ทวนสเปค Kawasaki KLR650 2021 ก่อนพบตัวจริงในไทย พรุ่งนี้ !

แม้ยังไม่มีการยืนยันชื่ออย่างเป็นทางการ แต่ก็ค่อนเป็นเป็นที่แน่นอนแล้วว่า Kawasaki KLR650 2021/2022 คือรถมอเตอร์ไซค์โมเดลใหม่ที่ทาง Kawasaki กำลังเตรียมแผนจะเปิดตัวมันในประเทศไทยเป็นครั้งแรกในวันพรุ่งนี้ ดังนั้นเราจึงขอพาเพื่อนๆมาทวนรายละเอียดกันสักหน่อยดีกว่าครับว่า มันจะมีจุดขาย จุดเปลี่ยน หรือจุดน่าสนใจในตัวมันอย่างไรบ้าง ?

KLR650 2021 มาพร้อมกับภาพลักษณ์ใหม่ที่เน้นความแข็งแกร่ง บึกบึน และดุดัน ในฉบับแอดเวนเจอร์ทัวร์ริ่งพันธุ์แท้ที่เน้นการช้งานเชิงบุกตะลุยมากกว่า Versys 650 นอกจากนี้ยังใช้ชุดโคมไฟหน้า LED แบบใหม่ที่ยกมาจาก Z400 ส่วนไฟท้ายกับไฟเลี้ยวยังคงเป็นหลอดไส้, ไฟเลี้ยวเป็นแบบเดียวกับ Ninja 250 2011 ไฟท้ายดูเหมือนทรงของ KLX250 มาจับวางคว่ำ, และมีการติดตั้งการ์ดแฮนด์, แร็กท้าย, ยางครอบแกนโช้ก ซึ่งเป็นออพชันพื้นฐานที่รถแอดเวนเจอร์ไบค์ควรมีมาให้เสร็จสรรพ

ชุดมาตรวัดปรับใหม่ เป็นรูปแบบดิจิตอล ตามยุคสมัย

ในด้านการปรับเปลี่ยนอื่นๆ ทาง Kawasaki ก็จะมีกา่รปรับปรุงตัวรถ KLR650 รุ่นนี้ ทั้งในส่วนของวินชิลด์ใหม่ที่สามารถปรับความสูง-ต่ำได้ 2 ระดับและมีขนาดใหญ่กว่าเดิม, เพิ่มความแรงของไดชาร์จ เพื่อรองรับการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ลูกค้ามักใส่เข้ามาเพิ่มเติม

และแน่นอนว่ายังรวมถึงการเซ็ทติ้งระบบกันสะเทือนต่างๆใหม่ให้รองรับการใช้งานที่สมบุกสมบันยิ่งขึ้น ทั้งในฝั่งโช้กหน้าตะเกียบคู่หัวตั้งขนาดแกน 41 มิลลิเมตร และโช้กหลังแก๊สต้นเดี่ยวแบบมีซับแทงค์แยกที่สามารถปรับเซ็ทค่ารีบาวน์กับพรีโหลดได้ โดยจะทำงานร่วมกับชุดกระเดื่องทดแรงและสวิงอาร์มเหล็กกล่องแขนคู่, ชุดล้อเป็นแบบซี่ชวดรัดด้วยยางกึ่งหนาม ขนาด 90/90-21 และ 130/80-17 ตามลำดับหน้า-หลัง, ส่วนชุดเบรกด้านหน้าก็จะเป็นแบบจานเดี่ยว 300 มิลลิเมตร ทำงานร่วมโฟลทติ้งเมาท์คาลิปเปอร์ 2 ลูกสูบ / ด้านหลังดิสก์เดี่ยวขนาด 240 มิลลิเมตร ทำงานร่วมโฟลทติ้งเมาท์คาลิปเปอร์ 1 ลูกสูบ และมีระบบ ABS มาให้เป็นออพชันเฉพาะรุ่น

ด้านขุมกำลังของมัน แม้จะยังคงเป็นบล็อกเดิม คือบล็อกสูบเดียว 652cc DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ แต่ก็มีการปรับจูนระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดใหม่ แต่ยังใช้ระบบจุดระเบิดแบบ CDI เช่นเดิมเพื่อความสะดวกในการซ่อมบำรุง ชุดเกียร์เป็นแบบ 5 สปีด คลัทช์มือ (ไม่มีสลิปเปอร์คลัทช์) และน่าเสียดายที่ทาง Kawasaki ไม่ได้มีการเปิดเผยแรงม้าสูงสุดเอาไว้ แต่อย่างน้อยก็ระบุแรงบิดสุงสุดว่าอยู่ที่ 53 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว กับตัวรถแนวนี้ที่หนัก 213 กิโลกรัม

เฟรม | โครงเหล็ก Semi-Double Cradle
ระบบกันสะเทือนหน้า | โช้คตะเกียบคู่หัวตั้ง ขนาดแกน 41 มิลลิเมตร ช่วงยุบ 200 มิลลิเมตร
ระบบกันสะเทือนด้านหลัง | โช้คต้นเดี่ยว ช่วงยุบ 185 มิลลิเมตร ปรับเซ็ทพรีโหลดและรีบาวน์ได้ ทำงานร่วมสวิงอาร์มเหล็กกล่องแขนคู่ และกระเดื่องทดแรง Uni-Trak
ระบบเบรกด้านหน้า | ดิสก์เบรกเดี่ยว ขนาด 300 มิลลิเมตร พร้อมปั๊มโฟลทติ้งเมาท์คาลิปเปอร์ 2 ลูกสูบ พร้อมระบบ ABS
ระบบเบรกด้านหลัง | ดิสก์เบรกเดี่ยว ขนาด 240 มิลลิเมตร พร้อมโฟลทติ้งเมาท์คาลิปเปอร์ 1 ลูกสูบ พร้อมระบบ ABS
ล้อหน้า | ล้อซี่ลวด
ล้อหลัง | ล้อซี่ลวด
ยางหน้า | 90/90-21
ยางหลัง | 130/80-17
ระยะฐานล้อ | 1,540 มิลลิเมตร
มิติตัวรถ | ยาว 2,281 มิลลิเมตร, กว้าง 970 มิลลิเมตร, สูง 1,430-1,465 มิลลิเมตร
ความสูงเบาะ | 871 มิลลิเมตร
ความใต้ท้องรถ | 211 มิลลิเมตร
น้ำหนักรถรวมของเหลว | 209 กิโลกรัม