แม้จะแทบไม่เหลือที่ว่างให้เป็นนักบิด MotoGP เต็มฤดูกาลในปี 2021 อีกแล้ว แต่ด้วยความน่าเชื่อถือในฝีมือ และประสบการณ์อันมากมาย จึงทำให้ตอนนี้ Andrea Dovizioso เนื้อหอมในหมู่ทีมโรงงานอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น KTM, MotoGPHond, และ Yamaha ที่หวังดึงตัวนักบิดรายนี้ไปเป็นนักบิดทดสอบให้กับทีม ตามการรายง่านเมื่อสัปดาห์ก่อน
และจากการให้สัมภาษณ์ล่าสุดของ Simone Battistella ผู้จัดการส่วนตัว Andrea Dovizioso ได้ระบุว่า “สิ่งที่ Andrea ต้องการคือความอิสระในการไปลงแข่งในรายการอื่น (เช่นการแข่งโมโตครอสระหว่างที่ไม่มีการเปิดให้ทดสอบตัวแข่ง)” และ “เรากำลังจะตัดสินใจครั้งสุดท้ายในสัปดาห์นี้” ไม่เพียงเท่านั้นในการให้สัมภาษณครั้งก่อน ผู้จัดการส่วนตัวรายนี้ก็ยังระบุอีกว่านักบิดในสังกัดของตนอยากได้เงื่อนไขการต่อสัญญาเป็นนักบิดเตั้มฤดูกาลใน MotoGP ปี 2022 พ่วงมาด้วย
จากข้อความด้านบน ด้วยความที่ทางทีมปีกนกไม่อยากแบกรับความเสี่ยงในกรณีที่หาก AD04 ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงขึ้นมา พวกเขาอาจไม่มีนักบิดสำรองให้ใช้งาน ทำให้ทาง Honda ต้องถอนตัวออกไป ขณะเดียวกัน ในฝั่ง KTM ก็ค่อนข้างอยากจะผลักดันนักบิดสายเลือกใหม่หรือกลุ่มดาวรุ่งขึ้นมาสู่ทีมใหญ่มากกว่า จึงทำให้พวกเขาก็ตัดสินใจที่จะไม่ดึงตัวนักบิดรายนี้เข้าสู่ทีมเช่นกัน
นั่นจึงเเท่ากับว่า ในตอนนี้ มีแค่เพียง Yamaha เท่านั้นที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของ Andrea Dovizioso ได้ครอบคลุมที่สุด เนื่องจากหลังจบปี 2021 มีแนวโน้มสูงมากที่ Valentino Rossi จะเลือกรีไทร์ตนเองไปในที่สุด เพื่อโยกไปเป็นผู้จัดการทีมอย่างเต็มตัว นั่นจึงทำให้ทีมค่ายส้อมเสียงมีที่ว่างสำหรับ AD04 พอดี เพราะหากมองไปที่มุมการหานักบิดสายเลือดใหม่ ตอนนี้พวกเขาก็มีทั้ง Maverick Vinales, Fabio Quartararo, และ Franco Morbidelli ที่เร็วพออยู่แล้ว ดังนั้นการหานักบิดประสบการณ์สูงสักคนมาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลตัวแข่งของทีมจึงเป็นเรื่องที่ควรจะทำมากกว่าในตอนนี้
แน่นอนว่านักบิดที่เราไม่กล่าวถึงไม่ได้ก็คือ Jorge Lorenzo ที่จะต้องโดนเด้งทันทีหาก Yamaha และ Andrea Dovizioso ตกลงปลงใจเซ็นสัญญาทำงานร่วมกันใน MotoGP ปี 2021 ซึ่งอันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเท่าไหร่นัก เพราะในการทดสอบตัวแข่ง MotoGP ปี 2020 ที่ผ่านมา Lorenzo ได้ทดสอบรถไปแค่เพียง 4 ครั้งเท่านั้น และทุกครั่้งก็เป็นการทดสอบตัวแข่งสเปคปี 2019 ซึ่งไม่รู้ว่าทดสอบไปทำไม เพราะปกตินักบิดทดสอบจะมีน่าที่ทดสอบตัวแข่งสเปคปีล่าสุด หรือสเปคในปีถัดไปเป็นหลักมากกว่า แต่นั่นก็อาจเป็นเพราะอดีตแชมป์โลก 5 สมัยรายนี้จะไม่มีความเร็วหลงเหลือมากพอแล้วสำหรับการขี่รถ MotoGP ในสายตาของต้นสังกัดคู่บุญ
ขอบคุณข้อมูลจาก Motorsport.com
อ่านข่าวสาร MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่
