ประวัติ Ducati Monster กับตำนานปีศาจแดง แห่ง Bologna โมเดลสร้างชื่อให้ ดูคาติ มากที่สุดรุ่นหนึ่ง
เปิด ประวัติ Ducati Monster เน็คเก็ทยอดนิยมตลอดกาลของค่ายแดง สมญา อสูรแดงแห่งโบโลญญ่า
เมื่อพูดถึงซีรีย์ของรถมอเตอร์ไซค์สักรุ่นหนึ่งจากอิตาลี ที่มีความเป็นตำนานเล่าขานและยังคงเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคนในปุจจุบัน ชื่อของ Ducati Monster ก็คงเป็นหนึ่งในชื่อรถที่ผุดขึ้นมาในหัวของใครหลายคนมากที่สุด แต่ชื่อนี้เกิดขึ้นตอนไหน มีที่มาอย่างไร และมันผ่านอะไรมาบ้าง เรามาชมประวัติฉบับย่อของมันกันเลย
Monster รุ่นแรกนั้นเริ่มมาจากแนวคิดของหัวหน้าฝ่ายเทคนิคของค่ายอย่าง Massimo Bordi ที่ต้องการสร้างรถที่บ่งบอกถึงความเป็น Ducati, ขับง่าย, ใช้เฟรมเหล็กถัก, และไม่ใช่สปอร์ตฟูลแฟริ่ง เขาจึงได้มอบหมายให้ Miguel Angel Galluzzi ทำการออกแบบหน้าตาภายนอกในปี 1992 และเนื่องจากการนำชิ้นส่วนหลายอย่างมาจากรถที่มีขายอยู่แล้ว ทำให้งบประมาณและเวลาที่ใช้สร้าง Monster คันแรกนั้นค่อนข้างสั้น ทั้งการยกเครื่องยนต์ L-Twin 90 องศา ระบายความร้อนด้วยอากาศ 2 วาล์ว แบบ Desmodromic ขนาดความจุ 900cc ที่นำมาจากรุ่น 900 Supersport และเฟรมถักจากรุ่น 851 ทำให้ Ducati Monster 900 รุ่นแรกถูกนำออกมาวางจำหน่ายอย่างรวดเร็วในปี 1993
Ducati Monster ในเจนแรกนั้นมาพร้อมไฟหน้าโคมกลม ไร้แฟริ่ง กับความจุเครื่องยนต์ที่หลากหลายตั้งแต่ 600cc 750cc ไปจนถึง 900cc และยังมีรุ่นเครื่องยนต์ขนาดเล็ก 400cc ที่มีไว้สำหรับขายในบางตลาดที่มีข้อกำหนดเรื่องความจุเครื่องยนต์โดยเฉพาะ โดยในช่วงปี 2000 ตัวรถก็ได้รับการอัพเกรดเพิ่มระบบหัวฉีดไฟฟ้า เข้ามาแทนที่คาบูเรเตอร์ ซึ่งถือเป็นของใหม่ในยุคนั้น
แนวทางการขายรถของค่ายจากโบโลญญ่านั้น จะทำการปล่อยรถหลายรุ่นที่มีพื้นฐานทางวิศวกรรมใกล้กัน และหน้าตาคล้ายกัน ในหลากหลายความจุเครื่องยนต์ โดยแต่ละความจุก็จะมาพร้อมรุ่นย่อยหลายรุ่น และการอัพเดตหลายครั้งแตกต่างกันออกไป เพราะฉนั้นเราจะขอพูดถึงเอกลักษณ์ภาพรวมของรถในแต่ละเจนเป็นหลัก
ในปี 2001 Ducati ทำการเปิดตัว S4 ซึ่งได้ใช้เครื่องยนต์แบบระบายความร้อนด้วยน้ำตัวแรง 4 วาล์ลต่อสูบ Testastretta ที่ปกติจะเป็นเครื่องยนต์ที่วางอยู่ในรถ Superbike (อารมณ์คล้าย Streetfighter ในปัจจุบัน) ทำการขายควบคู่ไปกับตัวรถรุ่นระบายความร้อนด้วยอากาศแบบปกติที่จะถูกเรียกว่า S2 โดยตัวเลขดังกล่าวก็จะบ่งบอกถึงจำนวนวาล์วต่อสูบ
ในปี 2007 คือปีที่เป็นจุดเริ่มต้นของ Ducati Monster ในรูปโฉมที่คนไทยรู้จัก โดยในเจนเนอร์เรชั่นนี้เปิดตัวมาด้วยรถในรหัส 696 ก่อนที่จะมีคลาส 1100 ซึ่งเป็นรุ่นใหญ่ที่ให้สวิงอาร์มแขนเดียวอันเป็นเอกลักษณ์ในปีถัดมา ซึ่งรุ่นนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ไฟหน้าของตัวรถนั้นถูกนำมาผ่านกระบวนการออกแบบมากขึ้น แทนที่จะเป็นโคมกลมแบบปกติ
และรุ่นที่ทำให้กระแสบิ้กไบค์พรีเมี่ยมบูมขึ้นในไทยอย่างกระทันหันก็หนีไม่พ้นรถรหัส 795 และ 796 ที่โด่งดังจนขนาดที่มีการเปิดสายการผลิตในประเทศไทย และถือเป็นครั้งแรกที่มีโรงงานประกอบอยู่นอกอิตาลี
