Ducati V4 R โกงด้วยรอบเครื่องยนต์ที่จัดกว่าคู่แข่งเกินไปใน WSBK 2019 จริงหรือไม่ ?

0

จากผลการแข่งขัน WSBK 2019 สนามเปิดฤดูกาล สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่ติดตามคงพอจะทราบกันดีว่าแสนยานุภาพของเจ้า Ducati V4 R ที่ Alvaro Bautista นั้นมีมากแค่ไหน โดยเฉพาะทางตรง ซึ่งอันที่จริงสาเหตุที่ทำให้เป็นเช่นนั้นก็คงเป็นเพราะรอบเครื่องยนต์อันแสนจะจัดจ้านของมันที่สามารถปั่นได้ถึง 16,350 รอบ/นาที (ตามกฏการแข่งขันที่เราได้เคยลงไว้ก่อนหน้า)

2019-wsbk-bautista-race1-round1-01
และจากตัวเลขรอบเครื่องยนต์ที่สูงเกินหน้าเกินตานี้เองจึงทำให้หลายคนต่างมองว่า Ducati โกงคู่แข่งเกินไปหรือไม่ ดังนั้นในวันนี้เราก็เลยจะขอนำเสนอบทสัมภาษณ์ของ Scott Smart หัวหน้ากรรมการฝ่ายเทคนิคจาก FIM ของ WSBK ที่ได้พูดถึงประเด็นนี้ พร้อมกับอธิบายถึงความเป็นมาในการคิดรอบเครื่องยนต์ของตัวแข่งแต่ละคันไว้ค่อนข้างชัดเจนว่า

“โดยพื้นฐานแล้ว เราจะนำตัวรถเดิมๆออกโรงงานมาเช็คว่ารอบสูงสุดของมันอยู่ที่เท่าไหร่ ซึ่งเอาจริงๆมันเป็นอะไรที่น่ากลัวมากตอนขึ้นไดโน่ที่โรงงาน, และนั่นจึงทำให้เราได้ค่ารอบสูงสุดของมัน หลังจากนั้นเราก็เพิ่มค่ารอบอีก 3% และได้เป็นค่าๆหนึ่งออกมา”

“หลังจากนั้น เราก็ทดสอบบนไดโนและทดสอบอยู่อย่างนั้นเป็นขั้นๆอีกครั้งเพื่อให้เราทราบว่าช่วงรอบ/นาทีใดที่ใกล้เคียงกับแรงม้าสุงสุดของเครื่องยนต์, หลังจากนั้นเราก็เพิ่มรอบให้มันอีก 1,100 รอบ, แล้วทีนี้เราก็จะได้ค่ารอบออกมา 2 ชุด (ค่าที่คิดจากเรดไลน์รถเดิมๆ บวก 3% ในตอนแรก กับ ค่ารอบตอนแรงม้าสูงสุดบวกอีก 1,100 รอบ/นาที) โดยค่าไหนที่ได้แรงม้าที่ลิมิตน้อยกว่า เราก็จะเลือกค่านั้น”

“ด้วยวิธีการนี้จะทำให้ค่ายรถไม่สามารถหลอกเราด้วยรอบปลอมๆที่สูงเกินไป, (เพราะ)เราได้ช่วงแรงม้าที่สมเหตุสมผลเพื่อหารอบสูงสุด(จุดลิมิต) และมีความสอดคล้องกับตัวรถเดิมๆออกโรงงานจริงๆ”

2019-ducati-panigale-v4r-wsbk-race-bike-10
ทีนี้เมื่อถามต่อว่าทำไมตัวแข่ง Ducati ถึงได้จำกัดเลขรอบไว้สูงแบบนั้น ? ทาง Scott Smart ก็ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า

“คือตอนที่คุณเอามัน (V4R) มาทดสอบบนไดโน มันจะสามารถรีดรอบได้ถึง 16,500 รอบ/นาที ที่เกียร์สูงสุด, ซึ่งคุณคงไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ในรถซุปเปอร์ไบค์ 1,000cc มาก่อน, และในเมื่อเกียร์อื่นๆมีลิมิตที่ 16,000 รอบ/นาที แต่ที่เกียร์สูงสุดมันกลับมีลิมิตมากกว่าคือ 16,500 รอบ/นาที, ผมแทบไม่อยากจะคิดเลยว่าท็อปสปีดที่ได้ของมันจะสูงแค่ไหน, แล้วยังไงมันก็จะต้องทำแรงม้าได้มากแน่นอน หรือคุณว่าไม่ ?”

