MotoGP การแข่งขันรถสูตรสองล้อที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก แน่นอนว่าด้วยความที่เป็นรถสูตร(Formula) รถแข่งแต่ละคันจะต้องถูกสร้างขึ้นภายใต้กติกาและข้อกำหน้ดที่เข้มงวด และหนึ่งในนั้นคือเรื่องของ “น้ำหนักขั้นต่ำของรถแข่ง” ซึ่งในรุ่นใหญ่ได้มีการกำหนดไว้ว่าจะต้องไม่ต่ำกว่า 157 กิโลกรัม แต่รู้หรือไม่ว่าทำไมต้องมีการกำหนดน้ำหนักขั้นต่ำ ทั้งที่รถแข่งต้องพยายามลดน้ำหนักเพื่อให้เร็วกว่าคู่แข่งแท้ ๆ
เหตุผลที่การแข่งขัน MotoGP รวมถึงการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตรายการอื่นต้องมีการกำหนดน้ำหนักขั้นต่ำ ก็เป็นผลมาจากความพยายามในการควบคุมต้นทุนของทีมแข่ง เนื่องจากการทำให้รถแข่งของตัวเองมีน้ำหนักเบาจะช่วยเพิ่มอัตราเร่งและความเร็วสูงสุดได้ แต่วัสดุที่มีน้ำหนักเบาก็ล้วนมีราคาแพง การป้องกันไม่ให้รถแข่งมีน้ำหนักเบาเกินไป จะช่วยตัดข้อได้เปรียบด้านงบประมาณของทีมขนาดใหญ่ และช่วยรักษาทีมขนาดเล็กให้อยู่ในการแข่งขันต่อไป จะเรียกว่าเป็นการทำเพื่อความตื่นเต้นของการแข่งขันก็ว่าได้
แต่ถึงอย่างนั้นรายการอื่นอาจมีวิธีคำนวนน้ำหนักที่ต่างกันออกไป ยกตัวอย่างของ MotoGP ที่มีการกำหนดน้ำหนักขั้นต่ำของตัวรถเปล่าไว้ที่ 157 กิโลกรัม และไม่ได้มีการคิดน้ำหนักของนักแข่งรวมไปด้วย แต่ในฝั่งของ Moto2 และ Moto3 จะมีการคำนวนน้ำหนักของรถแข่งรวมกับน้ำหนักของนักแข่ง โดยที่รายการคลาสกลางนั้นจะมีการกำหนดน้ำหนักรวมขั้นต่ำไว้ที่ 217 กิโลกรัม ส่วนรายการน้องเล็กจะมีการกำหนดน้ำหนักรวมไว้ที่ 152 กิโลกรัม
โดยการกำหนดน้ำหนักแต่ละแบบไม่ว่าจะรวมหรือไม่รวมน้ำหนักตัวนักแข่ง จะมีข้อดีและข้อเสียต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวของนักแข่งที่อยู่ในกติกานั้น ยกตัวอย่างเช่นใน MotoGP ที่มีแค่การกำหนดน้ำหนักรถแข่ง นักแข่งที่ตัวเล็กมีน้ำหนักน้อยก็จะได้เปรียบมากกว่า เนื่องจากเครื่องยนต์มีภาระน้อยกว่า ทำให้ทำอัตราเร่งและความเร็วได้สูงกว่า
ในขณะที่รุ่น Moto2 และ Moto3 ที่มีการกำหนดน้ำนักรวม นักแข่งที่ตัวเล็กนอกจากจะไม่มีข้อได้เปรียบแบบกติกาก่อนหน้าแล้ว นักแข่งเหล่านั้นยังต้องควบคุมรถที่มีน้ำหนักมากขึ้นเมื่อเทียบกับนักแข่งคนอื่น(ยิ่งนักแข่งตัวเบา รถยิ่งหนักมากขึ้นเพื่อให้น้ำหนักรวมถึงกำหนด) ทำให้เป็นภาระของร่างกายมากกว่าในช่วงเข้าโค้ง แต่ถึงอย่างนั้นก็มีการเรียกร้องกติกาแบบนี้ให้มีการนำมาใช้ในรุ่น MotoGP ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะจากปากของนักแข่งที่ตัวใหญ่
อ่านข่าวสาร MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่
