร์ ต่อยอดเป็นนักกีฬา ตอกย้ำแบรนด์แคมเปญ WHAT STOPS YOU? มุ่งไป อย่าให้อะไรมาหยุด ที่สำคัญรางวัลก็เป็นที่สนใจสำหรับบรรดาเกมเมอร์อย่างมาก เพราะทีมผู้ชนะการแข่งขัน จะได้บินลัดฟ้าสู่ประเทศแคนาดา เพื่อนั่งติดขอบสนามรับชมการแข่งขัน TI8 (The International DOTA2 CHAMPIONSHIPS) พร้อมชิงเงินรางวัลมูลค่า 800,000 บาท เปิดโอกาสร่วมการแข่งขันได้ เพราะต้องการปลุกความฝัน เติมไฟในใจในการเป็นนักกีฬาอาชีพให้โชติช่วงอีกครั้ง เปิดโอกาสให้เกมเมอร์รุ่นใหม่ ไม่จำกัดเพศ จำกัดวัย…
Author: admin
CSC บริษัทผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สัญชาติจีนเปิดตัวรถมินิไบค์ไฟฟ้าน้องใหม่ที่ใช้พื้นฐานตัวรถจากเจ้า Break Out แต่ปรับเปลี่ยนขุมกำลัง, แหล่งพลังงาน, และระบบขับเคลื่อนใหม่ให้เป็นแบบ Full EV แทนที่เครื่องยนต์สูบเดียวขนาด 150cc ของเดิมเพื่อเอาใจลูกค้าสายเขียว (รักษ์โลก) โดยเฉพาะแล้วใช้ชื่อใหม่ประจำตัวรถว่า City Slciker สำหรับข้อมูลในเบื้องต้นของเจ้า City Slicker คันนี้มีอยู่ว่าชุดแบตเตอร์รี่ลูกใหม่ของมันนั้นสามารถจ่ายไฟให้มอเตอร์ไฟฟ้าสามารถขี่ได้ใกลสูงสุดถึง 100 กิโลเมตร (เมื่อขับด้วยความเร็วราวๆ 30 กิโลเมตร/ชั่วโมง) และสามารถทำความเร็งสูงสุดได้ที่ 75 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยที่น้ำหนักตัวรถนั้นออกจะสูงไปซักนิดคือราวๆ 150 กิโลกรัม ซึ่งเป็ฯข้อเสียดั้งเดิมของรถมอเตอร์ไซค์ระบบขับเคลื่อนแบบไฟฟ้านี้อยู่แล้ว ส่วนราคาในเบื้องต้นสำหรับจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นอยู่ที่ราวๆ 66,500 บาทซึ่งไม่ได้ดูแพงเกินไปเลยเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีที่ทางค่ายจัดมาให้ อ่านข่าว CSC Motorcycle เพิ่มเติมได้ที่นี่ อ่านข่าว มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ Motorival
เมื่อ 5 ปีก่อนทาง Kawasaki ได้ทำการเปิดตัวเจ้า J Concept มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 3 ล้อดีไซน์แปลกตาออกมา ซึ่งในตอนนั้นมันได้สร้างเสียงฮือฮาให้กับเหล่าผู้ที่สนใจอยู่พักใหญ่ จนกระทั่งต่อมาเมื่อต้นปีทางค่ายได้มีการปล่อยคลิปแสดงฟีเจอร์เด็ดของมันออกมาเพื่อย้ำกระแสอีกครั้ง และในวันนี้ก็ดูเหมือนว่ามันจะเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น หลังพวกเขาได้เริ่มจดสิทธิบัตรระบบขับเคลื่อนของรถคอนเซปท์คันนี้เรียบร้อยแล้ว แม้ว่าในตอนนี้จะยังไม่มีข้อมูล หรือรายละเอียดมากมายนักว่าทาง Kawasaki จะจดสิทธิบัตรชิ้นส่วน ล้อ และระบบบังคับเลี้ยว ไปเพื่ออะไร แต่จากแนวโน้มความเป็นไปได้ต่างๆ มีโอกาสสูงมากที่ชุดสิทธิบัตรใบนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจ็คท์ J Concept ซึ่งสังเกตุได้จากลักษณะของชุดขาสวิงอาร์ม, คอม้า, ดุมล้อ, และอื่นๆอีกมากมายที่ไม่น่าเป็นของคอนเซปท์รถคันอื่นไปได้ โดยจุดเด่นที่น่าสนใจของเจ้า Kawasaki J Concept