หลังทนร่วมมือกับ Honda มาได้ 2 ปี และกำลังเข้าสู่ปีที่ 3 ในฤดูกาลนี้ ดูเหมือนว่าทาง Marc DVS จะไม่สามารถทนกับความสองมาตรฐานของค่ายยักษ์ใหญ่นี้อีกต่อไป จนทำให้ในตอนนี้มีกระแสข่าวออกมาว่าทางทีมแข่งรายดังกล่าวได้ทำการเซ็นสัญญาเป็นทีมรองให้กับค่ายคนบ้า Suzuki ในปี 2019-2021 เรียบร้อยแล้ว เป็นที่ทราบกันดีว่านับตั้งแต่ทาง Marc VDS ได้ขึ้นมาทำทีมแข่งขันในระดับ MotoGP โดยมีตำแหน่งเป็นทีมรองให้กับ Honda นั้น พวกเขาต่างบ่นผ่านสื่อมาโดยตลอดว่าทางค่ายปีกนกไม่ได้ดูแลทีมของตนเท่าที่ควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการซัพพอร์ทอะไหล่ต่างๆ หรือแม้กระทั่งการช่วยเหลือเกียบกับการแก้ปัญหาและเซ็ทอัพตัวรถ ดังที่เราเห็นได้ถึงความต่างจากผลงานของเจ้าหนู Jack Miller ที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อย้ายมาอยู่กับ Pramac Team ที่ซัพพอร์ทรถโดย Ducati ซึ่งค่ายนี้ขึ้นชื่ออยู่แล้วในเรื่องความใจป้ำการสนับสนุนให้กับทีมรอง (ส่วนนึงอาจจะเป็นเพราะสไตล์การขับขี่ของหนู Jackass ที่เข้ากับตัวแข่ง Demosedici GP16 ได้ดีด้วย) สำหรับข้อมูลที่ว่าทาง Marc VDS จะย้ายไปร่วมงานกับ Suzuki ในฤดูกาลหน้านั้น แท้จริงแล้วได้มีกระแสออกมาตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา…
Author: admin
ย้อนไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ทางบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่อย่าง Volkswagen ได้แต่งตั้งนาย Herbert Diess ขึ้นมาเป็นประธานกรรมการผู้บริหาร หรือ CEO คนใหม่ ซึ่งดูเหมือนว่านโยบายหรือแนวทางการดำเนินงานของชายผู้นี้นั้นอาจจะทำให้แบรนด์ลูกอย่าง Ducati ไม่ได้อยู่ในร่มไม้ของยอดแบรนด์เยอรมันอีกต่อไป จากข้อมูลที่ได้ถูกลงไว้โดยสื่อธุรกิจชื่อดัง Reuters ได้ระบุไว้ว่า ในตอนนี้สิ่งที่ผู้บริหารใหม่ของ Volkswagen ต้องการจะทำเป็นอย่างแรกๆนับตั้งแต่นั่งเก้ากี้ในตำแหน่งนี้ก็คือการลดรายจ่ายต่างๆที่ไม่จำเป็นออกไป รวมถึงการหายอดกำไรเข้ามาสู่บริษัทให้มากที่สุด เพื่อนำมาแก้ปัญหาโกงมลพิษไอเสียเมื่อปี 2015 ที่จนบัดนี้ก็ยังแก้ไม่เสร็จกันซักที ดังนั้นวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะที่สุดในตอนนี้ในสายตาของนาย Diess ก็คือการขายแบรนด์ Ducati ออกไป และนอกจากเหตุผลในเรื่องการตัดรายจ่าย ดูเหมือนว่าจะยังมีอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ CEO รายนี้ต้องการขาย Ducati ออกไป นั่นก็คือความต้องการที่จะหาเงินทุนมาสมทบโปรเจ็ค “Roadmap E” ที่ว่าด้วยการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกในปี 2020 ก่อนที่จะผลิตอย่างเต็มรูปแบบในปี 2030 จากเหตุผลทั้งหมดที่เรากล่าวมาทำให้สรุปได้ว่าอนาคตของ Ducati คงไม่แน่นอนว่าจะอยู่กับ Volkswagen ได้อีกนานแค่ไหน จะรอก็เพียงแค่เวลาการประกาศอย่างเป็นทางการเท่านั้นเอง ซึ่งเราเชื่อว่าเหล่าผู้ให้ความสนใจคงไม่ต่างจากการเปิดขายครั้งก่อนแน่ๆ (การประกาศขายครั้งก่อนล่มในตอนสุดท้ายเพราะบอร์ดกลุ่มเก่าที่อยากเก็บแบรนด์ Ducati ไว้เนื่องจากมองเห็นกำไรในระยะยาว)…
