เมื่อวันที่ 24 เมษายน ที่ผ่านมาทาง Burn Rubber (KTM Thailand) ได้จัดทริป Press Ride เชิญสื่อมวลชนทดสอบ 2018 KT Duke 390 ใหม่ ซึ่งได้เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมานี้ โดยทีมงาน MotoRival เราได้รับเกียรติเข้าร่วมทดสอบด้วย จึงขอมา รีวิว 2018 KTM Duke 390 ใหม่ นี้กันครับ
โดยกิจกรรมในครั้งนี้ได้เริ่มเส้นทางจาก Showroom KTM ที่ A-Square กรุงเทพฯ – ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งทางทีมงานเราได้รับบทควบเจ้า Duke 390 จาก ชะอำ – กทม. ในช่วงบ่าย
ทำให้เราได้มีโอกาสทดสอบสมรรถนะ ทั้งทางโค้ง ถนนโล่ง และรถติด กันครบทุกรูปแบบเลยทีเดียว กับระยะทางการเดินทางร่วมๆเกือบ 200 กม. เอาล่ะพร้อมแล้วมาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
มาเริ่มกันที่รูปโฉมภายนอก
2018 Duke 390 ได้เปลี่ยนดีไซน์ไฟหน้าใหม่เป็นโคม LED แยกส่วนซ้ายขวา มีแถบ DRL ล้อมกรอบไว้ ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าจะให้มันเปิด-ปิด อัตโนมัติทันทีที่บิดกุญแจเลยหรือไม่
ตัวไฟเลี้ยวด้านหน้า ได้มีการทำตำแหน่งยึดไฟเลี้ยวใหม่ ไม่ได้ติดอยู่บนหน้ากากแบบรุ่นเดิมอีกต่อไป
ชิ้นกาบแฟริ่งด้านข้างลากยาวไปจนถึงด้านหลัง ให้อารมณ์เดียวกับพี่ใหญ่ Super Duke R ได้เป๋็นอย่างดี
ตัวแชสซีส์แบบ Steel Trellis ได้มีการเปลือยซับเฟรมหลังออก ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ตัวแชสซีส์หลัก (สีส้ม) ถูกแยกออกจาก Sub Frame หลัง (สีขาว) ด้วยการตกแต่งเป็นแบบทูโทนเช่นนี้ สร้างความดุดันเหมือน The Beast พี่ใหญ่ Super Duke R
ไฟท้าย LED ใหม่ ลักษณะเดียวกับไฟหน้า แยก 2 ฝั่ง
ท่อไอเสียปรับใหม่เป็นแบบออกข้าง แทนออกใต้ท้อง
ชุดล้อเป็นแบบอลูมินัมอัลลอยหล่อ 5 ก้านตัว Y ขอบ 17 ขนาดหน้ากว้าง 3″ ทางล้อหน้า และ 4″ ทางล้อหลัง รัดด้วยยาง Michelin Pilot Street Radial ไซส์ 110/70 ZR 17 สำหรับล้อหน้า และ 150/60 ZR 17 สำหรับล้อหลัง ถือเป็นการเปลี่ยนผู้ผลิตยาง OEM รายที่ 3 ของทางค่าย
ชุดมาตรวัดเป็นจอสี TFT Display แสดงรายละเอียดทุกอย่างเป็นแบบดิจิตอลทั้ง รอบเครื่องยนต์ ความเร็ว ตำแหน่งเกียร์ ความร้อนเครื่องยนต์ ระดับน้ำมันในถัง แรงดันไฟฟ้า แจ้งเตือนขาตั้งข้าง อัตราบริโภคน้ำมัน ชิฟไลท์ วันที่ เวลาโลก ระยะทางรวม ระยะทางทริป A/B ความเร็วเฉลี่ยตลอดทริป ระยะเวลารวมตลอดการเดินทาง ระยะทางที่ไปต่อได้เมื่อเทียบกับปริมาณคงเหลือในถัง ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะเข้าถึงข้อมูลตรงไหนบ้าง ไปจนถึงการเลือกหน่วยวัด จากปุ่มกดขนาดใหญ่บนประกับแฮนด์ด้านซ้ายมือ
นอกจากนี้ยังมีแพ็คเกจเสริมที่สามารถติดตั้งเพิ่มได้อย่าง KTM MY RIDE ที่สามารถเชื่อมต่อกับ Smartphone เพื่อเข้าสู่โหมดนำทาง ฟังเพลง รับสาย ที่ผสานการทำงานเข้ากับหน้าจอ TFT โดยสามารถสั่งงานได้จากปุ่มเมนูบนแฮนด์ของรถ (ติดตั้งเพิ่ม 1,200 บาท)