คันนี้ก็คือมันมาพร้อมกับโหมดการขับขี่ที่ไม่ใช่แค่ปรับกราฟเครื่องยนต์เหมือนรถมอเตอร์ไซค์ทั่วไปเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการปรับลักษณะทางกายภาพของตัวรถให้แตกต่างไปจากเดิมตามความต้องการของผู้ขี่ด้วย ยกตัวอย่างเช่น Up Right Mode ที่จะปรับระบบกันสะเทือนหน้าและหลังให้หดเข้ามาเพื่อให้แฮนด์บาร์สูงขึ้น ดังนั้นผู้ขี่จึงต้องนั่งหลังตรงไปโดยปริยาย ซึ่งเหมาะกับการใช่งานที่ต้องการกระฉับกระเฉงสำหรับการขับขี่ในเมือง และ Attack Mode ที่จะปรับให้ระบบกันสะเทือนหน้า/หลัง ยืดออกจากกัน และแฮนด์บาร์ต่ำลง ส่งผลให้ผู้ใช้ต้องโน้มตัวไปข้างหน้าซึ่งเหมาะกับการขี่ขี่ด้วยความเร็วสูงๆมากกว่า ขอบคุณภาพจาก…
ย้อนไปเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา เราได้เคยนำเสนอไปแล้วว่าทาง Ducati มีแผนที่จะติดตั้งระบบเรดาร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวยานพาหนะที่อยู่รอบตัวในปี 2020 ซึ่งในวันนี้พวกเขาก็ได้กลับมาอีกครั้งพร้อมกับระบบความปลอดภัยที่ต่อยอดมาจากชุดเรการ์นี้อีกขั้น โดยเป็นการพัฒนาร่วมกันกับทาง Audi พร้อมตั้งชื่อให้กับระบบใหม่นี้ว่า “V2X” โดยหลักการการทำงานของระบบ V2X ที่ว่านี้ก็คือจะใช้ระบบเรดาร์บนตัวรถทั้งของมอเตอร์ไซค์ และรถยนต์ที่อยู่บนท้องถน ให้ทำงานร่วมกันคล้ายกับการสื่อสารระหว่างยานพาหนะแต่ละคัน และถ้าหากระบบสามารถตรวจจับแล้วพบว่ามียานพาหนะคันใดคันหนึ่งพุ่งเข้าหากันจนเสี่ยงที่จะเกิดการปะทะ ตัวระบบก็จะสั่งให้ตัวรถแจ้งเตือนด้วยสัญญาณใดสัญญาณหนึ่งว่ากำลังจะมีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น และอาจจะรวมถึงการสั่งระบบเบรกทำงานอัติโนมัติโดยไม่ต้องรอให้ผู้ใช้ชะลอตัวรถด้วยตนเอง สำหรับช่วงเวลาที่ Ducati กับ Audi คาดว่าจะใช้เพื่อพัฒนาและติดตั้งลงบนผลิตภัณฑ์ใหม่ๆของทางบริษัทนั้นคาดว่าจะเป็นช่วงก่อนถึงปี 2025 ตามแผนดำเนินงาน “Safety Road Map 2025” ซึ่งเราเชื่อว่ากว่าจะถึงเวลานั้นทั้งสองบริษัทน่าจะคิดค้นระบบอะไรเพิ่มเติมให้พวกเราได้สนใจกันอีกแน่นอน อ่านข่าวสาร Ducati เพิ่มเติมที่ได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ Motorival
Levis ยอดแบรนด์ในตำนานของประเทศอังกฤษที่เคยมีช่วงเวลาการทำตลาดในช่วงปี 1911-1940 ได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งในปี 2018 โดยในครั้งนี้พวกเขาไม่ได้แค่เปิดแบรนด์และเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์หน้าตาธรรมดาเหมือนค่ายทั่วๆไป แต่เลือกออกแบบดีไซน์ตัวรถใหม่ให้ดูล้ำสมัยและเป็นเอกลักษณ์มากกว่าใครเพื่อน อย่างเช่นเจ้า V6 Cafe Racer ที่เพื่อนๆกำลังเห็นอยู่ตอนนี้ โดยสำหรับจุดเด่นของเจ้า Cafe Racer คันนี้ที่นอกเหนือจากหน้าตา, ชุดเฟรม, และระบบกันสะเทือนแล้ว ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของเครื่องยนต์ V6 120 แรงม้าที่ออกแบบโครงสร้างใหม่หมดเพื่อให้มันเหมาะสมกับการใช้งานในรถมอเตอร์ไซค์ที่สุด ทั้งการปรับย้ายชิ้นส่วนพวกฟลายวีล, โซ่ราวลิ้น, พูลเล่ย์ และอื่นๆอีกมากมายไปไว้ด้านหลัง