มาตามนัดตรงกำหนดวันที่เราได้เคยเสนอไปก่อนหน้าเป้ะๆ กับ All-New Honda Vario ที่มีภาพ Spyshot หลุดออกมาเมื่อราวๆสัปดาห์ก่อนให้เห็นช่วงหน้าคร่าวๆ และในวันนี้เราก็จะพาเพื่อนมาพบกับภาพเต็มคันและตัวเลขสเปคทางเทคนิคแบบ Official ที่ถูกปล่อยโดยทาง Astra Honda Motor ให้ได้รับชมกันครับ สำหรับรถมอเตอร์ไซค์สกูตเตอร์ตระกูล Vario ถ้าเป็นบ้านเราจะรู้จักกันดีในชื่อ Honda Click ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าหน้าตาโดยรวมของ 2018 Honda Vario ที่พึ่งเปิดตัวใหม่โดย Astra Honda นั้นมีเส้นสายที่คล้ายคลึงกับ Click 125i ในบ้านเราที่ถือเป็นโฉมก่อนหน้า แต่ถ้าพูดถึงในเรื่องความแตกต่างก็มีให้เห็นอยู่ค่อนข้างชัดเจน โดยเฉพาะกับชุดไฟหน้า LED ที่ถูกปรับรายละเอียดใหม่ให้ถูกวางแยกชั้นกันกับแถบไฟเลี้ยว LED ที่ถูกย้ายไปด้านบนเหมือนกับสปอร์ตไบค์ร่วมค่าย CBR250RR ส่วนไฟท้ายเองก็มีการปรับหน้าตาใหม่เล็กน้อย รวมถึงชุดมาตรวัดที่ได้รับการปรับใหม่ให้เป็นแบบฟูลดิจิตอลกันซักที นอกจากนี้ในส่วนแฟริ่งถ้ามองจากสัดส่วนคร่าวๆจะเห็นได้ว่าตัวชุดแฟริ่งบังลมด้านหน้าตัวรถถูกลากขึ้นมาสูงขึ้นกว่าเดิม ส่วนชุดแฟริ่งครอบแฮนด์บาร์ที่อยู่เหนือขึ้นไปกลับถูกบีบให้เตี้ยลงอย่างเห็นได้ชัด แต่สำหรับกาบบังลมด้านข้างถูกปรับขนาดใหม่ให้บางลม ในขณะที่ชุดแฟริ่งด้านข้างก็มีการปรับดีไซน์ใหม่ให้มีความอวบอัดมากยิ่งขึ้น และสำหรับความเป็นไปได้ที่เจ้า All-New Honda Vario 125 จะมาเปิดตัวในบ้านเราในฐานะ…
เข้าสู่วันสุดท้ายของช่วงวันสงกรานต์กันซักที เชื่อได้เลยว่าจะต้องๆมีเพื่อนๆไม่มากก็น้อยใช้ช่วงเวลาหยุดยาวครั้งนี้ออกไปเล่นน้ำกันให้ฉ่ำปอด และเราก็เชื่ออีกว่าจะต้องมีเพื่อนๆอีกหลายคนที่พารถมอเตอร์ไซค์คู่ใจออกไปเล่นน้ำด้วย ซึ่งด้วยสถานการณ์แบบนี้คงหนีกลุ่มฝูงชนที่ขนแป้ง, ดินสอพอง, สีชอล์ค และอีกสารพัดมาปารถปะราของเราได้ยากสุดๆ (เผลอบางคนขับไปให้ปะเองเลยด้วยซ้ำ) ดังนั้นในคราวนี้เราก็จะมาแนะนำวิธีดูแลรักษารถคู่ใจของเราหลังฝ่าสงครามเย็นแบบเบื้องต้นให้เพื่อนๆได้ทราบกันครับ สิ่งแรกที่เพื่อนๆต้องพึงระลึกไว้ก่อนเลยก็คือทุกสิ่งอย่างที่เรากล่าวมาในข้างต้นอันได้แก่ ขนแป้ง, ดินสอพอง, สีชอล์ค ต่างเป็นของแข็งชิ้นเล็กๆที่พร้อมจะเสียดกันไปมากับชุดสีของเราได้ทั้งสิ้น