รีวิว Ducati Panigale V4 S รถซุปเปอร์ไบค์ดีกรีแชมป์โลก WSBK 2 ปีซ้อน และ คว้า Bike of the year 2024
รีวิว Ducati Panigale V4 S รถ Superbike โบโลญญ่า ในงาน Ducati Trackday 2024
หลังจากที่ MotoRival เราได้ขี่ Panigale V4 S 2022 ตัวล่าสุด ไปเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมาในสนามพีระ คาร์ท กับการที่เราได้เป็นคณะกรรมการทดสอบ Bike of the year 2024
ล่าสุดเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทางเราได้มีโอกาสไปร่วมกิจกรรม ducati track day 2024 และได้หวดกันเต็มๆอีกครั้งหนึ่งกับเจ้า panigale v4s ใน track ช้าง กันอีกครั้ง
ต้องบอกก่อนว่าเมื่อ 4 ปีที่แล้วเราได้มีโอกาส รีวิว Panigale V4 2020 กันไปแล้ว ซึ่งผมจะขอพูดถึงความแตกต่างจากตัวล่าสุดกับปี 2020 กันอีกเล็กน้อย
รายละเอียดภายนอกที่เราเห็นได้เด่นชัดเลยก็คือตัว wing จะมีขนาดเล็กลง
แต่เคลมว่ามีแรงกด down force เท่าเดิม คือ 30 กิโลกรัมที่ความเร็ว 270 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ส่วนแฟริ่งทางด้านข้าง มีการเพิ่มช่องระบายอากาศทางด้านล่าง
ถังน้ำมัน Reshape เล็กน้อย เบาะนั่งมีการเปลี่ยนวัสดุและเพิ่มสีแดงเข้ามา
หน้าจอสี TFT มีการปรับ interface ทำให้มองรายละเอียดได้ง่ายยิ่งขึ้น
และเพิ่มไฟชิฟท์ไลท์มาอีก 2 ดวง
ขณะที่เครื่องยนต์ Desmosedici Stradale วาง 90° บล็อก V4 ความจุ 1,103cc ได้ปรับปรุงในเรื่องของระบบระบายความร้อน และระบบไอเสียใหม่
ได้กำลัง +1.35PS เป็น 215.5 PS@13,000rpm แต่แรงบิดตกเล็กน้อย เหลือ 123.6Nm@9,500rpm
มีการปรับเพิ่มอัตราทดเกียร์ 1, 2, และ 6 เพื่อให้ควบคุมอัตราเร่งในช่วงความเร็วต่ำทำได้ง่ายขึ้น พร้อมปลายที่ไหลกว่าเดิม
เข้าที่การรีวิว เริ่มที่ท่านั่ง
ความสูงเบาะ 835 มม. มันถือเป็นรถซุปเปอร์ไบค์ที่สูงมากที่สุดคันนึงเลย ผมสูง 175 ซม. สวมรองเท้าเรซซิ่งบูท ส้นเท้ายังลอย
นอกจากนั้นในเรื่องของขาตั้งก็ยังดูจะเป็นปัญหาในเวลาเตะขาตั้งลงตอนเข้า pit เหมือนเดิม จุดนี้เป็นมาตั้งแต่ v4 ตัวแรก ก็คือถ้าไม่มีสต๊าฟมาคอยจับรถเตะขาตั้งให้เรา การที่จะใช้ส้นเท้าเกี่ยวขาตั้งออกมาแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ยกเว้นคันที่มีการติดตั้งน็อตเพิ่มเติม จะทำให้สามารถใช้ส้นเท้าเกี่ยวตรงช่วงน็อตตรงนี้ออกมาได้ง่ายขึ้น
สำหรับตัวถังน้ำมันและก็แฮนด์คลิปออน ก็ยังให้ท่านั่งหมอบขี่เรซซิ่งได้เป็นอย่างดีกระชับ
