หลัง Honda CRF450RL รีวิว ถูกเปิดตัวในประเทศไทยแบบหักปากกาเซียนเมื่อไม่กี่วันก่อน ทาง A.P. Honda ก็ไม่รอช้ารีบจัดงานให้เหล่าสื่อฯได้ทดสอบเจ้าดูอัลเพอร์โพสต์สเปคเทพคันนี้ทันที ซึ่งสัมผัสที่ได้จากมันจะเป็นอย่างไรบ้าง เรามาว่ากันในรีวิวครั้งนี้จากพวกเราทีมงาน MotoRival กันได้เลยครับ
ก่อนอื่น หากมอง CRF450RL รีวิว โดยผิวเผิน เราก็จะพบว่าตัวรถรุ่นนี้นั้น มีเส้นสายชิ้นแฟริ่งที่แทบไม่แตกต่างจาก CRF300L มากเท่าไหร่นัก ซึ่งทั้งนี้ก็เพราะเส้นสายของมันได้ถูกส่งต่อไปยังรุ่นน้องแบบแทบจะยกชุดนั่นเอง
อย่างไรก็ดีในส่วนของชุดไฟหน้าที่เป็นแบบโคม LED โปรเจกเตอร์ 4 ดวงนั้น ตัวเบ้าไฟของ CRF450RL จะเป็นสีดำ ครอบด้วยเลนส์สีรมดำอีกชั้น ต่างจากรุ่นน้องที่ใช้เบ้าไฟสีเงินหรือสีโครเมียม แล้วครอบด้วยเลนส์สีไสเท่านั้น ขณะที่ไฟเลี้ยวยังคงเป็นโคม LED ทรงยอดนิยม
ส่วนชุดไฟท้ายแน่นอนว่าจะต้องเป็นแบบ LED แต่ตัวโคมมีลักษณะทรงคล้ายกับของ Honda Grom 125 และจะติดตั้งอยู่บนชุดขาอลูมิเนียมที่สามารถถอดออกแบบยกชุดได้สบายๆเพื่อรองรับการใช้งานแบบบุกตะลุยเต็มพิกัด
ขณะเดียวกันมันก็มาพร้อมกับอุปกรณ์ตกแต่งที่จัดเต็มกว่า ทั้งการ์ดแฮนด์
แฮนด์บาร์พร้อมฟองน้ำกันกระแทก จาก Renthal Made in UK
ชุดสวิทช์แฮนด์ให้มาเท่าที่จำเป็นทั้งในเรื่องของปุ่ม และขนาด นั่นคือ ชุดสวิทช์ Off-Run และปุ่มสตาร์ททางประกับสวิทช์ด้านซ้าย กับ ชุดสวิทช์ไฟสูง/ต่ำ + กระพริบไฟ, แตร, และไฟเลี้ยวทางด้านซ้าย
มาตรวัดแบบดิจิตอล ขนาดกระทัดรัดแสดงผลเท่าที่จำเป็นเช่นกัน ทั้ง ความเร็ว, ระยะทางรวม, ระยะทางทริป (A/B), ปริมาณน้ำมันที่ใช้ตลอดทริป (A/B), อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง, และเวลา
อกล่างพลาสติก ABS
มีการ์ดพลาสติกครอบแครงก์เครื่องยนต์มาให้เสร็จสรรพเนื่องจากแครงก์เดิมๆทำจากวัสดุแมกนีเซียมน้ำหนักเบา
ครอบจานเบรกหน้า (ขนาดจานเบรกหน้า 260 มิลลิเมตร ทำงานร่วมโฟลทติ้งเมาท์คาลิปเปอร์ 2 ลูกสูบ) และการ์ดดิสก์เบรกหลัง (ขนาดจานเบรกหลัง 240 มิลลิเมตร ทำงานร่วมโฟลทติ้งเมาท์คาลิปเปอร์ 1 ลูกสูบ)
พักเท้าหนามพับได้ และตัวแป้นคันเกียร์กับแป้นคันเบรกเองก็เป็นแบบพับได้เพื่อป้องกันการบิดงอตอนล้มเช่นกัน
ขาตั้งข้างอลูมิเนียมก้านยาวพิเศษ แต่ก็แข็งแรงจนสามารถรับน้ำหนักผู้ขี่รวมชุดครบเซ็ทหลัก 100 กิโลกรัมตอนใช้วิธีเหยียบพักเท้าเพื่อคร่อมเบาะขึ้นขี่ได้สบายๆ
