มาถึงตอนนี้ ทุกคนน่าจะได้ยินข่าวของรถต้นแบบ Honda V3R ซึ่งเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ 3 สูบวี พร้อมระบบอัดกากาศด้วยไฟฟ้ากันไปแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่าเครื่องยนต์แปลกตาที่ว่านี้กลับไม่ใช่ของใหม่สำหรับค่ายปีกนก เพราะถ้าเราย้อนกลับไปเมื่อ 40 ปีก่อน ก็เคยทำเครื่องยนต์แบบนี้ออกมาในชื่อ NS400R แถมถูกพิสูจน์ความสามารถมาแล้วทั้งในสนามแข่ง และบนถนนจริง
จุดเริ่มต้นของตำนาน V3 นั้นต้อนย้อนกลับไปในปี 1981 Honda กำลังตั้งไข่ในการแข่งขันรายการ World Grand Prix เนื่องจากตัวแข่งในตอนนั้นอย่าง Honda NR500 ที่มาพร้อมเครื่องยนต์แบบ 4 จังหวะ 4 สูบวี พร้อมลูกสูบแบบวงรี นั้นไม่สามารถสู้กับคู่แข่งที่ใช้เครื่องยนต์ 2 จังหวะ ได้เลย
นั่นทำให้ในปี 1982 ค่ายปีกนกได้ทำการเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ตัวแข่งรุ่นใหม่อย่าง Honda NS500 ที่ยอมเปลี่ยนไปใช้เครื่องยนต์แบบ 2 จังหวะ ซึ่งเป็นรูปแบบเครื่องยนต์ที่ได้เปรียบมากกว่าในกติกาของยุคนั้น แต่ถึงอย่างนั้นมันกลับมาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ 3 สูบวี 112 องศา ซึ่งถือเป็นรูปแบบของเครื่องยนต์ที่แปลกตาเอาเรื่อง
แต่ความเปลี่ยนแปลงในครั้งนั้นก็ทำให้ Honda สามารถขึ้นมาสู้ในตำแหน่งหัวแถวได้ทันที ส่วนหนึ่งก็ต้องให้เครดิตกับนักแข่งตัวตึงอย่าง Freddie Spencer ที่พา NS500 คว้าแชมป์สนามได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่ใช้ลงแข่งขัน ก่อนที่พวกเขาจะคว้าแชมป์โลกร่วมกันได้สำเร็จในปี 1983
และแน่นอนว่าตามสูตรการตลาดในยุคนั้น รถแข่งในสนามมีอะไรดี สิ่งนั้นก็จะถูกส่งต่อมายังรถที่มีจำหน่ายจริงสำหรับคนทั่วไปด้วย เพราะในปีนี้เองที่ค่ายปีกนกได้ทำการเปิดตัว Honda MVX250F รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตเปลือย ที่มาพร้อมเครื่องยนต์แบบระบายความร้อนด้วยน้ำ 2 จังหวะ 3 สูบวี 90 องศา ปริมาตรกระบอกสูบ 249 ซีซี จ่ายเชื้อเพลิงด้วยคาบูเรเตอร์ สามารถสร้างพละกำลังสูงสุดได้ 49 Hp ที่ 9,000 รอบต่อนาที
โดยมันถูกวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น และอาจจะถูกส่งออกไปสู่ตลาดต่างประเทศบ้างเล็กน้อย นั่นทำให้มันกลายเป็นรถหายากไปโดยปริยาย นอกจากนี้อายุทางการตลาดของมัน รวมถึงรถต้นแบบที่เป็นแชมป์โลกในสนามแข่งกลับไม่ยืนยาวนัก เพราะว่า NS500 นั้นถูกแทนที่ด้วยรถรุ่นใหม่ที่ใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบวี ที่เป็นตำนานโด่งดังยิ่งกว่าอย่าง NSR500 แทนนั่นเอง
ทำให้ในปี 1985 ค่ายปีกนกก็ได้แสดงความพยายามครั้งสุดท้าย ที่จะผลักดันเครื่องยนต์แบบ 3 สูบวี ด้วยการเปิดตัวรถสปอร์ตแบบฟูลแฟริ่ง ที่เป็นเหมือนตัวแทนของรถที่คว้าแชมป์โลกร่วมกับ Freddie Spencer แต่สามารถใช้งานได้จริงบนถนนสาธารณะอย่าง Honda NS400R ซึ่งจะมาพร้อมเครื่องยนต์ 2 จังหวะ 3 สูบวี ปริมาตรกระบอกสูบใหญ่กว่าเดิมที่ 387 ซีซี สามารถสร้างพละกำลังสูงสุดได้ 72 Hp ที่ 9,500 รอบต่อนาที
ส่งกำลังด้วยเกียร์ 6 สปีด ท่อไอเสียออก 3 รู มาพร้อมรูปลักษณ์ที่เป็นรถสปอร์ตสายสนามพร้อมแหวกอากาศ ต่างกับรุ่นก่อหน้าที่ดันออกมาเป็นรถสปอร์ตเปลือย และที่สำคัญคือมันมาพร้อมลวดลายแบบเดียวกับตัวแข่ง World Gran Prix เรียกได้ว่ารถของ Freddie Spencer ในแต่ละฤดูกาลเปลี่ยนลายเป็นแบบไหน รถคันนี้ในโชว์รูมก็จะมีลายแบบเดียวกันให้เลือกด้วย
แต่ด้วยความที่ในเวลาต่อมา Honda เปลี่ยนรถแข่งในสนามจาก NS500 เป็น NSR500 ที่ใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบวี นั่นทำให้รถมอเตอร์ไซค์สำหรับถนนรุ่นอื่น ก็เปลี่ยนไปใช้เครื่องยนต์แบบเดียวกันตามไปด้วย ทำให้เครื่องยนต์แบบ 3 สูบวี เริ่มถูกลืมไปตามเวลา
จนกระทั่งการกลับมาอีกครั้งของรถตันแบบ Honda V3R ที่ครั้งนี้จะเปลี่ยนไปใช้การจุดระเบิดแบบ 4 จังหวะ ตามยุคสมัย พร้อมความหวังที่จะเข้ามาเป็นคู่แข่งกับรถสปอร์ตคลาสกลางรุ่นใหม่อย่าง Yamaha R9 หรือ Ducati Panigale V2 ซึ่งเราต้องมารอติดตามกันต่อไปว่าภาคต่อของเรื่องนี้ราวจะเป็นแบบไหน
อ่าน Bike History เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าวสาร Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่