และออกแบบลำดับการจุดระเบิดเครื่องยนต์ใหม่ให้สามารถทำงานได้นุ่มนวลยิ่งขึ้น ส่วนชุดเกียร์เองทาง Levis ก็ได้ให้ข้อมูลเพิ่มอีกว่าโดยพื้นฐานแล้วชุดเกียร์นี่้ถูกออกแบบให้รองรับกับเครื่องยนต์ V10 ที่จะเปิดตัวในอนาคตด้วย นอกจากนี้ทาง Levis ยังกล่าวเสริมอีกว่าในปี 2020 ตัว V6 Cafe Racer จะมาพร้อมกับระบบซุปเปอร์ชาร์จซึ่งตัวรถที่ว่านี้จะผลิตด้วยจำนวนจำกัดสำหรับฉลองวาระครอบรอบ 100 ปีของค่าย นั่นจึงทำให้ราคาค่าตัวของมันอาจจะขยับขึ้นไปอีกพอสมควรจ เพราะตอนนี้ราคาของโฉมแสตนดาร์ดก็พุ่งไปอยู่ที่ราวๆ 4.43 ล้านบาทเข้าให้แล้ว เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ…
1970 Husqvarna 400 Cross ที่เพื่อนๆกำลังเห็นอยู่คันนี้ แท้จริงแล้วครั้งหนึ่งมันเคยเป็นของนักแสดง Hollywood ชื่อดัง Steve Mcqueen ซึ่งในปัจจุบันเพื่อนๆหลายคนคงไม่รู้จักกันเท่าไหร่นัก แต่ถ้าหากพูดถึงเหล่าสิงห์นักบิดยุคปี 70 น่าจะรู้จักกันดีเพราะฉายาประจำตัว “King of Cool” ของเขานั้นไม่ได้ตั้งมาเล่นๆเพื่อดึงดูดคนดูเท่านั้น แต่ Mcqueen คือคนที่ Cool ได้ทุกที่ และ Cool อย่างเป็นธรรมชาติในแบบที่ไม่มีใครเหมือนจริงๆ สำหรับข้อมูลในเบื้องต้นของเจ้า Husqvarna 400 Cross คันนี้นอกเหนือจากการเคยถูกครอบครองโดย Steve Mcqueen ก็คือมันเคยเป็นที่นิยมอย่างมากในการแข่งขัน Super Cross ยุคปี 70 เพราะประสิทธิภาพและชื่อชั้นที่ได้จากเครื่องยนต์สูบเดียว 2 จังหวะพิกัด 396cc กำลังสูงสุด 40 แรงม้าของมันถือว่าอยู่ในระดับต้นๆของรถมอเตอร์ไซค์แนวสแครมเบลอร์ในยุคนั้น โดยปัจจุบันนี้เจ้า 1970 Husqvarna 400 Cross…
เมื่อวานนี้ A.P. Honda เผยโฉมรถจักรยานยนต์ไฮบริดคันแรกของค่ายออกมาเป็นที่เรียบร้อย กับ New Honda PCX Hybrid พร้อมกับการทดสอบก่อนเปิดตัวจริงพร้อมกับการเผยราคาอย่างเป็นทางการในช่วงต้นเดือนหน้า ซึ่ง MotoRival เราขอมาตามนัด กับ รีวิว Honda PCX Hybrid ใหม่ ในครั้งนี้ เริ่มกันที่ภายนอก มองเผินๆ New Honda PCX Hybrid แทบจะไม่แตกต่างจากโฉมเดิม ดังนั้น เราขอมาโฟกัสเข้าที่จุดต่างเลยดีกว่าครับ ชุดสีรอบคันที่มีสีเดียว คือ “Hybrid Blue” ซึ่งสีนี้เป็นสีเฉพาะ สำหรับโฉมไฮบริดคันนี้ ขอบไฟหน้า/ไฟเลี้ยว มีการเพิ่มชิ้นส่วนพลาสติกสีฟ้าเข้าไปเพื่อบอกถึงขุมพลัง Hybrid ไฟท้ายขอบสีฟ้าอ่อนแบบเดียวกับไฟหน้า มาพร้อม Smoke Len รมดำ ติดเพลท “Hybrid” ที่กาบข้างตัวรถ (เพลทนี้เป็นแบบเดียวกับรถยนต์ Honda Hybrid) ขณะที่โลโก้…
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะครั้งหนึ่ง Tarso Marques เคยมีช่วงเวลาที่ได้แข่งขันบนรถแข่งล้อเปิดสูตร 1 ที่ได้ชื่อว่าเร็วที่สุดในโลกหรือไม่ ทำให้เจ้าตัวเลือกที่จะสร้างรถมอเตอร์ไซค์สุดแนวที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 300 แรงม้าช่ือว่า TMC Dumont Concept คันนี้ออกมา สำหรับข้อมูลในเบื้องต้นของ Dumont นั้นไม่ค่อยมีอะไรระบุเป็นหลักฐานมากมายนักนอกจากการออกแบบที่แหวกแนวสุดๆทั้งชุดเฟรม และชุดล้อไร้ก้านขนาดเส้นรอบวง 