และแล้วก็มาถึงการเปลี่ยนผ่านของยุคสมัยครั้งใหญ่อีกครั้งของ Monster ที่ครั้งนี้มันไม่ได้แค่ใส่เครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยน้ำมาในรุ่นแยกอีกแล้ว เพราะมันจะมาพร้อมเครื่อง Testastretta 4 วาล์ว 821cc มาเป็นเครื่องยนต์มาตราฐานในปี 2014 ซึ่งต่อมาฝาแฝดรุ่นใหญ่ของมันก็เปลี่ยนตาม โดยจะมาพร้อมความจุเครื่องยนต์ที่ 1200cc ตามความนิยมในยุคสมัยนั้น แบบเดียวกับที่หลายค่ายเริ่มก้าวข้ามตัวเลข 1100 กันไปหมดแล้ว
การออกแบบตัวเฟรมเหล็กถักก็เปลี่ยนใหม่ แทนที่รถจะยึดชิ้นส่วนทั้งหมดไว้กับเฟรม และยัดเครื่องยนต์ไว้ในเฟรมหลัก แต่ในรุ่นนี้ชิ้นส่วนที่ว่ากลับถูกยึดไว้ที่ตัวเครื่องยนต์แทน แม้แต่เฟรมเหล็กถักนั้นก็ทำหน้าที่เป็นแผงคอรถที่ถูกยึดไว้กับเครื่องยนต์เช่นเดียวกัน
และในเจนนี้เองที่เราได้เห็นรถ Monster ที่แรงที่สุดและสปอร์ตที่สุดที่เคยมีมากับ Ducati Monster 1200 R ที่สร้างพละกำลังสูงสุด 160 HP และแรงบิดสูงสุด 132 Nm โดยมันยังคงเป็นรถที่ทรงพลังที่สุดในตระกูลจนถึงปัจจุบัน
ถึงแม้เราจะบอกว่ารถ Monster ได้ทำการเปลี่ยนเครื่องยนต์ให้ทันสมัยระบายความร้อนด้วยน้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ทางค่ายก็ยังคงอยากเอาใจคนชอบเครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยอากาศอยู่ จึงทำการเปิดตัว Ducati Monster 797 ซึ่งรถรุ่นนี้จะทำตลาดอยู่ในระดับต่ำกว่ารุ่น 821 โดยมันจะมาพร้อมเทคโนโลยีที่น้อยกว่า เรียบง่ายกว่าในภาพรวม ไม่มีแม้แต่ระบบไฟ LED สำหรับลูกค้าที่ต้องการความติดดิน ถือเป็น Monster ที่ถูกที่สุดในตอนนั้น แต่ดูเหมือนว่าคนที่สนเครื่องระบายความร้อนด้วยอากาศนั้นจะมีไม่มากนัก ทำให้ยอดขายดูจะไปได้ไม่สวยเท่าไร
หลังจากที่ 821 ทำตลาดอยู่นาน ในที่สุดก็ถึงคิวของเครื่องยนต์ใหม่ขนาด 937cc (ที่ยังคงใช้พื้นฐานเดิมเกือบทั้งหมด) ใหญ่ขึ้นตามกระแส และเพื่อชดเชยแรงม้าที่เสียไปจากค่ามาตรฐานไอเสียที่เข้มงวดขึ้น All new Ducati Monster แบบที่ใช้ชื่อ Monster เฉย ๆ ไม่มีเลขอะไรต่อท้ายก็ถูกเปิดตัวพร้อมคำถามและความสงสัยว่า “เฟรมเหล็กถักหายไปไหน” รวมถึงสไตล์การออกแบบรอบคันที่เปลี่ยนไปจนนึกว่าเป็นรถต่างค่าย
โดยความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ก็เกิดจากความต้องการของ Ducati ที่ต้องการทำให้ Monster ใหม่นี้มันใหม่แบบหมดจด ยัดเทคโนโลยีและหลักวิศวกรรมทุกอย่างโดยไม่สนข้อผูกมัดเรื่องธรรมเนียมและความคุ้นเคย นั่นทำให้เจ้าปีศาจรุ่นนี้มีเอกลักษณ์ที่ต่างจากรถรุ่นอื่นที่เคยมีมา คล่องตัวมากขึ้น และเบาลงมากจากการใช้เฟรมแบบอลูมีเนียม แต่ขณะเดียวกันก็ดูเหมือนว่า Monster ในรุ่นนี้อาจจะไม่มีฝาแฝดในคลาสที่ใหญ่กว่านี้ตามมา เนื่องจากทางค่ายตัดสินใจลงทุนไปกับเครื่องยนต์ V4 มากขึ้น และในคลาสนั้นก็ดันมี Streetfighter V4 ที่ขายดิบขายดีมากกว่าอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าสไตล์การใช้งานของ Monster และ Streetfighter จะต่างกันมากก็ตาม
อ่านข่าวสาร Ducati เพิ่มเติมได้ที่นี่