ถังน้ำมันไทเทเนียมเน้นความเบาขนาดความจุ 7.6 ลิตร และฝาถังเป็นแบบมีวาล์วป้องกันน้ำมันไหลออกหากรถเกิดล้มขึ้นมา
หม้อน้ำแบบคู่ วางตั้งแยกฝั่งซ้าย-ขวา พร้อมพัดลมไฟฟ้าเพื่อการระบายความร้อนที่ดีกว่า
ท่อไอเสียสแตนเลสขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่ถูกออกแบบไส้ในให้กรองไอเสียได้ดีเป็นพิเศษ และเน้นการลดเสียงให้ผ่านตามมาตรฐานมลพิษที่ภาครัฐกำหนด
ด้านชุดเฟรมของ CRF450RL ก็แน่นอนว่าจะต้องเป็นเฟรมอลูมิเนียม ซึ่งทาง Honda ระบุว่านี่คือเฟรมรูปแบบเดียวกันกับที่ใช้ในตัวแข่ง CRF450R เหมือนกันแทบทุกอย่างทั้งความสูง, ความยาว, และองศาแผงคอ (28.30 องศา กับระยะเทรล 122 มิลลิเมตร) เว้นเพียงจุดเดียวคือช่วงกลางของตัวเฟรมที่จะกว้างกว่ากันเล็กน้อย เนื่องจากห้องเกียร์ของเครื่องยนต์ในตัว RL ที่ใช้เฟืองเกียร์ 6 ระดับนั้น จะกว้างกว่าห้องเกียร์ของเครื่องยนต์ในตัว R ที่ใช้เฟืองเกียร์ 5 ระดับนั่นเอง
เบาะนั่งเพรียวบางและยาวตามสไตล์โมโตครอสไบค์ ทำให้ในจังหวะนั่งขี่ก็สามารถขยับตัวไปข้างหน้าหรือข้างหลังได้อยากไม่มีติดขัด
ชุดสวิงอาร์มมีรูปทรงและขึ้นรูปด้วยวัสดุเดียวกับกับตัวแข่ง CRF450R แต่ไส้ในของมันจะมีการใส่ของเหลวคือสารยูรีเทนอัดไว้ด้านในด้วยเพื่อช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากผิวถนน รวมถึงลดเสียงของหน้ายาง
ชุดล้อเป็นแบบซี่ลวดขอบอย่างดีรุ่น DirtStars จาก D.I.D รัดด้วยยางไซส์ 80/100-21 M/C 51P ทางด้านหน้า และ 120/80-18 M/C 62P ทางด้านหลัง ซึ่งรุ่นยางที่ให้มา ก็จะเป็นยางรุ่นเดียวกับ CRF300L/CRF300 Rally เป๊ะๆ
ด้านท่านั่ง แม้เบาะจะสูง 944 มิลลิเมตร ซึ่งสูงกว่า CRF300 Rally ขึ้นไปอีก แต่ด้วยความบางของช่วงเฟรม และตัวเบาะ ทำให้ผู้ขี่ต้องกางขามากเท่าไหร่นักในท่ายืนจอด และช่วยผู้ขี่ที่สูงไม่ถึง 170 เซนติเมตรให้สามารถใช้ปลายเท้าสวมรองเท้าไรดิ้งบูธพื้นหนาทั้งสองข้างแตะพื้นได้ง่ายขึ้น (แต่ก็ยังต้องเขย่งอยู่ดี เพราะโช้กไม่ได้ยุบตัวลงมาง่ายๆเนื่องจากถูกเซ็ทไว้ค่อนข้างแข็ง ทว่าอย่างน้อยด้วยน้ำหนักตัวที่เบาเพียง 131 กิโลกรัม จึงทำให้ไม่ต้องพะวงเรื่องการล้มแปะมากเท่าไหร่นัก)
