หลังจากที่ในการแข่งขัน MotoGP ช่วง 2 เรซที่ผ่านมา เราได้ยินชื่อของ Miguel Oliveira กันบ่อยมากขึ้น โดยเฉพาะตอนที่เขาสามารถอาศัยจังหวะ 2 คันหน้าชุลมุนแล้วสวนคว้าชัยชนะในการศึก StyrianGP 2020 ไปได้ ดังนั้นในวันนี้เราจึงขอพาเพื่อนๆมาทำความรู้จักกับเขากันดีกว่าครับ
Miguel Oliveira หรือชื่อเต็ม Miguel Ângelo Falcão de Oliveira เกิดเมื่อวันที่ 4 มกราคม ปี 1995 ดั้งเดิมเป็นคนสัญชาติโปรตุเกสโดยเริ่มชีวิตการเป็นนักแข่งด้วยการแข่งรถ ATV ตั้งแต่อายุ 4 ขวบ หลังจากนั้นก็ผันมาแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ระดับชาติด้วยวัยเพียง 9 ขวบในรายการ Portuguese MiniGP Championship และได้รางวัลนักบิดดาวรุ่งยอดเยี่ยมไปในปี 2004 หลังจากนั้นก็คว้าแชมป์ศึกดังกล่าวได้ในปี 2005 และ 2006 รวมถึงเป็นแชมป์รายการ Metrakit World Festival ของประเทศสเปนในทั้งสองปีเดียวกันด้วย
ต่อมาในปี 2007 เขาก็ไปคว้าแชมป์ศึก Mediterranean PreGP 125, และพอเข้าสู่ปี 2009 ก็ได้อันดับ 3 ในศึก Spanish championship และข้ามมาสู่ปี 2011 ก็เป็นปีแรกที่เขาได้เลื่อนขั้นมาสู่การแข่งขันในเวทีระดับ World GranPrix (ที่นี่Moto3) ภายใต้สังกัดทีม Andalucia Banca Civica (ใช้รถ Aprilia) แต่ได้ไปเพียงแค่ 44 แต้มและจบอันดับบนตารางคะแนนตอนสิ้นปีไปด้วยอันดับ 14 โดยมีผลงานดีสุดคืออันดับ 7 ที่สนามบ้านเกิดตนเอง (Autódromo do Estoril)
และในปี 2012 Oliveira ก็ได้ย้ายมาสู่ทีมใหญ่ Estrlla Galicia 0,0 โดยมีส่วนช่วยในการพัฒนารถแข่งของ Suter-Honda โดยสามารถขึ้นโพเดี้ยมไปได้ 2 เรซ นอกนั้นก็ไม่เคยหลุด Top 10 แต่พลาดล้มไปถึง 5 เรซ ทำให้มีคะแนนสะสมตอนสิ้นปีไป 114 แต้มและได้อันดับ 8 บนตารางคะแนน
จนในปี 2013-2014 เขาก็ยังขี่รถที่ใช้เฟรมของ ที่นี่Suter เช่นเดิม แต่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ของ Mahindra ที่พัฒนามาจากเครื่องยนต์ของ Honda เมื่อปีก่อน ซึ่งแม้ในปี 2013 เขาจะขึ้นโพเดี้ยมได้เพียงครั้งเดียว แต่อย่างน้อยก็พลาดล้มไปแค่ 1 เรซ นอกนั้นก็เกาะกลุ่มหน้าได้ทั้งหมด จึงมีแต้มในกระเป๋าตอนสิ้นปี 150 คะแนนและจบอันดับ 6 ส่วนในปี 2014 ดูเหมือนฟอร์มจะดรอปลงไป เพราะอันดับป้วนเปี้ยนอยู่แถว 10 ต้นๆเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้มีแต้มรวมเพียง 110 คะแนนและจบอันดับ 10 ตอนสิ้นปี
.