“โดยถ้าเราอิงตัวเลข 16,000 หรือ 16,500 แล้วบวกเพิ่มอีก 3% ที่ว่าไว้ เราก็จะได้ตัวเลขที่ 16,600 รอบ หรือไม่ก็ 17,000 รอบที่เกียร์สูงสุด ซึ่งมันไม่ใช่ค่าที่ควรเป็น, แล้วที่จริง ช่วงแรงม้าสูงสุดของมันก็อยู่ที่ 15,250 รอบ ดังนั้นเราเลยเลือกเพิ่มรอบให้มันอีก 1,100 รอบแทน และได้เป็นเลข 16,350 รอบ/นาที ซึ่งนี่แหล่ะคือค่าที่เราจำกัดเอาไว้ และมันดูสมเหตุสมผลที่สุดแล้ว, แต่มันก็ยังสามารถทำความเร็วในช่วงทางตรงได้ไวสุดๆอยู่ดี”

2019-ducati-panigale-v4r-wsbk-race-bike-09
นั่นจึงเท่ากับว่า แท้จริงแล้ว ทางคณะกรรมการไม่ใช่ไม่สนเลยนะครับ ว่าค่ารอบเครื่องยนต์ของ V4R นั้นมันจะเกินหน้าเกินตาคู่แข่ง แต่ในเมื่อกฏระบุไว้ว่าค่ารอบสูงสุดที่จำกัดจะต้องอิงจากตัวเลขลิมิตของรถที่ออกโรงงาน ดังนั้นยังไงพวกเขาก็ต้องตั้งกฏจำกัดรอบเจ้าซูปเปอร์ไบค์ของ Ducati โดยอิงด้วยเลขชุดนี้ และหาทางเลือกจำกัดรอบเครื่องยนต์ที่ได้แรงม้าน้อยที่สุดแล้วดังวิธีการคิดเขากล่าวไว้ในข้างต้น เพื่อไม่ให้เหลื่อมล้ำกับคู่แข่งคันอื่นๆมากเกินไป

นอกจากนี้ หากมองไปที่รายละเอียดกฏข้ออื่นของ WSBK ดีๆ ทางคณะกรรมการยังมีมาตราการตอนรอบเครื่องยนต์ของตัวแข่งที่ชนะบ่อยเกินไปลงอีกด้วย (แต่จะช่วยได้มากแค่ไหนเราก็ยังต้องมาดูอีกที เพราะทางกรรมการยังสามารถลดรอบเครื่องยนต์ตัวแข่งที่ชนะเยอะลงได้ 250 รอบ/นาที ส่วนตัวแข่งที่ไม่ชนะเลยก็สามารถเพิ่มรอบตัวเองได้อีก 250/นาที จากตัวเลขที่กำหนดไว้ตอนต้นปี)

2019-ducati-panigale-v4r-wsbk-race-bike-12
ดังนั้นงานนี้หากจะบอกว่าทาง Ducati โกงคู่แข่งในเวที WSBK แบบ 100% ซะทีเดียวก็คงไม่ใช่ เพราะยังไงพวกเขาก็เล่นตามกติกาที่คณะกรรมการกำหนดไว้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าด้วยรอบเดิมๆของตัวรถ V4 R ที่ออกโรงงานมานั้น ถือว่าจัดจ้านกว่าคู่แข่งจริงๆ ซึ่งงานนี้หากผู้ผลิตค่ายอื่นอยากแก้เกม ก็คงมีแต่จะต้องแก้ปัญหานี้อีกทีด้วยการทำตัวรถที่ปั่นรอบได้สูงๆหรือมีแรงม้าเยอะๆตั้งแต่ออกโรงงานในปีหน้าแทนแล้วล่ะครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก MCnews

อ่านข่าว WSBK เพิ่มเติมได้ที่นี่

เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ

Share.

About Author

error: Content is protected !!