MotoGP เผยพัฒนาสวิงอาร์มคาร์บอน ใช้งบวิจัยซื้อ ปอร์เช่ ได้ 1 คัน

เทคโนโลยี “สวิงอาร์มคาร์บอน” ถือเป็นเรื่องที่ไม่ได้ใหม่เท่าไหร่นักใน MotoGP เพราะเราได้เริ่มเห็นทางทีมแข่งต่างๆเริ่มใช้มันไม่ต่ำกว่า 10 ปีเข้าไปแล้ว (เริ่มเห็นครั้งแรกเมื่อปี 2009) ซึ่งนอกจากความพิเศษที่เพื่อนๆอาจจะสงสัยและพอได้คำตอบกันไปบ้างแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่พึ่งถูกเปิดเผยยังมีเรื่องของราคาที่เพื่อนๆหลายคนอาจจะสงสัยด้วยว่ามันจะใช้งบประมาณเท่าไหร่กันแน่ ?

และล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา ก็ได้มีการเปิดเผยบทสัมภาษณ์ของบุคลากรทีมแข่งต่างๆในเวที MotoGP ที่ได้ออกมาพูดถึงประเด็นเรื่องนี้เพื่อตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับราคาต้นทุนที่ใช้ในการวิจัยและผลิตเจ้าสวิงอาร์มคาร์บอนนี้ โดยเริ่มจากคนแรกคือ Cal Crutchlow ที่เคยเกริ่นเรื่องนี้เอาไว้เมื่อปีก่อน ขณะตัดพ้อ Honda ที่ส่งชิ้นส่วนเจ้าประเด็นนี้ให้แค่นักบิดทีมโรงงาน ว่า

“Marc Marquez จะได้รับชิ้นส่วนที่ทำขึ้นจากวัสดุอะไรก็ได้ที่ Honda ทำขึ้น ซึ่งจริงๆก็คือนักบิดทีม Repsol ทั้ง 2 คน, และตั้งแต่ที่เรารู้ว่าเจ้าสวิงอาร์มนี้มีต้นทุนประมาณ 250,000 ยูโร, เราก็ไม่สามารถจะเอามันมาใช้เหมือนเป็นของสำรองได้เลย” (เพราะทำแค่ชิ้นเดียวก็เปลืองงบจะแย่แล้ว แถมถ้าจะให้ใช้ซ้ำต่อจากของทีมโรงงานเหมือนสวิงอาร์มอลูมิเนียมก็ไม่ได้ เนื่องจากสวิงอาร์มคาร์บอนไม่สามารถซ่อมได้ และหากเสื่อมสภาพหรือถึงขีดจำกัดการใช้งานแล้ว ก็จะมีแต่แตกหรือหัก ต้องทำลายทิ้งอย่างเดียว)

ด้าน Paolo Ciabatti ผู้จัดการทีมของ Ducati เองก็ระบุในทำนองเดียวกันว่า “เราใช้สวิงอาร์มคาร์บอนมาตั้งแต่ปี 2009” และมันน่าจะใช้งบประมาณราวๆ 35,000 ยูโร ในการทำสักชิ้น (หมายถึงต้นทุนการผลิต ไม่นับค่าวิจัย)

ขณะเดียวกัน Alex Giussani ผู้จัดการฝ่ายเทคนิคของ Suter Industries (บริษัทพัฒนาชุดเฟรมสำหรับตัวแข่งใน Moto2 และบางครั้งก็เป็นลูกมือทำชิ้นส่วนพวกสวิงอาร์มให้กับทีมแข่งต่างๆทั้งใน MotoGP และ WSBK) ก็ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ผมประมาณการไว้ว่าการทำวิจัยและพัฒนาจำเป็นต้องใช้เงินราวๆ 100,000 ถึง 200,000 ยูโรก่อนในขั้นต้น, หลังจากนั้น ผมก็ต้องใช้ต้นทุนในการทำสวิงอาร์มคาร์บอนสักชิ้นประมาณ 20,000 ยูโร”

นั่นจึงเท่ากับว่า หากเป็นการวิจัยขั้นเริ่มต้นสำหรับทีมที่มีงบไม่มาก สวิงอาร์มคาร์บอนหนึ่งชิ้น ก็จะใช้งบที่ราวๆ 100,000 ยูโร หรือประมาณ 3.5 ล้านบาท แต่หากเป็นทีมที่จัดว่าใหญ่พอตัวอย่างเช่น Ducati หรือ Honda นั้น ก็อาจจะทุ่มงบให้กับนักวิจัยในบริษัทกันสูงถึง 250,000 ยูโรเป็นอย่างน้อย หรือก็คือรางๆ 8.7 ล้านบาท เลยทีเดียว

ขณะที่ต้นทุนการผลิตชิ้นส่วนนี้แต่ละอันก็สามารถแกว่งราคา(ตามความซับซ้อนในการผลิต)ได้ตั้งแต่ 20,000 – 35,000 ยูโร หรือก็คือราวๆ 7 แสน – 1.2 ล้าน บาท เรียกได้ว่าแพงเอาเรื่อง แต่อันที่จริงก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นัก เพราะอย่างที่กล่าวไปว่านี่คือชินส่วนที่ทำขึ้นมาเฉพาะเพื่อการแข่งขัน MotoGP จริงๆนั่นเอง