ก้านเบรก และก้านคลัทช์ สามารถปรับระดับได้ 5 ระดับ
มิติรถ
ระยะฐานล้อ 1,357 มิลลิเมตร สั้นกว่าโฉมก่อนหน้าลงมา 10 มิลลิเมตร
ความสูงเบาะ 830 มิลลิเมตร ความสูงใต้ท้อง 185 มิลลิเมตร
ความจุถังน้ำมัน 13.4 ลิตร (มากกว่าเดิมถึง 2.4 ลิตร)
น้ำหนักเพียง 149 กก. (Dry Weight)
ท่านั่งการควบคุม
จากความสูงเบาะ 830 มม. ที่ถือว่าค่อนข้างสูง แต่ตัวเบาะไม่กว้างมากนัก ผู้ทดสอบสูง 174 ซม. สวมรองเท้าผ้าใบ ยังยืนเหยียบได้เต็ม 2 เท้า แบบเข่างอเล็กน้อย
ด้านตำแหน่งท่านั่ง ถูกปรับให้เป็น Naked Sport มากกว่าเดิม จากสไตล์เดิมจะออกเป็นแนว Moto หลังตรง แขนแบะๆ
โดยรวมแล้ว 2018 Duke 390 ใหม่ รู้สึกว่าขี่แล้ว สบายขึ้นกว่าเดิม ไม่เมื่อยเท่าเดิม ตำแหน่งแขนจะต่ำลงกว่าเดิมอีกเล็กน้อย
ขณะที่ Wheelbase สั้นลง ทำให้ขี่คล่องตัวกว่าเดิมในเมือง แบบรู้สึกได้ (แต่ยังติดกระจก และตำแหน่งแฮนด์บาร์ ที่อยู่ในระนาบเดียวกับรถยนต์เป็นส่วนใหญ่ แต่ก็แลกด้วยการเข้าโค้งที่อาจจะไม่กระชับเท่าเดิมนัก
เครื่องยนต์ ยังคงเป็นพื้นฐานเดียวกับรุ่นก่อนหน้า สูบเดียว DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ ความจุ 373.2cc กำลังสูงสุด 44 แรงม้า ที่ 9,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 37 นิวตันเมตรที่ 7,000 รอบ/นาที จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด สั่งการเครื่องยนต์ด้วยระบบคันเร่งไฟฟ้าและควบคุมการจ่ายน้ำมันผ่านกล่อง ECU จาก BOSCH ระบบส่งกำลังเกียร์ธรรมดา คลัชท์มือ 6 สปีด เสริมด้วยระบบป้องกันล้อหลังกระชากจากการลดเกียร์กะทันหัน PASCTM slipper clutch
จุดที่สัมผัสได้ตั้งแต่แรก คือ น้ำหนักคลัทช์ มันหนักมือกว่าเดิม บวกกับเสียงเครื่องยนต์ ท่ี่เป็นเอกลักษณ์ ออกเสียงแปล่งๆ นั้น ได้หายไปแล้ว เนื่องจาก Duke 390 ใหม่ ปรับท่อไอเสียเป็นแบบออกข้าง แต่ก็ยังออกเสียงแตกๆ อยู่เล็กน้อย
ด้วยการหันมาใช้ระบบคันเร่งแบบไฟฟ้า โดยรวมแล้วการเปิดคันเร่งดูจะมาทันใจกว่าแบบสาย ในโมเดลเดิม
กระแทกคันเร่งออกตัว รถสามารถรีดทอร์ค มาได้อย่างทันใจ รอบเครื่องตั้งแต่ 4,000rpm+ เปิดคันเร่งยาวๆ จะพบแรงดึงแบบต่อเนื่อง ขี่ได้สนุกมันส์มือ จี๊ดจ๊าดเร้าใจ แต่อาจต้องระวังในจังหวะเปิดคันเร่งออกโค้งให้ดี เนื่องจากรถเบา และระยะฐานล้อสั้นกว่าเดิม เผลอมันส์มือเปิดคันเร่งออกโค้งมากไปหน่อย ตอนรถยังไม่ตั้งตรง อาจมีท้ายดิ้นให้ สนุกกันได้
สำหรับ Top Speed ในโมเดลนี้ ล็อกรอบที่ 170 กม./ชม.@10,500rpm ซึ่งในช่วงที่ความเร็วเราไต่ถึง แล้วโดนตัดรอบของเครื่องยนต์ ก็แอบหนักจนทำให้เรามีเหวอ เหมือนกัน ซึ่งหากปลดล็อกกล่อง ECU น่าจะไหลไปได้ถึง 180 กม./ชม. หรืออาจจะมากกว่านั้น แต่อย่างไรก็ดี เราต้องเรียนตามตรงว่า Duke 390 หน้าเบาทำให้ การขี่ที่ระดับความเร็วกว่า 140 กม./ชม.+ จะพบอาการหน้าแกว่งอยู๋บ้างตามสไตล์ Naked Bike ที่น้ำหนักตัวค่อนข้างเบา (ในวันที่ผู้ทดสอบ คาดว่าลมยางหน้าจะแข็งไปด้วยจึงอาจเป็นผลให้หน้าส่ายมากกว่าปกติ)