ไม่เพียงเท่านั้นยังทำให้ผู้ขี่สามารถใช้ช่วงเข่าหนีบรถในยามที่ต้องออกแอคชันต่างๆในท่ายืนขี่ได้สบายๆ ไม่ว่าจะเป็นตอนรูดทางขรุขระด้วยความเร็ว หรือตอนที่ต้องโดดเนินสูงๆก็ไม่รู้สึกเก้งก้างแต่อย่างใด ซึ่งนี่ก็รวมถึงความสูงและความกว้างของแฮนด์บาร์ที่ถูกออกแบบตำแหน่งมาให้เราสามารถใช้ท่วงท่าการขี่แบบเอนดูโร่ได้อย่างเป็นธรรมชาติด้วย
ส่วนขุมกำลังของมันก็แน่นอนว่าจะต้องเป็นเครื่องยนต์บล็อคสูบเดียว ความจุ 449cc ระบายความร้อนด้วยน้ำ ใช้กลไกการเปิด/ปิดวาล์วแบบ Unicam เพื่อการลดน้ำหนักและลดแรงเฉื่อยในช่วงรอบต่ำ ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามานั้นเครื่องยนต์ถูกยกมาจากตัวแข่ง CRF450R แทบทั้งลูกทั้งสิ้น เว้นเพียงในส่วนของกำลังอัดที่ถูกปรับลงจาก 13.5 : 1 เหลือ 12.0 : 1, เปลี่ยนลูกสูบจากแบบ 1 แหวน เป็นแบบ 3 แหวน เพื่อความทนทาน, เพิ่มขนาดของเพลาข้อเหวี่ยงเพื่อเพิ่มความนุ่มนวลในการไล่รอบของเครื่องยนต์ และเพิ่มแรงบิดในรอบต่ำอีก 13% เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ของ CRF450R แต่ทั้งนี้ผู้ขี่ก็ยังจะต้องคอยเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง และทำความสะอาดกรองอากาศทุกๆ 1,000 กิโลเมตรอยู่ดี เพื่ออายุการใช้งานของเครื่องยนต์ที่ยาวนาน (ซึ่งปริมาณน้ำมันเครื่องที่ต้องถ่ายแต่ละครั้งก็ไม่ได้มากมายเท่าไหร่นัก แค่คราวละ 1.1-1.4 ลิตร เท่านั้นเอง)
จากการปรับปรุงทั้งหมดที่ไล่มา ทำให้แรงบิดสูงสุดของเครื่องยนต์ CRF450RL สามารถทำได้ที่ 32 นิวตันเมตร ซึ่งแม้ว่ามันจะไม่ได้แตกต่างไปจาก CRF250L/CRF300L เท่าไหร่นัก เพราะรุ่นน้องของมันทำแรงบิดสูงสุดได้ราวๆ 26-27 นิวตันเมตร แต่ย่านแรงบิดสูงสุดของเจ้า 450 กลับมาในรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำเพียง 3,500 รอบ/นาทีเท่านั้น ซึ่งถือว่าไวกว่าน้องๆของมันมาก เพราะแรงบิดสูงสุดของรุ่นน้องนั้นกว่าจะมาก็ต้องให้เครื่องยนต์ปั่นไปถึงราวๆ 6,500 รอบ/นาที
ดังนั้น แม้แรงม้าสูงสุด ทาง Honda จะไม่ได้มีการเปิดเผยตัวเลขอย่างเป็นทางการเอาไว้ แต่จากการที่ทีมงาน MotoRival ได้ลองใช้งานจริง ก็พบว่าคาแรคเตอร์เครื่องยนต์ของ CRF450RL นั้นมีความแตกต่างจาก CRF300L อย่างเห็นได้ชัด เพราะขณะที่รุ่นน้อง ผู้ขี่หน้าใหม่จะสามารถใช้วิธีไล่รอบเพื่อไต่ระดับแรงบิดของเครื่องยนต์ได้ แต่กับเจ้า 450 นั้นไม่ใช่ เพราะการเรียกรอบของมันจะมีความติดมือ และกระตุกออกทันที่ที่เปิดคันเร่งจนแทบจะไม่สามารถคลอคันเร่งในช่วงรอบต่ำๆได้ (ถึง Honda จะมีการปรับอัตราทดเกียร์ของมันให้กว้างขึ้นแล้วก็ตาม)
