อายุ 24 ทำใบขับขี่บิ๊กไบค์ไม่ได้ จริงมั้ย ? คือคำถามที่เกิดขึ้นทันทีหลังจากนายยงยุทธ นาคแดง รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้เปิดเผยความคืบหน้าของการทำใบขับขี่บิ๊กไบค์เมื่อไม่กี่วันก่อน ดังนั้นในวันนี้เราจึงขอพาเพื่อนๆมาวิเคราะห์กันสักหน่อยดีกว่าครับว่า มันเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่ ?
ก่อนอื่นสำหรับเงื่อนไขกลุ่มผู้มีสิทธิ์ทำใบขับขี่บิ๊กไบค์ที่ระบุว่า ต้องเป็นผู้ที่มีอายุ 24 ปี ขึ้นไป ถึงจะสามารถทำได้
หากอิงจากการประกาศของ นายยงยุทธ นาคแดง ที่เปิดเผยไว้ก่อนหน้านี้ แล้วระบุว่า : กลุ่มที่ 3 กลุ่มที่ไม่เคยมีใบขับขี่รถจักรยานยนต์ประเภทใดมาก่อนเลย จะต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 24 ปีเต็ม จึงจะยื่นขอรับใบขับขี่บิ๊กไบก์ได้ และจะต้องเข้ารับการทดสอบขับขี่ และอบรมหลักสูตรการขับขี่บิ๊กไบก์ก่อน โดยจะได้รับใบขับขี่ส่วนบุคคลชั่วคราว 2 ปี
โดยหากอิงตามคำอธิบายกลุ่มนี้ ก็จะตีความหมายได้ว่า การกำหนดเกณฑ์อายุขั้นต่ำ 24 ปี สำหรับการทำใบขับขี่บิ๊กไบค์ จะมีผลเฉพาะกับผู้ที่ไม่เคยทำใบขับขี่รถจักรยานยนต์ประเภทใดๆมาก่อนเลยเท่านั้น
ดังนั้นการคำนวนอายุขั้นต่ำของผู้ที่สามารถทำใบขับขี่บิ๊กไบค์ได้จริง
จึงต้องคำนวนจากเงื่อนไขการทำใบขับขี่ของกลุ่ม 2 (และกลุ่ม 1) ที่ระบุว่า : กลุ่มที่ 2 ผู้ที่มีใบขับขี่รถจักรยายนต์ส่วนบุคคล (5 ปี) มาแล้ว 2 ปี จะต้องเข้ารับการทดสอบขับขี่ และอบอรมหลักสูตรการขับขี่บิ๊กไบก์ก่อน โดยจะได้รับใบขับขี่ส่วนบุคคล 5 ปี ต่างหาก
กล่าวคือจากเงื่อนไขของกลุ่มผู้ทำใบขับขี่บิ๊กไบค์กลุ่มที่ 2 ที่ตีความได้ว่า ผู้ต้องการทำใบขับขี่บิ๊กไบค์ ต้องมีหรือถือใบขับขี่รถจักรยานยนต์แบบชั่วคราว 5 ปี มาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี ถึงจะสามารถทำใบขับขี่รถจักรยานยนต์ชนิดนี้ได้
เพราะฉะนั้น จากกฏหมาย ที่ระบุว่า
– บุคคลจะสามารถทำใบขับขี่รถจักรยานยนต์ได้เมื่ออายุ 15 ปี ซึ่งในตอนแรกจะได้ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลแบบชั่วคราว 2 ปี
– หลังจากนั้น เมื่ออายุ 17 จึงจะสามารถต่ออายุใบขับขี่ เพื่อใช้ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลแบบชั่วคราว 5 ปี ได้
จึงทำให้ เมื่อบุคคลอายุ 17 ได้ถือใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลแบบชั่วคราว 5 ปี มาแล้ว 2 ปี เขาก็สามารถสอบใบขับขี่บิ๊กไบค์ได้เลยเช่นกันตามเงื่อนไขของกลุ่มที่ 2
นั่นจึงเท่ากับว่า “บุคคลอายุน้อยที่สุด ที่สามารถทำใบขับขี่บิ๊กไบค์ได้ ก็คือ บุคคลอายุ 19 ขึ้นไป” นั่นเอง
*อย่างไรก็ดี การประกาศเงื่อนไขทำใบขับขี่บิ๊กไบค์ สำหรับผู้ใช้รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ 3 กลุ่ม ที่ถูกเปิดเผยโดย รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) นี้ ยังเป็นเพียงแบบร่างที่ต้องเสนอกับทางกระทรวงคมนาคมเท่านั้น ไม่ใช่ข้อกำหนดอย่างเป็นทางการ ดังนั้นจนกว่าจะมีการประกาศพระราชบัญญัติบังคับใช้จริง ระหว่างนี้จึงยังมีโอกาสที่จะปรับเปลี่ยนได้เสมอ ทั้งนี้ก็เพื่อแก้ช่องโหวดทางกฏหมาย และเพื่อให้มันชัดเจนรัดกุมมากขึ้น