อย่างไรก็ดีในปี 2015 Oliveira ก็ได้เข้ามาสู่ทีมใหญ่ที่ปูทางเขาขึ้นสู่เวทีระดับ MotoGP นั่นคือ Red Bull KTM Ajo ซึ่งพอเขาได้มาอยู่ในสังกัดทีมนี้เขาก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมทันที ด้วยการเป็นนักบิดโปรตุเกสคนแรกที่คว้าแชมป์ในศึกระดับ World GranPrix ได้ที่สนาม Mugello หลังจากนั้นก็คว้าชัยได้อีก 5 เรซ จบที่ 2 อีก 3 เรซ แต่น่าเสียดายที่สุดท้ายเค้าก็แพ้คะแนนให้กับแชมป์โลก Moto3 ในปีนั้นอย่าง Danny Kent ที่ฟอร์มดีกว่าอยู่ดี (Kent มี 260 แต้ม Oliveira มี 254 แต้ม)
ทว่าด้วยผลงานที่น่าประทับใจ จึงทำให้ในปี 2016 เขาได้เลื่อนขั้นมาแข่งกับ Leopard Racing ในรุ่น Moto2 ทันที โดยใช้เฟรมแข่งของ Kelex ผนวกกับเครื่องยนต์ CBR600RR ของ Honda แถมยังเป็นการร่วมทีมกับคู่แข่งคนสำคัญอย่าง Danny Kent แต่อาจจะด้วยความที่ยังปรับตัวไม่ทัน หรือไม่ถูกกับเฟรมของ ที่นี่Kalex จึงทำให้เขาทำผลงานได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก เพราะเข้าเส้นชัยดีสุดได้แค่เพียงอันดับ 8 ไป 1 ครั้ง อันดับ 9 อีก 2 ครั้ง และนอกนั้นก็อยู่อันดับ 10 กว่าๆ และไม่สามารถเก็บแต้มในการแข่งขันได้เลยเพราะพลาดล้มไปอีก 4 เรซ ไม่ได้ลงแข่งขันอีก 4 เรซ เพราะอาการบาดเจ็บ จึงจบอันดับบนตารางคะแนนสะสมในปีดังกล่าวด้วยอันดับ 21
แต่ในที่สุด พอเข้าสู่ปี 2017 Oliveira ก็กลับมาสู่อ้อมอกทีมเดิมอีกครั้ง นั้นคือ Red Bull KTM Ajo ที่พึ่งลงแข่งในรุ่น Moto2 เป็นครั้งแรกด้วยเช่นกัน โดยในครั้งนี้เขาก็ได้มาอยู่กับทีมเมทในรุ่น Moto3 อีกครั้งอย่าง Brad Binder และดูเหมือนว่าเขาจะเข้ากันกับเฟรมท่อเหล้กถักของ KTM ได้เป็นอย่างดีจึงทำให้ทำผลงานที่ยอดเยี่ยมได้อยู่เรื่อยๆโดยเฉพาะในช่วงท้าย ที่่พาตัวแข่งของทีมเข้าเส้นชัยในอันดับ 1 ไปได้ถึง 3 เรซติดจนปิดฤดูกาล ซึ่งในการคว้าชัยครั้งแรกที่ Phillips Island ถือเป็นชัยชนะแรกของ KTM ในการแข่งขันรุ่นกลางนี้ด้วย ทว่าในท้ายที่สุดเขาก็จบอันดับตอนสิ้นปีได้เพียงอันดับ 3 เท่านั้น ด้วยคะแนน 241 แต้ม
Oliveira, Moto2, Jerez test 2018
อย่างไรก็ดีในช่วงสุดท้ายของการแข่งขัน SpanishGP ทาง KTM ก็ได้มีการประกาศว่า Miguel Oliveira นั้น จะเป็นนักบิดคนใหม่ของพวกเขาในสังกัด Red Bull KTM Tech3 หรือ KTM MotoGP ทีมรอง ของปี 2019 จับคู่กับ Hafizh Syahrin ที่ย้ายมาจาก Yamaha Tech3 ซึ่งด้วยความที่ตอนนั้นตัวแข่งของ KTM ในรุ่นใหญ่อย่างเจ้า RC16 ยังมีสรรถนะที่เป็นรองตัวแข่งคันอื่นๆอยู่หลายขุม ประกอบกับการเซ็ทอัพที่มีข้อมูลในการตัดสินใจน้อยมากๆของทีม จึงทำให้ Oliveira แทบไม่เคยขึ้นมาอยู่ในอันดับ Top 10 ได้เลย และเก็บแต้มรวมตอนสิ้นปีไปได้แค่เพียง 33 แต้ม จบอันดับ 17 บนตารางคะแนนสะสม
แต่พอเข้าสู่ปี 2020 ดูเหมือนว่าตัวแข่ง KTM RC16 จะถูกพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้ใน 5 เรซที่ผ่านมา เขาสามารถเกาะอันดับ Top 10 ได้ทุกเรซ แต่อาจจะมีการพลาดล้มไป 2 เรซ ทั้งพลาดเอง และไปเกี่ยว Pol Espagaro ล้ม แต่อย่างน้อยในการแข่งขันล่าสุดที่ประเทศออสเตรีย เขาก็สามารถคว้าชัยในศึกดังกล่าวไปได้ ซึ่งนี่ถือเป็นการคว้าชัยครั้งแรกของนักบิดสัญชาติโปรตุเกสในการแข่งขัน MotoGP และยังเป็นการคว้าชัยครั้งแรกของทีมรองอย่าง Tech3 ด้วย ซึ่งผลงานของเขาหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรอีกบ้าง ก็รอติดตามไปพร้อมๆกันครับ
อ่านข่าว MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ
