ทั้งๆที่ทีมเมทสายตรงอย่าง Andrea Dovisiozo สามารถทำผลงานได้ถึงขึ้นลุ้นแชมป์โลกในสนามสุดท้ายฤดูกาล 2017 แต่ในขณะเดียวกันนั้นนักบิดดีกรีแชมป์โลก 5 สมัยอย่าง Jorge Lorenzo กลับไม่สามารถพุ่งชนแชมป์ได้เลยซักสนามกับตัวแข่ง Desmosedici GP17 (จริงๆผลแข่งใน 2 สนามนัดเปิดฤดุกาล 2018 ก็แย่ไม่แพ้กัน) จนทำให้สถานการณ์ของตัวเขาในตอนนี้ค่อนข้างกระท่อนกระแท่นหลือเกินกับการที่จะได้อยู่ภายใต้ซุ้ม Ducati Team ต่ออีกหรือไม่ในปี 2019 อย่างไรก็ดีในตอนนี้ดูเหมือนว่าด้วยดีกรีแชมป์โลก 5 สมัยที่ติดตัวของ Lorenzo มาแต่ไหนแต่ไร บวกกับความจริงจังในการฝึกซ้อมที่กล้ารับฟังไปพร้อมกับการเสนอความเห็นให้กับทีมช่างได้อย่างตรงจุดซึ่งช่วยได้อย่างมากในเรื่องการพัฒนาตัวรถ ทำให้ Suzuki มีแผนที่จะอัญเชิญนักบิดสายนุ่มนวลบนผิวแทร็ครายนี้ไปเป็นผู้คุมบังเหียนตัวแข่ง GSX-RR คู่กับน้องใหม่ไฟแรงที่พึ่งขึ้นโพเดี้ยมไปในสนามล่าสุดของการแข่งขัน MotoGP ปี 2018 แทนจอมบู๊แหลกแหกทุกโค้ง Andrea Iannone ประเด็นสำคัญอีกอย่างก็คือด้วยสไตล์การขับขี่ของ Lorenzo ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความเนียนและนุ่มไปกับโค้งชนิดที่ว่าแทบไม่มีใครทำได้ดีเท่า ซึ่งแน่นอนว่ามันย่อมเข้ากับตัวแข่ง GSX-RR ของ Suzuki ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจอะไรนักถ้าค่ายคนบ้าจะสนใจดึงนักบิดรายนี้มาอยู่ในสังกัดของตน ขอบคุณข้อมูลจาก…
Author: admin
ยังคงมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์ดราม่าระหว่าง Marc Marquez และ Valentino Rossi ออกมาให้เห็นกันอยุ่เรื่อยๆ ซึ่งล่าสุดก็ได้มีหนึ่งในตำนานการแข่งขัน World GP (ชื่อเก่า MotoGP) อย่าง Giacomo Agostini สุดยอดตำนานแชมป์โลก 15 สมัย ออกมาแสดงความคิดเห็นแย้งกับ Rossi ว่า “Marquez ไม่ควรถูกตัดสิทธิ์การแข่งขัน(ในสนามถัดๆไป)” “Marquez ทำผิดแต่เค้าก็ได้พยามยามเข้าไปขอโทษแล้ว, และเราทุกคนก็หวังว่าเค้าจะไม่ทำเช่นนั้นอีก”, “อย่างไรก็ตาม เค้าไม่ควรจะถูกติดสิทธิ์การแข่งขัน (ในสนามหน้า) เพราะเค้าได้ถูกทำโทษไปแล้วหลังจบการแข่งขัน (หมายถึงการถูกปรับเวลาเพิ่มอีก 30 วินาทีหลังจบการแข่งขัน)” นอกจากนี้ทาง Agostini ยังให้ความเห็นแย้งกับ Rossi ที่กล่าวหาว่า Marc จงใจพุ่งชนตนเองอีกว่า “ไม่ใช่ความจริงเลยซักนิดกับสิ่งที่ Rossi กล่าวหา Marquez ว่าเค้าจงใจพุ่งใส่ขาของนักบิดคนอื่นๆ, ในตอนนั้นด้วยความที่ทุกคนโมโหจึงพูดเกินความจริงไปนิด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่าง Rossi และ Marqeuz…
จากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่ได้มีภาพ Spyshot ของว่าที่ 2018 Honda Click 125i “Face Lift” หลุดออกมาจนทำให้ในเวลาต่อมาไม่นานนักก็ได้มีสื่ออินโดนีเซียปล่อยภาพเรนเดอร์ให้เราได้รับทราบถึงความเป็นไปได้เกี่ยวกับรูปลักษณ์หรือหน้าตาภายนอกของมัน จนกระทั่งวันนี้ทางสื่อรายเดิมได้ออกมาให้ข้อมูลถึงวันเปิดตัวของเจ้าสกูตเตอร์ยอดนิยมคันนี้ แบบเจาะจงวันที่อย่างชัดเจนเลยทีเดียว โดยทางสื่อ MotoBlast ได้ให้ข้อมูลเอาไว้ว่า ตนเองได้รับข้อมูลจากพนักงานภายใน Astra Honda มาว่าในตอนนี้ทางค่ายได้มีแผนที่จะเปิดรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ภายในวันจันทร์ที่ 16 เมษายน ซึ่งแน่นอนว่าในช่วงเวลานี้ไม่ได้มีโมเดลอื่นใดเลยที่เข้าข่ายนอกจากเจ้า 2018 Click 125i/150i ที่พึ่งมีภาพหลุดออกมาล่าสุดดังที่เรากล่าวไปในข้างต้น งานนี้สำหรับใครที่กำลังติดตามข่าวคราวของเจ้า 2018 Honda Click 125i “Face Lift” อยู่ นับวันรอได้เลยครับ เดี๋ยวเราได้เห็นหน้าตาใหม่ของสกูตเตอร์ยอดนิยมรุ่นนี้กันแน่นอน ขอบคุณข้อมูลจาก MotoBlast อ่านข่าวสาร Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ Motorival
หลังปล่อยให้นักบิดในสังกัดต้องโดนกระแสวิจารณ์อยู่พักใหญ่ ในที่สุดตัวหัวหน้าใหญ่สุดของ Repsol Honda Team นามว่า Alberto Puig ก็ได้ออกมาพูดถึงสิ่งที่ Marc Marquez นักบิดสายบู๊แหลกลาญได้ทำลงไปในการแข่งขัน ArgentinaGP 2018 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาในเชิงว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่มีอะไรนอกเหนือจากอุบัติเหตุ แต่ผมเองก็เข้าใจถึงความรู้สึกเดือดดาลของ Yamaha ดี” “สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Rossi, คุณสามารถเช็คดูคลิปการแข่งขันย้อนหลังได้เลยว่าจังหวะนั้นมันมีน้ำขังอยู่บนไลน์ (ที่ Marquez ใช้) ล้อหน้าของเค้าเหมือนจะล็อค ดังนั้นเค้าจึงต้องผ่อนเบรคและบานออกไป (เพื่อที่จะไม่ให้ตนเองล้ม)” “เค้ายังมีช่องว่างที่จะหยุด ถ้าคุณมองจากในคลิปคุณจะเห็นว่าเค้าไม่ได้ใส่สุดขนาดนั้น ที่ผมจะบอกก็คือ Rossi ได้บานออกไปแล้วหน่อยนึง ซึ่งมันไม่ได้ดูเหมือน Marc จะจงใจพุ่งเข้าหา แต่เพราะน้ำบนผิวแทร็คทำให้เค้าบานออกไปจนปะทะเข้ากับ Valentino และส่งผลให้ฝ่ายหลังต้องล้มเพราะเหยียบผืนหญ้าข้างแทร็ค” “เราเข้าใจว่ามันคือสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในการแข่งขัน และเราก็รู้สึกขอโทษอย่างมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ก็นั่นแหล่ะ ด้วยสถานการณ์แบบนี้ต่างคนก็ต่างมีความคิดเป็นของตนเอง ทั้งกรรมการ ทั้งนักบิด และแน่นอนเราเลือกที่จะเชื่อนักบิดของเราถึงสิ่งที่เค้าพูดออกมา” นอกจากนี้เมื่อสื่อถาม Puig ถึงกรณีที่ Rossi…
หลังจากมีภาพสิทธิบัตรหลุดออกมาเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ซึ่งสามารถตีความได้ค่อนข้างชัดเจนว่าเจ้า Haojue HJ300 นี้อาจจะกลายมาเป็นเอนทรีแน็คเก็ทไบค์รุ่นใหม่ของ Suzuki อย่างเจ้า GSX-S300 ได้ในอนาคต และแน่นอนว่าเมื่อใดก็ตามที่มีภาพหลุดแนวๆนี้ออกมา ทางสื่อจอมเรนเดอร์อย่าง MotoBlast ก็ต้องไม่พลาดที่จะทำการตกแต่งตัวรถคันดังกล่าวออกมาให้เราได้รับชมกัน ดังที่เห็นอยู่ตอนนี้ จากภาพถ้าให้พูดถึงดีไซน์ตัวรถก็คงต้องบอกตรงๆว่าทาง MotoBlast ไม่ได้มีการปรับรายละเอียดของตัวรถซักชิ้นเดียว ซึ่งทางสื่อรายดังกล่าวได้ให้คำอธิบายว่าด้วยดีไซน์ดั้งเดิมของเจ้า Haojue HJ300 คันนี้มีความถูกจริตคนอินโดนีเซียบ้านเกิดของทางสื่อ แถมหน้าตาแบบนี้ก็บ่งบอกถึงความเป็นแน็คเก็ทไบค์ตระกูล GSX-S ได้อย่างดีอยู่แล้วดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องไปตกแต่งอะไรเพิ่มเพราะพวกเค้าค่อนข้างมั่นใจว่าทาง Suzuki น่าจะใช้เส้นสายแบบนี้ออกวางจำหน่ายแน่ๆ สำหรับเฉดสีที่ทาง MotoBlast เลือกใช้ในการประกอบภาพเรนเดอร์นั้น แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้นเฉดสี ฟ้า-ขาว ซึ่งเป็นเฉดสีหลักประจำค่ายคนบ้า Suzuki ซึ่งทางสื่อดังกล่าวได้ทำมาทั้งหมดสองแบบด้วยกัน โดยแบ่งออกเป็นชุดสีที่เน้นสีฟ้าเป็นหลับ กับชุดสีที่เฉลี่ยเฉด ฟ้า-ขาวให้พอดีกัน และตบท้ายด้วยชุดสีลายตัวแข่ง MotoGP สีฟ้าแถบเหลืองซึ่งเป็นอีกหนึ่งชุดสีเอกลักษณ์ของค่ายนี้ด้วยเช่นกัน ขอบคุณภาพจาก MotoBlast อ่านข่าวสาร Suzuki เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ…