ไม่เพียงเท่านั้น ครั้นจะให้ปล่อยรถไหลในรอบเดินเบา แบบค่อยๆไต่อุปสรรคไปก็ทำได้ยากเพราะดั้งเดิมเครื่องยนต์บล็อคนี้คือเครื่องยนต์รอบจัด ทำให้แรงบิดในรอบเดินเบามีไม่มากพอที่จะทำให้รถสามารถเคลื่อนที่ได้แม้ทาง Honda จะได้ทำการเพิ่มน้ำหนักของเพลาข้อเหวี่ยงเพื่อให้เครื่องยนต์มีแรงบิดในรอบต่ำอย่างที่เราได้เกริ่นไปก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม (เอาจริงๆคือถ้าใช้เกียร์ 1 ปล่อยไหลบนทางราบยังพอได้ แต่ถ้าเจอเนินเล็กๆขึ้นมาก็ต้องคลอคลัทช์ช่วยเพื่อป้องกันเครื่องฯดับอยู่ดี)
เพราะฉะนั้นกับตัวรถคันนี้ เราจึงจะต้องขี่มันด้วยการเปิดตันเร่งแบบกระแทกออกไปเลยยาวๆเท่านั้น เพื่อให้รอบเครื่องยนต์พ้นจากย่านที่เครื่องยนต์พยายามจะไต่แรงบิดอย่างปุบปับไปก่อน มิเช่นนั้นถ้าหากมารีรอคลอคันเร่งในรอบต่ำๆไปมา ก็จะพบว่ารถมีอาการกระตุกอึกอักแทบจะตลอด เรียกได้ว่า ถ้าหากเป็นมือใหม่ ที่ยังกุกกักไม่มั่นใจงานนี้มีเครียดแน่นอน เพราะมันไม่ใช่เครื่องยนต์ที่จะขี่แบบค่อยเป็นค่อยไปได้ง่ายๆ แต่ถ้าหากเป็นมือเก๋า ชอบระเบิดภูเขาเผากระท่อม ก็เปิดคันเร่งสวนข้ามอุปสรรคแบบรวดเดียวมันๆกันได้เลย
ระบบกันสะเทือนที่ให้มา ทางด้านหน้าก็จะเป็นแบบตะเกียบคู่หัวกลับขนาดแกนใหญ่ถึง 49 มิลลิเมตร ทางด้านหลังก็เป็นโช้กแก๊สเดี่ยว ทำงานร่วมกระเดื่องทดแรง และสวิงอาร์มอลูมิเนียมอย่างที่เราได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้ ซึ่งตัวโช้กทั้งด้านหน้าและด้านหลังจากเป็นของ Showa และสามารถปรับเซ็ทได้ทุกค่าในแบบเดียวกับที่ตัวแข่ง CRF450R มีให้
ไม่เพียงเท่านั้น เพื่อให้รับกับพละกำลังและความดิบของเครื่องยนต์ที่มากกว่ารถมอเตอร์ไซค์ดูอัลเพอร์โพสท์บ้านๆทั่วๆไป ทำให้การเซ็ทติ้งระบบกันสะเทือนของเจ้า CRF450RL จะแตกต่างต่างจากช่วงล่างเดิมๆของ CRF300L อย่างเห็นได้ชัด เพราะขณะที่การเซ็ทติ้งช่วงล่างเดิมๆของรุ่นน้องจะค่อนไปทางนุ่ม ยุบตัวได้ง่าย เนื่องจากความเร็วของตัวรถรุ่นน้องไม่ได้สูงมากเท่าไหร่นัก และผู้ขี่หลายคนอาจจะยังเป็นหน้าใหม่ของสายฝุ่นที่มักขี่ผ่านอุปสรรคแบบค่อยๆหย่อนไปช้าๆมากกว่า