ด้านพละกำลังเครื่องยนต์ ระดับ 215 PS บอกเลยว่ามันแรงมากๆในการขี่ track day ครั้งนี้ผมใช้เพียงแค่โหมด sport เท่านั้น เพราะดูจะคุมคันเร่งได้ดีง่ายกว่า race mode รู้สึกเลยว่าเพียงขี่ไปประมาณ 3-4 รอบก็เริ่มจะหมดแรงแล้ว เมื่อเทียบกับการมาขีดแท็กเดย์ที่สนามช้างหลายๆครั้งผมขี่รถช่วงประมาณ 100 กว่าแรงม้า ยังสามารถขี่ได้จนจบ session 20 นาที ได้อย่างสบาย แต่ ducati track day ครั้งนี้ session นึง แค่ 15 นาทีเท่านั้น ผมขี่รอบละประมาณ 1ปลาย-2 นาที 3-4 รอบก็เริ่มจะหมดแรงแล้ว รู้สึกเลยว่าการขี่รถแรงๆระดับ 200 กว่าม้าร่างกายต้องฟิตมากพอสมควร
เครื่องยนต์ v4 ยังมีพละกำลังที่รุนแรงเพราะสุดทางตรงก่อนเบรคที่ t3 ผมทำความเร็วสูงสุดบนมาตรวัดได้ 294 kmph ถือได้ว่าเป็นรถเดิมๆจากโรงงานที่ผมทำความเร็วสูงสุดได้ในสนามช้างฯ แล้ว
นอกจากนั้นตัวควิกชิพเตอร์ ก็ยังสามารถทำหน้าที่เนียนดีผมไม่พบอาการเข้าเกียร์ว่าว เหมือนรถซุปเปอร์ไบค์บางรุ่น
อย่างไรก็ดีสำหรับเครื่อง V4 ยังมีข้อสังเกตเล็กน้อยก็คือถ้าเกิดเราเข้าโค้ง low speed ด้วยรอบเครื่องต่ำๆ จะพบอาการ ฮึกฮักกระตุกอยู่บ้าง ในสไตล์ของเครื่องยนต์ V4 อาจจะไม่ได้เดินคันเร่งขึ้นแบบ Smooth เหมือนอย่างเครื่อง 4 สูบเรียง
ด้านการคอนโทรลรถ Panigale V4 s มันถือว่าทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมเพราะเป็นรถที่มีพละกำลังสูงขณะที่น้ำหนักเบา พลิกรถได้ดีคล่องแคล่วฉับไว เพราะน้ำหนักตัว dry weight อยู่ที่เพียงประมาณ 174 กิโลกรัม
นอกจากนั้นตามที่บอกไปว่า วิง ของมันมีแรงกด Downforce สูงทำให้ผมสามารถใส่คันเร่งเต็มได้ช่วงเข้า T2 ช่วงความเร็ว 280+ ได้โดยที่หน้ายังนิ่งอยู่ แตกต่างจากรถซุปเปอร์ไบค์คันอื่นๆ
นอกจากนั้นตัว V4S ที่เป็นช่วงล่างแบบปรับไฟฟ้า มันก็สามารถทำงานได้อย่างชาญฉลาดโดยที่เราไม่ต้องมาเซ็ตค่าเองแบบแมนนวล เหมาะสมกับคนที่ขี่ track day แบบ enjoy riding เช่นเรา ที่ไม่ต้องการความวุ่นวายในการมาเซ็ตช่วงล่างใหม่
ส่วนประสิทธิภาพของระบบเบรค ก็ยังจัดเต็มแบบสุดตารางสมรรถนะรถซุปเปอร์ไบค์ แต่ผมยังแอบรู้สึกอยู่นิดหน่อยก็คือตัว Engine Brake (EBC) แม้ว่าจะปรับให้มันหน่วงหนักแล้วก็ยังรู้สึกว่ามันยังมีแรง EBC น้อยไปอยู่หน่อย
สรุป รีวิว Panigale V4 S มันถือเป็นซุปเปอร์ไบค์ที่สมดีกรี Thailand Bike of the year 2024 และแชมป์โลก WSBK 2 ปีซ้อน ขี่ดีเดิมๆแรงสะใจ แต่คนขี่ จะต้องฟิตร่างกายพอสมควรเลย
ราคา Ducati Panigale V4 S อยู่ที่ 1,329,000-
อ่านข่าว Ducati เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านรีวิว เพิ่มเติมได้ที่นี่