จากกรณีการปะทะกันระหว่าง Johan Zarco และ Dani Pedrosa ในช่วงต้นเกมการแข่งขัน MotoGP ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้นิกบิดร่างจิ๋วแห่ง Repsol Honda Team ได้รับอาการบาดเจ็บที่ข้อมือขวาเป็นอย่างมากจนต้องได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในกรุงบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน โดยสำหรับเรื่องนี้ทาง Dani Pedrosa ได้ให้ข้อมูลกับทางสื่อเอาไว้ว่า “ผมมีอะไรที่จะพูดเกี่ยวกับการแข่งขันไม่มากนัก, ส่วนตัวผมคิดว่าทีมเราทำได้ดีตลอดสัปดาห์การแข่งขันและผมสามารถขี่ได้ดี แต่สุดท้ายการแข่งขันของผมกลับจบตั้งแต่ยังไม่ทันได้พ้นรอบแรกด้วยซ้ำ” “กรรมการควรจะดูแลในเรื่องความปลอดภัยของนักบิดมากกว่านี้ และตอนนี้ผมรู้สึกเจ็บที่ข้อมือขวาอย่างมาก ซึ่งผมกำลังจะเข้าไปพบกับแพทย์ที่บาร์เซโลน่า ในวันอังคารนี้” ด้าน Johan Zarco นักบิดคู่กรณีก็ได้ออกมาให้คำชี้แจงเกี่ยวกับถึงสาเหตุที่ตนเองบานไปติด DP26 จนนักบิดคนดังกล่าวเกิดการไฮไซด์และล้มลงเพิ่มเติมว่า “ในตอนนั้นผมเลือกที่จะใช้ไลน์ในเพื่อแซงเค้า (DP26) แต่แน่นอนในเมื่อคุณอยู่ไลน์ในอย่างนั้นคุณก็จะต้องบานออก ซึ่งมันแย่ตรงที่เค้าดันบานออกไปตรงที่ผิวแทร็คมันเปียกพอดี” “ผมต้องพยายามที่จะไม่ให้ตัวล้มลง เพราะผมรู้ว่าถ้าผมล้ม Dani ต้องล้มลงด้วยแน่ๆ” (หลังเหตุการณ์นั้น Zarco ไม่ทราบว่า Dani ได้ล้มไปแทบจะทันทีหลังการปะทะ มาทราบอีกทีในช่วงสองสามรอบให้หลัง” ขอบคุณข้อมูลจาก Crash.net อ่านข่าว MotoGP…
ต่อจากกรณีข่าวที่ว่า Valentino Rossi ได้วิจารณ์ถึง Marc Marquez อย่างตรงไปตรงมาว่า “นักบิดแชมปโลก 6 สมัยคนดังกล่าวได้ทำลายกีฬานี้ไปแล้ว และการกระทำที่บวกนักบิดคนอื่นให้บานออกเป็นการกระทำด้วยความตั้งใจ” ล่าสุดในเวลาต่อมาไม่นานนักทางนักบิดหมายเลข 93 ก็ได้ออกมาแย้งว่า “ตัวเองไม่เคยคิดแบบนั้นกับนักบิดร่วมสนามเลยซักครั้ง” โดยก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์ Marquez เข้าไปปะทะกับ Rossi จนนักบิดฝ่ายหลังล้มลงเพราะเหยียบพื้นหญ้านอกผิวแทร็คนั้น ทาง MM93 ได้เริ่มอธิบายถึงเหตุการณ์ที่ตนเองต้องโดนทำโทษ Ride Trough เพราะตัวแข่ง Honda RC213V ของตนดับจนต้องเข็นสตาร์ทแล้ววกกลับไปจอดบนกริดใหม่ ซึ่งผิดกฏการแข่งขัน ว่า “ขณะที่ผมกำลังจะขับเข้ากริดสตาร์ท รถของผมมันดันดับขึ้นมา ซึ่งผมก็ได้ยกมือเพื่อจะแจ้งกรรมการหรือทีมงานแล้วว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น แต่ก็เหมือนไม่มีใครเห็น จนสุดท้ายผมต้องเลือกเข็นรถออกมาเพื่อสตาร์ท และโชคดีที่เครื่องมันติด แต่หลังจากนั้นผมก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อ” “จริงๆผมรู้นะว่าถ้ารถดับ ผมต้องออกจากกริดแล้วไปออกตัวที่พิทเลน แต่รถผมยังสตาร์ทได้อยู่ และเมื่อกรรมการได้วิ่งเข้ามาผมก็ถามกับเขาให้แน่ใจแล้วว่า ‘ผมยังออกตัวบนกริดได้อยู่ หรือต้องไปพิทเลน ?’ ซึ่งกรรมการคนดังกล่าวก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงเหมือนกัน จนผมและเค้าหันไปมองกรรมการอีกคนที่ชูนิ้วโป้งอยู่ข้างสนามเหมือนบอกว่าไม่เป็นไร ผมจึงเข้าใจว่าผมยังสามารถกลับไปยังกริดสตาร์ทของผมแล้วออกตัวจากตรงนั้นได้เหมือนเดิม” “หลังจากนั้นตอนที่ผมขับออกไปได้สักพัก (เริ่มการแข่งขันแล้ว)…
แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่าง Valentino Rossi และ Marc Marquez สองนักบิดระดับหัวแถวของการแข่งขัน MotoGP จะพึ่งกลับมาดีขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายปีที่แล้วนับตั้งแต่แตกหักไปเมื่อช่วงระหว่างปี 2015-2016 แต่ดูเหมือนว่าเมื่อคืนก่อนหน้านี้เหตุการณ์ดังกล่าวจะกลับมาอีกครั้งในลักษณะที่รุ่นแรงกว่าเดิม หลังนักบิดหมายเลข 93 ได้มีการเข้าไปปะทะกับนักบิดหมายเลข 46 ในโค้งที่ 13 ของสนามจนฝ่ายหลังบานออกไปนอกพื้นแทร็คและล้มลง ซึ่งทางนักบิดวัยดึกคนดังกล่าวก็ออกมาให้สัมภาษณ์เชิงโจมตีว่า “Marc Marquez ได้ทำลายกีฬานี้ไปเรียบร้อยแล้ว” “มันเป็นสถานการณ์ที่แย่มากๆ, Marquez ได้ทำลายกีฬานี้อย่างสิ้นเชิง, เพราะตัวเขาเองไม่ได้มีความเคารพในตัวนักกีฬาคนอื่นๆเลย ไม่เลยซักนิด” “การปะทะกันระหว่างแข่งขันมันเกิดได้กับนักบิดทุกคนอยู่แล้ว แต่มันก็แค่ไม่กี่ครั้งต่อสัปดาห์, คุณสามารถเบรกพลาดแล้วไปปะทะกับนักบิดคนไหนก็ได้ทุกเมื่อซึ่งมันเป็นปกติของกีฬาชนิดนี้” “อย่างไรก็ตาม Marc ได้ทำแบบนี้มาแล้วหลายครั้งตั้งแต่วันศุกร์ (รอบ Free Practice 1) กับทั้ง Marcerick Vinales และ Andrea Dovisiozo ต่อมาในเช้าวันเสาร์ก่อนรอบควอลิฟายผมเองก็โดนไปด้วย จนกระทั่งในการแข่งขันเขาทำแบบนี้กับนักบิดคนอื่นๆถึง 4 คน ซึ่งเป็นการจงใจทำทั้งนั้น” “มันไม่ใช่การพลาดแน่ๆ เพราะทุกครั้งเขาตั้งใจมาสะกิดที่ขาไม่ก็กลางตัวรถ…