ชุดระบบกันสะเทือน ยังคงเป็นของ WP ทั้งหมด โดยในส่วนของโช้กอัพหน้าแบบตะเกียบคู่หัวกลับขนาดแกน 43 มิลลิเมตร ระยะยุบตัวจะลดลงมาอยู่ที่ 142 มิลลิเมตร
ในขณะที่ด้านหลังเป็นแบบโช้กอัพเดี่ยวปรับแข็ง/อ่อนได้ ระยะยุบ 150 มิลลิเมตร
โดยรวมในเรื่องของ Performance ความหนึบยังการันตีได้จากแบรนด์ White Power
การซับแรงทำได้ดี ไม่ว่าจะขี่ผ่านทางขรุขระ อย่างพื้นที่เป็นหลุมเป็นบ่อ แค่ยกก้นนิดๆ ก็ ขี่รูดผ่านไปได้อย่างสบายๆ ไม่รู้สึกถูกกระแทกจนขึ้นข้อมือ ขึ้นไหล่ แต่จุดหนึ่งที่รู้สึกถึงความแตกต่างก็คือ เมื่อเบรกรถหนักๆ Duke 390 ใหม่ หน้าจะดูจมมากกว่าเดิมจาก ระยะยุบตัวที่สั้นลง
ชุดระบบเบรก ด้านหน้าเป็่นแบบจานเดี่ยวขนาด 320 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับเรเดียลเมาท์คาลิปเปอร์เบรก 4 ลูกสูบจาก Bybre (By Brembo) ด้านชุดเบรกหลังเป็นแบบจานเดี่ยวขนาด 230 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์สูบเดี่ยวจาก Bybre เช่นกัน พร้อมกันนั้นก็มีระบบ ABS สุดฉลาดรุ่น 9.1 MP ของ BOSCH ซึ่ง ถือได้ว่าระบบเบรกนี้พัฒนาไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด ทั้งมีให้ปรับโหมดได้ ไม่ว่าจะ Off (ปิด ABS), Road (เปิด ABS ทั้งหน้า และ หลัง) และ Supermoto (ปิด ABS เฉพาะล้อหลัง)
การใช้งานในตัวเก่าที่รู้สึกไม่หนึบเท่าไร แถม ABS ก็ปิดไม่ได้ด้วย ยิ่งทำให้กะระยะเบรกยากไปใหญ๋ มาใน Duke 390 ใหม่ นี้ มันพัฒนาไปมาก เบรกดูดติดจิกนิ้ดีมาก เบรกชะลอความเร็วลงได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องลงน้ำหนักกันเยอะ จนถึงขั้นให้ ABS ทำงานในแบบโมเดลเก่า
สรุป 2018 DUKE 390 ใหม่ ยังถือเป็น Naked Street ที่มีการปรับโฉมเจ้าตัวจี๊ด นี้หลายด้าน
ไม่ใช่เพียงรูปลักษณ์ แต่ยังมากับเทคโนโลยี ที่ทันสมัย และระบบเบรกที่สามารถปรับได้ตามต้องการแล้ว และดูจะตอบสนองได้ดีกว่าเดิม
ขณะที่เครื่องยนต์ ยังแรงสุดใน Entry Class แบบสูบเดี่ยว + น้ำหนักตัวที่เบา ทำให้มันคล่องตัวกว่าเดิม
เรียกได้ว่า 2018 KTM Duke 390 ใหม่ เป็นรถ Naked น้ำหนักเบา สำหรับผู้ที่ต้องการความคล่องตัว ที่ตอบโจทย์การใช้งานทั้ง ถนนในเมือง ยันขี่ออกทริปไกลๆ ก็ไปได้สบายๆ
สำหรับ 2018 KTM DUKE 390 ราคา 209,900 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีส้ม และสีขาว
ขอขอบคุณ Burn Rubbers สำหรับ ทริปทดสอบ Press Ride ในครั้งนี้ครับ
ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver
อ่าน รีวิว อื่นๆเพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าว KTM เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ
-
- ภากจาก 2018 KTM 390 Duke