ดังนั้นสิ่งที่เพื่อนไม่ควรทำหลังจากที่โดนสิ่งเหล่านี้ปะลงมาบนตัวรถก็คือการเช็ดถู เพราะชุดสีของเพื่อนๆอาจจะเป็นรอยขนแมวในภายหลัง และสิ่งที่เพื่อนๆต้องทำจริงๆก็คือปล่อยมันไว้อย่างนั้นเดี๋ยวใครๆเค้าก็สาดน้ำล้างเอง แล้วหลังจากนั้นเราจึงค่อยกลับบ้านมาล้างรถกันอีกรอบ แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงการล้าง งานนี้ถ้าใครมีตังค์ก็ไปจ้างสามารถใช้บริการคาร์แคร์ให้ทางร้านจัดการให้ แต่สำหรับใครที่อยากล้างด้วยตนเอง เราขอแนะนำว่าขณะที่ฉีดน้ำลงไปบนตัวรถนั้น ควรก้มลงไปดูตามซอกหลืบต่างๆรอบคันเพื่อดูว่ามีเศษผงอะไรติดอยู่บ้างให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะถ้าหากเราปล่อยไว้ตัวผงเหล่านี้อาจจะกัดชุดสีเราจนเป็นด่างเป็นรอยกันซะดื้อๆ (ก็ไม่ได้กัดเยอะอะไรมากมาย แต่ถ้าเป็นไปได้เราก็ไม่อยากให้กัดหรอกจริงมั้ยครับ) และถ้าใครว่างๆมีอุปกรณ์ครบๆพอก็จัดการลงแว็กซ์รอบคันตั้งแต่แฟริ่งยันเบาะนั่งด้วยเลยก็ดีครับ ไหนๆก็ใช้เวลาขัดล้างกันขนาดนี้แล้ว เพิ่มเติมอีกนิดสำหรับใครที่พบว่ามีเศษผงติดอยู่ที่แผงหม้อน้ำ เราขอแนะนำว่าให้ใช้น้ำเบาๆไล่เอาเท่านั้นนะครับ อย่าเผลอไปกดปลายสายยางให้น้ำพุ่งออกแรงๆเพราะหวังจะไล่ฝุ่นเข้าล่ะครับ แผงหม้อน้ำล้มหมดก็ตัวใครตัวมันล่ะครับทีนี้ และสิ่งสุดท้ายที่เราอยากให้ทำก็คือการตรวจสอบความเรียบร้อยของตัวรถ ซึ่งโดยหลักๆที่เราอยากให้เพื่อนๆได้ตรวจสอบก็คือชุดสายไฟต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับขั้วปลั๊กทั้งหลาย ว่ายังมีเศษอะไรติดอยู่หรือไม่ถ้ามีก็หาของเล็กๆแหลมๆอะไรก็ได้มาเขี่ยออกไป แต่ในจุดนี้อาจจะต้องระวังกันซักหน่อยอย่างไปเขี่ยขั้วไฟจนบิดเบี้ยวซะล่ะครับ อ่าน Tips Trick เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ Motorival
แม้เหตุการณ์จะผ่านไปได้เกือบหนึ่งสัปดาห์แต่ยังคงมีบทสัมภาษณ์ถึงการแข่งขัน MotoGP ที่สนาม Termas de Rio Hondo ประเทศอาร์เจนติน่า ออกมาให้ได้ติดตามกันอยู่เรื่อยๆ โดยบทสัมภาษณ์ล่าสุดที่เรากำลังจะพูดถึงนี้มาจากอีกหนึ่งยอดตำนาน WorldGP “คาวบอยเดือด – เควิน ชวานท์” ได้ออกมาเอ่ยว่า “Marc Marquez ควรได้รับการทัณฑ์บน” “ผมว่าเค้าได้รับการลงโทษไปแล้วกับสิ่งที่เค้าทำ”, “แต่ไงก็ตามผมคิดว่าเค้าควรโดนฑันบนกับสนามที่เหลือตลอดฤดูกาลการแข่งขัน”, “เค้าต้องอธิบายทุกสิ่งที่เค้าทำ และถ้าเกิดเค้าไปปะทะกับใครอีกที เค้าต้องโดนสั่งให้หยุดในทันที” “ความจริงก็คือ แม้ว่าเค้าจะทำพลาดเพราะเบรกแตก หรือแหกโค้งเพราะใช้ความเร็วสูงไป แต่ยังไงเค้าคือแชมป์ เค้าต้องรู้สิว่าเมื่อไหร่ที่เร็วเกินไปก่อนไปที่ไปชนกับคนอื่นเข้า”, “ดังนั้นถ้าในเมื่อเค้ารู้อย่างนั้นแล้ว