36 นิ้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเครื่องยนต์ Rolls-Royce Continental V6 ที่ Marques ได้จัดการยกออกมาจากเครื่องบินส่วนบุคคลมาติดตั้งลงไปบนตัวรถ สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่อยากดูว่าเจ้า TMC Dumont คันนี้จะน่าเกรงขามมากแค่ไหน ก็สามารถชมภาพเคลื่อนไหวของมันในคลิปที่เราแนบไว้ข้างล่างนี้ได้เลยครับผม เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ Motorival
หลังจากที่เล่นแง่กับทีมอยู่นาน รวมทั้งมีปัญหาให้ทะเลาะกันกับ Jonathan Rea อยู่เรื่อยๆในที่สุด Tom Sykes และ Kawasaki Racing Team ก็ได้ประกาศยืนยันแล้วว่าหลังจบการแข่งขัน World Superbike 2018 ทั้งสองฝ่ายจะไม่ทำงานร่วมกันอีกต่อไป โดยตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ Sykes ได้ย้ายเข้ามาร่วมงานกับ Kawasaki Racing Team ตัวเขาก็สามารถทำผลงานได้ดีมาแทบจะตลอดโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับในการแข่งขัน WSBK ปี 2013 ที่เจ้าตัวสามารถคว้าแชมป์ประจำฤดูกาลให้กับทีมมาได้ และในปีถัดๆมาเขาก็สามารถทำผลงานระดับหัวแถวให้กับทีมมาโดยตลอด (ถึงแม้จะไม่ได้แชมป์เพราะเสร็จเพื่อนร่วมทีมไปหมด แต่ก็จบตารางเป็นอันดับ 2 – 3 อยู่เรื่อยๆ) สำหรับทีมแข่งที่ Sykes น่าจะได้เข้าไปร่วมทีมในปีหน้านั้นมีเปอร์เซ็นต์สูงมากที่จะเป็น Redbull Honda ซึ่งยังคงต้องการนักบิดฝีมือดีให้มาทำงานร่วมกับทีมอยู่เรื่อยๆ เพราะตัวรถที่ทีมใช้อยู่นั้นค่อนข้างจะด้อยกว่าคู่แข่งทีมอื่นๆพอสมควร ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องใช้นักบิดฝีมือดีมาช่วยดันตัวแข่งให้สามารถทำผลงานเกาะหัวแถวได้เพื่อหักล้างกันไป (แต่ก็ไม่แน่ว่าในปีหน้าตัวแข่ง CBR1000RR ของทีมน่าจะได้การปรับเปลี่ยนชุดใหญ่อีกครั้งหากข้อมูลที่เราได้รับมาก่อนหน้านี้เป็นของจริง) อ่านข่าว WSBK เพิ่มเติมได้ที่นี่…
ในที่สุดก็ถึงเวลาเปิดตัว New Honda PCX Hybrid ในบ้านเราซักที หลังจากที่เผยโฉมกมาครั้งแรกเมื่อปลายปีก่อนที่ Tokyo Motor Show 2017 และวางจำหน่ายในประเทศเพื่อนบ้านรวมถึงแถบยุโรปตั้งแต่ช่วง 2-3 เดือนก่อนหน้า และถึงคราวคนไทยเราเสียที ดังนั้นไม่รอช้าเรามาเก็บรายละเอียดและจุดเด่นจากภายนอกให้เพื่อนๆได้ชมกันเลยดีกว่าครับ – ชุดสีรอบคันที่มีเพียงแค่สีเดียวเท่านั้นคือสี “Hybrid Blue” ซึ่งสีเฉดนี้ไม่ได้ถูกนำไปใช้กับ PCX 150 ใหม่ – บริเวณขอบไฟหน้า/ไฟเลี้ยว มีการเพิ่มชิ้นส่วนพลาสติกสีฟ้าเข้าไปเพื่อบ่งบอกความเป็นขุมพลัง Hybrid -ไฟท้ายตอนดับจะเป็นสีฟ้าอ่อน พร้อม Smoke Lens แต่ตอนบิดกุญแจรอสตาร์ทหลอดไฟจะสว่างเป็นสีแดงปกติ – ติดเพลท หรือเอมเบลมคำว่า “Hybrid” สีฟ้าไว้บริเวณกาบข้างตัวรถ ขณะที่โลโก้ Honda และ PCX เพลทจะเป็นสี Smoke – ประกับแฮนด์ด้านซ้ายมีการเพิ่มชุดสวิทช์ที่นิ้วชี้เข้ามาไว้สำหรับปรับโหมดการทำงานของเครื่องยนต์และระบ Hybrid ส่วนประกับขวามีการปรับเปลี่ยนหน้าที่การทำงานของสวิทช์ Idling Stop…