ในรอบควอลิฟายเพื่อคัดอันดับออกสตาร์ทการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลก MotoGP ที่ประเทศอาร์เจนติน่า เมื่อวานนั้น แม้ว่าเอาจริงๆแล้ว Marc Marquez จะเป็นนักบิดคนแรกที่เลือกใช้ยางสลิคออกไปทำรอบกดเวลา แบบเดียวกับที่ผู้ถือตำแหน่งโพลโพซิชันในขณะที้อย่าง Jack Miller ทำ แต่ไม่รู้ว่านักบิดแชมป์โลกคนนี้เกิดกลัวในใจขึ้นมาหรือไม่อย่างไรจู่ๆเขาก็ได้วกกลับเข้าพิทเลนในทันทีหลังขับออกไปได้หนึ่งรอบ เพื่อเปลี่ยนมาใช้ยางเปียกออกไปกดเวลาแทน จนผลปรากฏว่าเค้าต้องออกสตาร์ทบนกริดที่ 6 โดยล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาหลังจบรอบควอลิฟาย MM93 ก็ได้ออกมากล่าวคำสัมภาษณ์เพื่อชี้แจ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “ในตอนแรกผมรู้สึกได้ว่ามันถึงเวลาแล้วที่ต้องใช้ยางสลิก แต่หลังจากที่ผมออกจากพิทเลนไปได้ไม่นานนักจนกระทั่งเจอช่วงที่ผิวแทร็กยังเปียกอยู่ ผมก็รู้ตัวแล้วว่ามันชักจะเสี่ยงเกินไปแล้วที่จะล้ม และยิ่งเมื่อผ่านโค้ง 7-8 ที่ยังคงเต็มไปด้วยแอ่งน้ำ ผมก็ได้เกิดประโยคขึ้นมาในหัวแล้วว่า พรุ่งนี้วันแข่งนะ(โว้ย)” “จริงอยู่ว่าการได้ตำแหน่งโพลโพซิชั่นนั้นสำคัญ แต่วันพรุ่งนี้คือวันแข่งจริง และในปีนี้ผมต้องการลดความเสี่ยงและหลีกเลี่ยงการพลาดล้มให้มากที่สุด (พยายามจะไม่ให้ซ้ำรอยปีก่อน ที่ตัวเองล้มเยอะจนทำลายสถิติตลอดการแข่งขัน MotoGP)”, “ลึกแล้วผมก็เลือกที่จะเสี่ยง แต่ถ้าพลาดล้มขึ้นมาผมอาจจะเจ็บหนักจนไม่สามารถแข่งต่อในวันพรุ่งนี้ก็ได้” “ผมค่อนข้างแฮปปี้นะ การออกสตาร์ทด้วยลำดับที่ 6 ไม่ได้แย่ซะหน่อย มันก็แค่อยู่ถัดจากหัวแวมาเพียงนิดเดียวเท่านั้นเอง” มารอดูกันครับ ว่าคืนนี้ Marc Marquez หนุ่มนักบิดแชมป์โลกคนล่าสุดจาก Repsol Honda Team จะสามารถทำอะไรได้บ้างกับการออกสตาร์ทบนกริดที่ 6…
เปิดตัวออกมาครั้งแรกเมื่อตอนปี 2014 จนกระทั่งตอนนี้เข้าปี 2018 ทาง BMW ก็ยังไม่ได้ทำการอัพเดทหรือออกโมเดลย่อยใหม่ใดๆทั้งสิ้นให้กับเจ้า R nineT ราวกับว่าพวกเขาจะไม่ทำตลาดเจ้านี่อีกต่อไปแล้ว หลังจากที่ได้ทำการเปิดตัวรุ่นย่อยออกมาทั้งหมด 5 รุ่น ตลอดระยะเวลาการวางจำหน่าย 5 ปีที่ผ่านมา อันได้แก่ R nineT, R nineT PURE, R nineT RACER, R nineT URBAN G/S, และ R nineT SCRAMBLER ใช่ครับการเกริ่นแบบนี้เราไม่ได้ยกขึ้นมาเล่นๆ เพราะจากข้อมูลล่าสุดที่ทางสื่อใหญ่แดนเยอรมัน Motorcycle Magazine ได้มีการระบุไว้มีใจความค่อนข้างชัดเจนว่าในตอนนี้ “ไลน์อัพของ BMW R nineT ได้สิ้นสุดโดยสมบูรณ์แล้ว” ซึ่งเจ้าข้อความที่ว่านี้ทางสื่อดังกล่าวก็ได้อ้างอิงว่านำข้อมูลมาจากรายงานประจำปีของ BMW อีกทอดหนึ่ง อย่างไรก็ตามแม้ว่าทาง BMW จะมีแผนยุติสายการผลิตเจ้า R…