แต่ยังชนอยู่การตัดสินโดยกรรมการมันก็ต้องมี”, “มันไม่ใช่ว่าชนคนอื่นแล้วมาบอกทีหลังว่า ‘ขอโทษ ผมผิดเอง’ แล้วจะจบแค่นั้น เราทุกคนก็รู้ดี” “นักบิดแต่ละคนล้วนมีโอกาศที่จะทำพลาดได้ แต่ไม่ใช่ว่าเค้าจะมาสร้างข้อผิดพลาดเองแล้วทำให้นักบิดคนอื่นเดือดร้อนแบบนี้” ขอบคุณข้อมูลจาก Motorsport.com อ่านข่าว MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ Motorival
แม้ว่าละคร “บุพเพสันนิวาส” จะจบไปได้สักพักนึงแล้ว แต่ด้วยความสนุกในเนื้อหาของละครทำให้ยังมีกระแสห้อยท้ายให้ได้ติดตามกันอยู่เนืองๆ ซึ่งอีกประเด็นหนึ่งที่ทำให้สาวๆตามติดไม่แพ้เนื้อเรื่องก็คือเหล่าดารานักแสดงชายที่ได้ร่วมบทบาทเป็นเจ้าขุนมูลนายในละคร และเมื่อเราได้ลองพูดถึงชีวิตประจำวันของพวกเขาแล้ว ส่วนใหญ่ต่างก็มีบิ๊กไบค์ไว้ในครอบครองเพื่อขับขี่กันในวิถีเดียวกันกับเราเช่นกัน ดังนั้นในวันนี้เราจึงจะขอพาเพื่อนๆไปชมเหล่ามอเตอร์ไซค์ของเจ้าขุนมูลนายที่เรากล่าวถึงกันครับ มาเริ่มกันเลย โป๊ป ธนวรรธน์ ผู้รับบทพระเอกของเรื่อง “หมื่นสุนทรเทวา” ผู้มาพร้อมกับรถครุยเซอร์คู่ใจ Harley-Davidson Forty-Eight สีส้มที่ได้รับการตกแต่งนิดหน่อยเพื่อให้เข้ากับรสนิยมของตนเอง ด้าน หลุยส์ สก็อต ผู้รับบท “คอนสแตนติน ฟอลคอน” หรือ “หลวงสุรสาคร” ตัวร้ายหลักในละคร ซึ่งในชีวิตจริงของหนุ่มหลุยส์นั้นก็แรงไม่แพ้กันเพราะนอกจาก KTM 1190 Adventure ที่มีไว้สำหรับเดินทางไกลแล้ว ตัวเขาเองยังมีทั้ง Harley-Davidson Nightrod ที่ได้รับการคัสตอมหน้าตาภายนอกใหม่จนแทบจะจำไม่ได้ไว้ใช้ขับเล่นในกรุงเทพฯ และมี Triumph Daytona 675R ไว้สำหรับหวดเล่นในสนามไปพร้อมๆกับเพื่อนๆนักแสดงคนอื่นๆด้วย ต่อมาเป็น เก่ง ชาติชาย ผู้รับบท “โกษาปาน” ผู้ซึ่งถือเป็นสาวก Harley-Davidson อันดับต้นๆของประเทศไทยเราเลยทีเดียว ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ถ้าเราจะเห็น “พ่อปาน”…
แม้ว่าทางทีมแข่ง WSBK ของ Honda จะได้รับ CBR1000RR SP2 มาเป็นตัวแข่งคันใหม่ประจำทีมตั้งแต่ปี 2017 แต่ผลงานในสนามตลอดทั้งฤดูกาลกลับไม่สามรถทำได้ดีอย่างที่ควร ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าตัวระบบอิเล็กทรอนิกส์ของ Cosworth ที่ทางทีมใช้นั้นอาจจะยังดีไม่พอที่จะรีดเค้นประสิทธิภาพเครื่องยนต์สี่สูบเรียง 1,000cc ของตัวแข่งคันดังกล่าวได้ และในที่สุดทาง Kervin Bos ผู้จัดการใหญ่ของ RED BULL HONDA WORLD SUPERBIKE TEAM ก็ได้ออกมาประกาศว่านับตั้งแต่การแข่งขัน WSBK สนามที่ 3 เป็นต้นไป ทางทีมจะใช้บริการ Magneti Marelli ซึ่งมีดีกรีเป็นถึงผู้สนับสนุนระบบ ECU กลางในการแข่งขัน MotoGP มาเป็นซัพพลายเออร์ในส่วนของระบบอิเล็กทรอนิกส์ของตัวรถทั้งหมดเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของเครื่องยนต์ให้ทำงานได้เต็มที่มากขึ้น งานนี้สำหรับใครที่เป็นสาวกปีกนกคงใจชื้นกันขึ้นมาอีกบ้างพอสมควร เพราะนับตั้งแต่แชมป์ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2007 ทาง Honda ก็ยังไม่เคยมีลุ้นพุ่งชนแชมป์รายการ WSBK ได้เลยซักครั้งเดียว อ่านข่าว WSBK เพิ่มเติมได้ที่นี่ อ่านข่าว…