ทางฝั่งการเซ็ทโช้กอัพที่อยู่ใน CRF450RL จึงค่อนไปทางแข็งและแน่น ซึ่งถ้าหากเพื่อนๆขี่เจ้า CRF450RL ไม่เร็วมากพอ อาการของระบบกันสะเทือนที่แสดงออกมา ก็จะออกไปทางกระเด้งกระดอนเป็นหลัก แต่ถ้าหากเพื่อนๆเริ่มชินกับตัวรถ และสามารถขี่มันได้เร็วขึ้น กล้าที่จะโดดเนินสูงขึ้น ตัวโช้กก็จะแสดงประสิทธิภาพที่แท้จริงของมันออกมา ทั้งในเรื่องของการซับแรงจากการกระโดดเนินสูงๆที่อยู่หมัด ไม่มีอาการโช้กยันง่ายๆ หรือการรูดผ่านหลุมเนินที่ไม่มีอาการดีดเลยแม้แต่น้อย เรียกได้ว่าเป็นการเซ็ทติ้งที่สร้างมาเพื่อการฝ่าอุปสรรคข้างหน้าอย่างนักบิดมือเก๋าของจริง
สรุป Honda CRF450RL รีวิว ถือเป็นรถมอเตอร์ไซค์ดูอัลเพอร์โพสต์เพอร์โพสต์ที่หากคุณยังขี่สายฝุ่นแข็งไม่พองานนี้คุณก็อาจจะเป็นฝ่ายที่ตึงกับคาแร็คเตอร์ของตัวรถที่คอยแต่จะดึงคุณไปข้างหน้า อย่างที่เราได้เกริ่นไว้ว่า “ถ้ามือไม่ถึง อย่ามาตึงกับพี่” แต่ถ้าหากคุณคือผู้ขี่ที่รู้สึกว่า CRF300L/CRF250L นั้นเริ่มไม่พอมือกับความเก่งของตัวคุณเองแล้วล่ะก็ ด้วยพื้นฐานตัวรถที่ถูกดัดแปลงมาจากตัวแข่ง CRF450R คันนี้ ทั้งในเรื่องของขุมกำลัง, ระบบกันสะเทือน, และออพชันต่างๆที่จัดว่าอยู่ในระดับเทพของสายฝุ่น รับรองว่ามันจะต้องเป็นตัวที่รับกับฝืมือของคุณได้อย่างสมน้ำสมเนื้อที่สุดในตอนนี้แน่นอน
ไม่เพียงเท่านั้นด้วยราคาตัวรถเพียง 339,000 บาท ที่ใครหลายคนอาจจะบอกว่าแพง แต่ถ้าคุณคือนักบิดสายฝุ่นพันธ์แท้ ต้องเข้าใจแน่ครับว่านี่คือราคาที่จัดว่าถูกสุดๆแล้ว เพราะไม่มีรถมอเตอร์ไซค์แนวนี้ พิกัดนี้ ออพชันเต็มแบบนี้ในบ้านเรารุ่นใดเลย ที่ผู้นำเข้าอิสระสามารถวางจำหน่ายมันในราคาที่เท่าๆกันได้ หรือต่อให้ทำได้ ก็มักจะไม่ใช่ตัวรถที่สามารถจดทะเบียนเอามาวิ่งบนถนนสาธารณะอยู่ดี
โดยหากเพื่อนๆท่านใดสนใจ Honda CRF450RL ก็สามารถรับชมตัวจริง และสอบถามข้อมูลตัวรถอื่นๆเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการ Honda BigWing ทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปครับ
ขอขอบคุณ A.P. Honda ที่ให้เกียรติทีมงาน MotoRival ได้ร่วมทดสอบ Honda CRF450RL ในครั้งนี้ครับ
รณกฤต ลิมปิชาติ Test Rider + Writer + Photo
อ่านข่าว Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านรีวิวอื่นๆเพิ่มเติมที่ได้ที่นี่