หากพูดถึง Erik Buell เชื่อเลยว่าใครหลายคนคงคิดว่าแบรนด์นี้ถือเป็นแบรนด์ที่ตายไปแล้วหลายรอบ และก็ฟื้นขึ้นมาอีกหลายรอบโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับในช่วง 20 ปีให้หลังมานี้ ซึ่งล่าสุดหลังจากที่ทางแบรนด์ได้ประกาศปิดตัวไปเมื่อกลางปีก่อน ก็ดูเหมือนว่าพวกเขาจะกลับมาทำตลาดรถมอเตอร์ไซค์อีกครั้ง แต่ไม่ใช่ภายในชื่อ EBR และไม่ใช่รถมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์สันดาปภายในอีกต่อไปอีกด้วย โดยสำหรับชื่อใหม่ของแบรนด์ EBR ที่เรากำลังกล่าวถึงอยู่ตอนนี้ก็คือ “VanguardSpark Motorcycles” ซึ่งเป็นการรวมตัวของอีกสองผู้ผลิตชื่อดังจากสองวงการ ได้แก่ Vanguard Motorcycle ที่มีชื่อจากการสร้างรถมอเตอร์ไซค์สุดเอกคลูซีฟดีไซน์ไม่เหมือนใครอย่าง “Vanguard Roadster” ส่วนผู้ผลิตอีกรายก็คือ Spark Racing Technology ที่มีประวัติโชกโชนในเรื่องของระบบมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอร์รี่เนื่องจากบริษัทนี้คือหนึ่งในซัพพลายเออร์หลักของเวทีการแข่งขัน Formula E และในส่วนข้อมูลตัวรถโมเดลแรกที่ทางแบรนด์ VanguardSpark จะเปิดตัวก่อนนั้นจะมีอยู่ทั้งหมดสองรุ่นด้วยกัน นั่นก็คือ “SpeedBike” ที่จะปรากฏตัวในรูปโฉมของจักรยานต์ไฟฟ้าและ “Commuter” ที่จะปรากฏตัวในรูปแบบของแน็คเก็ทไบค์ไฟฟ้าเฟรมโมโนค็อก ดังรูปที่เราแนบมา อ่านข่าวสาร Erik Buell Racing เพิ่มเติมได้ที่นี่ อ่านข่าวสาร มอเตอร์ไซค์ไฟ้า เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers…
จากการแข่งขัน MotoGP สนามล่าสุดเมื่อต้นสัปดาห์ที่ได้เกิดเหตุการณ์ดราม่ามากมาย และหนึ่งในนั้นก็รวมถึงการที่ Marc Marquez ได้ถูกกรรมการสั่งให้ตัวเขาต้องขับรถวนเข้าพิทระหว่างการแข่งขัน หรือที่เรียกกันว่า “Ride Through Penalty” เนื่องจากปัญหาในช่วงสตาร์ท ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่าแท้จริงแล้วนักบิดรายนี้ได้ทำผิดกฏอะไรบ้าง ถึงต้องโดนบทลงโทษดังกล่าว ดังนั้นในวันนี้เราจะมาพูดถึงกติกาในเรื่องดังกล่าวกันครับ ก่อนอื่นเราต้องย้อนไปยังช่วงเวลาเกิดเหตุที่เริ่มจาก “การเครื่องดับบนกริดสตาร์ท” อย่างหาสาเหตุไม่ได้ของตัวแข่ง Honda RC213V ของ Marquez จนทำให้นักบิดรายดังกล่าวต้องยกมือเพื่อแจ้งกรรมการว่ารถของตนมีปัญหา แต่ก็ไม่มีใครทันสังเกตุ และในที่สุดเค้าก็เลือกที่จะเข็นรถออกมาเพื่อทำการกระตุกสตาร์ท หลังจากนั้นต่อมาไม่นานนักทางผู้คุมสนามก็ได้เข้ามาพูดคุยอะไรบางอย่างกับ MM93 แล้วปล่อยมือให้นักบิดรายนี้ “ขับรถวกกลับไปยังจุดกริดสตาร์ท” ของตนเพื่อทำการแข่งขันต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เอาล่ะครับจากจุดนี้จะเห็นได้ว่าในข้อความที่เราได้ทำสัญลักษณ์ไว้นั่นแหล่ะครับคือสิ่งที่ผิดกฏสนาม นั่นก็คือ “เหตุการณ์เครื่องดับบนกริดสตาร์ท” และ “การขับรถวกกลับในแทร็คเพื่อไปที่กริดสตาร์ท” โดยการกระทำผิดข้อแรกของ Marc นั้น อย่างที่เราได้บอกไปแล้วว่าเครื่องยนต์ของตัวแข่ง RC213V นั้นได้ดับอย่างไม่ทราบสาเหตุซึ่งถือเป็นเหตุสุดวิสัย และเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ทางคณะกรรมการก็ได้ตั้งกฏเอาไว้ว่า “หากนักบิดคนใดก็ตามพบปัญหาเครื่องดับบนกริดสตาร์ทหรือเจอปัญหาใดๆก็ตาม นักบิดรายดังกล่าวจะต้องรออยู่เฉยๆบนรถและส่งสัญญานแจ้งคณะกรรมการเท่านั้น” นั่นจึงหมายความว่าถ้าจะให้ถูกต้องจริงๆ Marc จะต้องยกมือรอจนกว่ากรรมการจะเข้ามาตรวจสอบปัญหาก่อนเท่านั้น แล้วจึงจะกระทำการใดๆอื่นได้ แต่เราจะเห็นได้ว่านักบิดรายนี้ได้ทำการลงมาเข็นกระตุกรถทันทีโดยที่ไม่รอกรรมการออกมาตรวจสอบซะก่อน…
Mutt Motorcycle อาจจะดูเป็นชื่อที่ไม่คุ้นหูคนบ้านเราเลยซักนิด เพราะแบรนด์นี้ไม่เคยมีข่าวคราวว่าถูกนำเข้ามาจำหน่ายเลย แต่เชื่อเถอะครับ ว่าเจ้า “Fat Sabbath” >สแครมเบลอร์ไบค์สีดำทะมึนคันนี้คือรถมอเตอร์ไซค์ที่เพื่อนๆอยากด้ไว้ครอบครองซักคันแน่นอน ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าแท้จริงแล้วแบรนด์ Mutt Motorcycle ก็คือสำนักตกแต่งคัสตอมไบค์ในสหราชอาจักร ดังนั้นเจ้า “Fat Sabbath” คันนี้จึงถูกสร้างขึ้นด้วยชิ้นส่วนที่ผลิตจากหลากหลายแหล่ง และส่วนมากจะผลิตด้วยมือ ยกตัวอย่างเช่น ชุดโครงหลักตัวรถ, บังโคลนหน้า, ตะแกรงครอบไฟหน้า, ท่อไอเสีย, เบาะนั่ง, แฮนด์บาร์ต่าง, และสวิงอาร์มหลัง จากนั้นจึงตามด้วยการติดตั้งชิ้นส่วนอื่นๆที่ทำสำเร็จรูปมาแล้วเข้าไว้ด้วยกันทั้ง หลักๆก็จะเป็นชุดล้อซี่ลวด, โคมไฟ, และโช้กคู่หน้า ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าชิ้นส่วนใดก็ตามที่สามารถทำให้เป็นสีดำได้ทาง Mutt ก็จะจัดการทำให้เป็นสีดำทั้งหมดเพื่อความขรึมของตัวรถ ด้านเครื่องยนต์เป็นแบบสูบเดียวขนาด 125cc ที่หยิบยืมมาจากเรโทรไบค์ยุคเก่าของ Suzuki อย่าง GN125 มาปรับปรุงใหม่ให้สามารถผ่านมาตรฐานไอเสียสุดเข้มงวด Euro4 สามารถสร้างแรงม้าได้สูงสุด 12 HP และสามารถทำความเร็วได้สูงสุดที่ 70 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 112.6 กิโลเมตร/ชั่วโมง…